ทะเลแดงยังระอุ เรือโดนโจมตีลำที่ 3 ในรอบสัปดาห์ ค่าขนส่งสินค้าพุ่งต่อเนื่อง จับตาดีมานด์ขนส่งและค่าขนส่งพุ่งแรงสุดใน 2-3 สัปดาห์ข้างหน้า
วันที่ 18 มกราคม 2024 สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า เกิดเหตุเรือขนส่งสินค้าอีกลำหนึ่งโดนโจมตีด้วยโดรนทางตอนใต้ของประเทศเยเมน ถือเป็นเรือลำที่ 3 ที่โดนโจมตีในรอบสัปดาห์นี้ ซึ่งตอกย้ำถึงอันตรายที่ทวีความรุนแรงต่อเรือที่เดินเรืออยู่ในเส้นทางการขนส่งที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของโลก
กองทัพเรือสหราชอาณาจักรระบุว่า จุดเกิดเหตุโจมตีดังกล่าวอยู่ห่างจากเมืองเอเดนของประเทศเยเมนไปทางตะวันออกเฉียงใต้เป็นระยะทางประมาณ 60 ไมล์ (97 กิโลเมตร) และเรือดังกล่าวเป็นเรือขนส่งสินค้าเทกอง
ขณะที่กองบัญชาการกลางสหรัฐระบุว่า เรือที่ถูกโจมตีเป็นเรือ “M/V Genco Picardy” ที่สหรัฐอเมริกาเป็นเจ้าของ โดรนโจมตีทางเดียวที่ก่อเหตุนี้ถูกปล่อยออกมาจากพื้นที่ที่อยู่ในการควบคุมของกลุ่มฮูตีในประเทศเยเมน
ตามข้อมูลของบริษัทข่าวกรอง แอมเบรย์ อะนาไลติกส์ (Ambrey Analytics) และบริษัทที่ปรึกษาการประกันความเสี่ยงทางทะเลไดอะพลัส (Diaplous) ระบุว่า เรือลำนี้เป็นเรือขนส่งสินค้าลำที่ 3 ที่ถูกโจมตีในสัปดาห์นี้
ฝั่งสหรัฐและอังกฤษเปิดฉากโจมตีกลุ่มกบฏฮูตีในเยเมน เมื่อวันที่ 11 มกราคม 2024 โดยประธานาธิบดีโจ ไบเดน (Joe Biden) กล่าวว่า การโจมตีต่อกลุ่มฮูตีในเยเมนคือข้อความที่ชัดเจนว่า สหรัฐและพันธมิตรของเราจะไม่ยอมให้มีการโจมตีผู้คนของตน หรือยินยอมให้ผู้ที่ไม่เป็นมิตรคุกคามเสรีภาพในการเดินเรือ
และนับตั้งแต่ปลายสัปดาห์ที่แล้ว กองทัพเรือสหรัฐและหน่วยงานด้านการค้าได้ให้คำแนะนำแก่เรือสินค้าว่า การรักษาความปลอดภัยในทะเลแดงตอนใต้ยังคงไม่เสถียร และแนะนำให้หลีกเลี่ยงพื้นที่ดังกล่าว
ล่าสุด กองทัพสหรัฐได้โจมตีกลุ่มกบฏฮูตีในพื้นที่เยเมนอีกครั้งในวันที่ 17 มกราคม ซึ่งนับเป็นการโจมตีครั้งที่ 4 นับจากเปิดฉากโจมตีในวันที่ 11 มกราคม
ทั้งนี้ การโจมตีของฮูตีที่เริ่มตั้งแต่ปลายปีที่ผ่านมา เป็นเหตุให้กองเรือตู้คอนเทนเนอร์ส่วนใหญ่ของโลกต้องล่องเรืออ้อมแอฟริกาเป็นระยะทางหลายพันไมล์ แทนการใช้เส้นทางลัดผ่านทะเลแดง
ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา เรือประเภทอื่น ๆ เช่น เรือบรรทุกน้ำมันก็ได้ลดจำนวนการเดินทางผ่านภูมิภาคนี้เช่นกัน นอกจากนี้มีเรือจำนวนมากขึ้นเรื่อย ๆ ที่พยายามดำเนินการเพื่อระบุว่าตนไม่มีความเชื่อมโยงกับอิสราเอล เพื่อพยายามให้ล่องเรือผ่านเส้นทางนี้ได้อย่างปลอดภัย
ผู้สื่อข่าว “ประชาชาติธุรกิจ” รายงานเพิ่มเติมว่า อัตราค่าขนส่งทางทะเลเพิ่มขึ้นมากหลังจากที่เกิดการโจมตีเรือในทะเลแดงเมื่อปลายปีที่ผ่านมา และยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากการขนส่งสินค้าผ่านเส้นทางทะเลแดงยังคงไม่ปลอดภัย
จากการสำรวจข้อมูลจาก Freightos (เฟรตทอส) แพลตฟอร์มการจองและการชำระเงินเรือขนส่งสินค้า พบว่านับตั้งแต่วันที่ 6 เดือนธันวาคม 2023 ก่อนที่เรือส่วนใหญ่จะต้องเปลี่ยนเส้นทางการขนส่งไปอ้อมทวีปแอฟริกา จนถึงสัปดาห์ปัจจุบัน ค่าขนส่งสินค้าเพิ่มขึ้นแล้วสูงสุดกว่า 300% ในบางเส้นทาง
ค่าระวางเรือ หรือต้นทุนค่าขนส่งสินค้าประจำสัปดาห์ ณ วันที่ 16 มกราคม 2024 ในเส้นทางต่าง ๆ เทียบกับ ณ วันที่ 6 ธันวาคม 2023 มีการเปลี่ยนแปลง ดังนี้
เส้นทางเอเชีย-ฝั่งตะวันตกของสหรัฐ ณ วันที่ 16 มกราคม 2024 ค่าระวาง 2,588 ดอลลาร์ต่อ 1 หน่วย (ตู้คอนเทนเนอร์ขนาด 40 ฟุต) ณ วันที่ 6 ธันวาคม 2023 ค่าระวาง 1,620 ดอลลาร์ต่อ 1 หน่วย คิดเป็นเพิ่มขึ้น 59.75%
เส้นทางเอเชีย-ฝั่งตะวันออกของสหรัฐ ณ วันที่ 16 มกราคม 2024 ค่าระวาง 4,278 ดอลลาร์ต่อ 1 หน่วย (ตู้คอนเทนเนอร์ขนาด 40 ฟุต) ณ วันที่ 6 ธันวาคม 2023 ค่าระวาง 2,367 ดอลลาร์ต่อ 1 หน่วย คิดเป็นเพิ่มขึ้น 80.74%
เส้นทางเอเชีย-ยุโรปเหนือ ณ วันที่ 16 มกราคม 2024 ค่าระวาง 4,757 ดอลลาร์ต่อ 1 หน่วย (ตู้คอนเทนเนอร์ขนาด 40 ฟุต) ณ วันที่ 6 ธันวาคม 2023 ค่าระวาง 1,243 ดอลลาร์ต่อ 1 หน่วย คิดเป็นเพิ่มขึ้น 282.70%
เส้นทางเอเชีย-เมดิเตอร์เรเนียน (ยุโรปใต้) ณ วันที่ 16 มกราคม 2024 ค่าระวาง 5,440 ดอลลาร์ต่อ 1 หน่วย (ตู้คอนเทนเนอร์ขนาด 40 ฟุต) ณ วันที่ 6 ธันวาคม 2023 ค่าระวาง 1,670 ดอลลาร์ต่อ 1 หน่วย คิดเป็นเพิ่มขึ้น 225.75%
Freightos ระบุเตือนในรายงานเมื่อวันที่ 16 มกราคมว่า สถานการณ์ด้านการขนส่งสินค้า ในแง่ความสามารถในการรองรับการขนส่ง จะเลวร้ายที่สุดในช่วงสองสามสัปดาห์ข้างหน้า เนื่องจากมีความต้องการขนส่งสินค้าสูงในช่วงก่อนเทศกาลตรุษจีน ซึ่งความต้องการขนส่งสินค้าที่เพิ่มขึ้นมีแนวโน้มที่จะทำให้อัตราค่าขนส่งเพิ่มขึ้นอีก