คอลัมน์ : ชีพจรเศรษฐกิจโลก ผู้เขียน : ไพรัตน์ พงศ์พานิชย์
“คลองสุเอซ” เส้นทางเดินเรือสินค้าที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ตั้งอยู่ทางด้านตะวันออกของประเทศอียิปต์ เชื่อมต่อทะเลเมดิเตอร์เรเนียนกับทะเลแดง หากแล่นเรือต่อลงมา ก่อนที่จะออกสู่อ่าวเอเดน มุ่งสู่มหาสมุทรอินเดีย เรือทุกลำจำเป็นต้องแล่นผ่านช่องแคบ ๆ เรียกกันว่า “บับ-เอล-มันดับ” ช่องแคบที่ด้านตะวันตกเป็นประเทศจิบูตี ในทวีปแอฟริกา ส่วนด้านตะวันออกคือประเทศเยเมนในตะวันออกกลาง
“น้ำมันดิบ” ที่ส่งมายังเอเชีย หรือผ่านไปยังยุโรป คิดเป็นสัดส่วนราว 10% ของการค้าน้ำมันทางทะเลทั้งหมดของโลก และสินค้าอีกจำนวนมหาศาล คิดเป็นมูลค่าไม่ต่ำกว่า 1 ล้านล้านดอลลาร์ต่อปี หรือราว 30% ของสินค้าทั่วโลก จำเป็นต้องผ่านจุดนี้ทั้งสิ้น
แต่นับตั้งแต่ 15 ธันวาคม 2023 ที่ผ่านมา บริษัทขนส่งสินค้าทางเรือขนาดใหญ่ที่สุดของโลก 4 ใน 5 บริษัท ทยอยกันระงับเส้นทางเดินเรือขนส่งสินค้าผ่านแถบนี้ทั้งหมด เนื่องจากกองกำลังกบฏฮูตี ที่ได้รับการฝึกและหนุนหลังจากอิหร่าน ประกาศให้เป็นเส้นทาง “ห้ามผ่าน” และโจมตีเรือสินค้าทุกลำที่ใช้เส้นทางนี้ เพื่อแสดงการสนับสนุนต่อปาเลสไตน์ในฉนวนกาซา
15 ธันวาคมที่ผ่านมา ฮูตี โจมตีเรือสินค้าหนึ่งลำด้วยโดรน ข่มขู่เรืออีกหนึ่งลำ จากนั้นก็ยิงจรวดแบบบอลลิสติกอีก 2 ลูก เข้าใส่เรือสินค้า “เอ็มวี พาลาติอุมที่ 3” หนึ่งในจำนวนนั้นโดนเป้าหมายอย่างจัง
16 ธันวาคม เรือรบ “ยูเอสเอส คาร์นีย์” ของสหรัฐอเมริกา ซึ่งถูกส่งเข้าประจำการในบริเวณนั้น ยิงโดรน 14 ลำร่วง เพื่อป้องกันการโจมตี ในขณะที่ เอสเอ็มเอส ไดมอนด์ เรือรบของอังกฤษ ทำลายโดรนอีกส่วนหนึ่ง
เรือขนส่งสินค้าขนาดใหญ่ที่สุ่มเสี่ยงต่อการถูกโจมตีจนได้รับความเสียหาย ลูกเรือบาดเจ็บล้มตาย จำต้องประกาศระงับเส้นทางเดินเรือผ่านทะเลแดง เริ่มด้วย เมอส์ก (Maersk) กับ ฮาแพ็ก-ลอยด์ (Hapag-Lloyd) ในวันที่ 15 ธันวาคม ต่อด้วย ซีเอ็มเอ ซีจีเอ็ม และเอ็มเอสซี (CMA CGM และ MSC) ในวันถัดมา โดยให้เรือส่วนหนึ่งเปลี่ยนไปใช้เส้นทางอ้อมแหลมกู๊ดโฮป “จนกว่าเส้นทางทะเลแดงจะปลอดภัย”
ทั้ง 4 บริษัทถือเป็นบริษัทยักษ์ใหญ่ในการขนส่งสินค้าทางเรือด้วยตู้คอนเทนเนอร์อันดับต้น ๆ ของโลก รวมปริมาณสินค้าที่จัดส่งเข้าด้วยกันคิดเป็นสัดส่วนสูงถึง 53% ของการขนส่งสินค้าทางเรือทั้งหมด
วิกฤตทะเลแดงครั้งนี้ส่งผลสะเทือนใหญ่หลวงในสองทาง ทางหนึ่งคือส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลก อันเป็นผลจากการสูญเสียเส้นทางการค้าสำคัญของโลกในระยะเวลายาวนาน อีกทางหนึ่งก็คือ เหตุการณ์ครั้งนี้เป็นชนวนให้ความเสี่ยงที่สงครามจะลุกลามขยายวงในตะวันออกกลางสูงขึ้นโดยฉับพลัน
ในทางเศรษฐกิจ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นส่งผลกระทบต่ออียิปต์มากที่สุด การเก็บค่าผ่านทางคลองสุเอซ ถือเป็นหนึ่งในแหล่งที่มาของรายได้ที่สำคัญที่สุดของประเทศนี้ และยิ่งทวีความสำคัญมากยิ่งขึ้น เมื่ออียิปต์กำลังเผชิญกับวิกฤตการณ์ทางการเงินครั้งใหญ่อยู่ในเวลานี้
ที่น่าสนใจก็คือ “อิสราเอล” กลับได้รับผลกระทบน้อยกว่ามาก อิสราเอลทำการค้าผ่านทะเลแดงคิดเป็นสัดส่วนเพียง 5% ของการค้าทั้งหมดเท่านั้น
การค้าทางเรือของโลกจะได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แน่นอน เรือสินค้าสามารถเปลี่ยนเส้นทางใหม่ได้ก็จริง แต่ต้นทุนย่อมเพิ่มขึ้นโดยปริยาย เมื่อต้องใช้เวลาในการแล่นเรืออ้อมแหลมกู๊ดโฮป เพิ่มขึ้นจากเดิมอย่างน้อย 9 วัน ในขณะที่ค่าพรีเมี่ยมในการประกันภัยก็พุ่งสูงขึ้นตามไปด้วย
เมื่อครั้งที่การสัญจรผ่านคลองสุเอซถูกระงับไปในช่วงเวลาไม่นานนัก ด้วยเหตุเรือ “เอฟเวอร์กีฟเวน” ของบริษัทเอฟเวอร์กรีนจากไต้หวัน เกยตื้นขวางคลองนาน 6 วัน ในปี 2021 ความเสียหายเกิดขึ้นมหาศาล คิดเป็นมูลค่า 400 ล้านดอลลาร์ หรือกว่า 12,000 ล้านบาทต่อชั่วโมง เพราะภาวะตึงตัวในระบบห่วงโซ่ซัพพลายที่สะเทือนไปทั้งโลก
นี่ยังไม่นับรวมถึงการที่เส้นทางการขนส่งน้ำมันทางเรือในบริเวณใกล้เคียงที่อาจได้รับผลกระทบตามไปด้วย ซึ่งหากเป็นเช่นนั้น น้ำมันดิบราว 1 ใน 3 ของโลกจะหายไปจากตลาด ความเสียหายต่อเศรษฐกิจของทั้งโลกจะยิ่งสูงและรุนแรงขึ้นเป็นทวีคูณ
ในแง่ของการขยายตัวของสงคราม แนวโน้มส่วนหนึ่งขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของชาติพันธมิตรตะวันตก ซึ่งในเวลานี้รวมตัวกันขึ้นเป็น กองกำลังเฉพาะกิจนานาชาติ เพื่อคุ้มครองการเดินเรือในทะเลแดง นำโดยกองทัพเรืออเมริกัน ร่วมกันกับอังกฤษและฝรั่งเศส สมทบด้วยซาอุดีอาระเบียและอียิปต์ โดยมีออสเตรเลียส่อเค้าว่าจะส่งกำลังมาร่วมวงด้วย
ปัญหาก็คือ การคุ้มครองดังกล่าวเป็นเพียงการตั้งรับ และยังไม่สามารถควบคุมสถานการณ์โดยรวมได้ ทางเลือกที่มีประสิทธิภาพกว่ามากก็คือ การใช้กำลังทหารโจมตีคลังแสงและที่มั่นของฮูตี ในประเทศเยเมนโดยตรง
นั่นหมายความว่า หากอิหร่านและ “ตัวแทน” อย่างฮูตี ตัดสินใจโจมตีเรือสินค้าต่อไป การขยายตัวลุกลามออกไปเป็นวงกว้างของสงครามในตะวันออกกลางก็จะเกิดขึ้นตามมาอย่างแน่นอน
ถึงตอนนั้นเศรษฐกิจโลกที่กำลังโซเซ ก็อาจทรุดพังพาบลงกับพื้นอย่างช่วยไม่ได้