แบงก์สหรัฐกำไร Q4 หด ยอมรับปีนี้อาจน้อยลงอีก เพราะธนาคารกลางลดดอกเบี้ย 

สหรัฐ

ขณะที่ธนาคารในประเทศไทยทยอยรายงานผลประกอบการไตรมาส 4 ปี และภาพรวมของปี 2023 ธนาคารในต่างประเทศก็ทยอยรายงานผลการดำเนินงานเช่นกัน แต่ผลการดำเนินงานของธนาคารในบางประเทศค่อนข้างต่างกันกับธนาคารในประเทศไทย   

ธนาคารหลายแห่งในสหรัฐอเมริการายงานผลการดำเนินงานว่า กำไรไตรมาส 4 ปี 2023 ร่วงลง ทั้งธนาคารขนาดใหญ่ ขนาดกลาง และขนาดเล็ก โดยปัจจัยหลักมาจากรายได้ดอกเบี้ยที่ลดลง เนื่องจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) หยุดขึ้นดอกเบี้ย บวกกับการที่ธนาคารแข่งกันให้ดอกเบี้ยเงินฝากสูงเพื่อรักษาลูกค้า ส่งผลให้ส่วนต่างดอกเบี้ยสุทธิของธนาคารต่าง ๆ ทั่วทั้งอุตสาหกรรมการเงินการธนาคารสหรัฐหดตัวลง

ขณะเดียวกัน ธนาคารสหรัฐส่วนใหญ่ในสหรัฐต้องจ่ายเงินให้กับบรรษัทค้ำประกันเงินฝากของรัฐบาลกลางสหรัฐ (Federal Deposit Insurance Corporation : FDIC) รวมกันกว่า 8,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อเติมเงินเข้าสู่กองทุนค้ำประกันเงินฝาก (Deposit Insurance Fund : DIF) ซึ่งใช้เพื่อปกป้องเงินฝากของลูกค้าในกรณีที่ธนาคารล้มเหลวในการบริหารหรือล้มละลาย หลังจากที่กองทุนหมดเงินไปประมาณ 16,000 ล้านดอลลาร์ เพื่อปกป้องเงินฝากจากการล้มของสองธนาคารขนาดกลางในปี 2023 

อิงตามรายงานข่าวของรอยเตอร์ (Reuters) เมื่อวันที่ 12 มกราคม 2024 ธนาคารรายใหญ่ในสหรัฐรายงานผลกำไรที่ลดลงอย่างรวดเร็วในไตรมาส 4 ปี 2023 โดยมีสัญญาณว่ารายได้ที่เพิ่มขึ้นจากอัตราดอกเบี้ยที่สูงในไตรมาสก่อน ๆ หน้านี้กำลังลดลง และสินเชื่ออุปโภคบริโภคบางส่วนก็เริ่มซบเซา 

ในบรรดา Big 4 หรือ 4 ธนาคารใหญ่ที่สุดของสหรัฐ ซึ่งประกอบด้วย เจพี มอร์แกน (JPMorgan) แบงก์ ออฟ อเมริกา (Bank of America) ซิตี้กรุ๊ป (Citigroup) และเวลส์ ฟาร์โก (Wells Fargo) มีเพียง เวลส์ ฟาร์โก เจ้าเดียวที่ทำกำไรเพิ่มขึ้นในไตรมาส 4 ปี 2023 โดยเพิ่มขึ้น 9% เนื่องจากความพยายามลดต้นทุนซึ่งลดได้มากเกินความคาดหวังของนักลงทุน 

แต่รายได้ดอกเบี้ยสุทธิ (NII) ของเวลส์ ฟาร์โก ก็ลดลงเช่นกันกับคู่แข่งอีก 3 ราย โดยลดลง 5% ในไตรมาส 4 ปี 2023 และเวลส์ ฟาร์โก ยังเตือนว่า ในปี 2024 นี้ รายได้ดอกเบี้ยสุทธิอาจลดลงต่ำกว่าปีก่อนหน้าถึง 7% เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยที่คาดว่าจะลดลงตามการลดอัตราดอกเบี้ยอ้างอิงของธนาคารกลาง 

กำไรของ แบงก์ ออฟ อเมริกา ลดลงกว่าครึ่งหนึ่ง เป็นผลจากการจ่ายเงินเข้ากองทุนค้ำประกันเงินฝาก (DIF) ซึ่งเป็นรายการที่เกิดขึ้นเพียงครั้งเดียว และรายได้ดอกเบี้ยสุทธิ (NII) ลดลง 5% จากต้นทุนเงินฝากที่สูงขึ้น และความต้องการสินเชื่อยังคงลดลงท่ามกลางอัตราดอกเบี้ยที่สูง 

ส่วน เจพี มอร์แกน กำไรไตรมาสสุดท้ายปี 2023 ลดลง 15% แต่กำไรรวมทั้งปีทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 49,600 ล้านดอลลาร์ และรายได้ดอกเบี้ยสุทธิ (NII) ทั้งปีเพิ่มขึ้น 19% จากปีก่อนหน้า 

ขณะที่ ซิตี้กรุ๊ป ที่กำลังดำเนินการปลดพนักงานรายงานการขาดทุนรวมทุกกลุ่มธุรกิจ 1,800 ล้านดอลลาร์ ในไตรมาส 4 ปี 2023 โดยให้เหตุผลเรื่องการจ่ายเงิน 1,700 ล้านดอลลาร์เข้ากองทุนประกันเงินฝาก และการตั้งสำรองหนี้สูญ 1,300 ล้านดอลลาร์ของธุรกิจธนาคาร แต่ภาพรวมผลการดำเนินงานทั้งปียังทำกำไรได้ 9,200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และรายได้ดอกเบี้ยสุทธิ (NII) ในไตรมาส 4 ยังเพิ่มขึ้น 13% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อนหน้า 

ส่วนบรรดาธนาคารขนาดกลางและขนาดเล็ก รอยเตอร์ (Reuters) รายงานเมื่อวันที่ 18 มกราคม 2024 ว่า ธนาคารหลายแห่งรายงานผลกำไรลดลงด้วยปัจจัยเดียวกันกับธนาคารขนาดใหญ่ 

คีย์คอร์ป (KeyCorp) บริษัทแม่ของ คีย์แบงก์ (KeyBank) รายงานผลกำไรไตรมาส 4 ปี 2023 ลดลงเกือบ 92% จากเดือนเดียวกันของปีก่อนหน้า (YOY) และคาดการณ์ว่า รายได้ดอกเบี้ยสุทธิ (NII) ลดลง 2% ถึง 5% ในปี 2024 นี้ ทำให้หุ้นร่วงลง 2.6%  

เดวิด ลอง (David Long) นักวิเคราะห์ของ เรย์มอนด์ เจมส์ (Raymond James) วาณิชธนกิจจากสหรัฐกล่าวว่า หุ้นของคีย์คอร์ปอาจอยู่ภายใต้แรงกดดัน เนื่องจากกำไรต่อหุ้น (P/E) ถูกบีบคั้น 

ขณะเดียวกัน การจ่ายเงินเข้ากองทุนซึ่งเรียกเก็บครั้งเดียวกว่า 6,000 ล้านดอลลาร์ ผนวกกับรายได้ดอกเบี้ยสุทธิ (NII) ที่อ่อนค่าลงก็ส่งผลให้ผลประกอบการของ ทรูอิสต์ ไฟแนนเชียล (Truist Financial Corporation) กลายเป็นขาดทุน จากที่มีกำไรเมื่อปี 2022

เอ็ม แอน์ ที แบงก์ (M&T Bank) รายงานกำไรไตรมาส 4 ปี 2023 ลดลง 37% (YOY) เนื่องจากต้นทุนฝั่งเงินฝากและค่าธรรมเนียมการประเมินพิเศษที่สูงขึ้น 

ในขณะที่ นอร์เทิร์น ทรัสต์ (Northern Trust) รายงานกำไรลดลง 27% 

ดิสคัฟเวอร์ ไฟแนนเชียล (Discover Financial) บริษัทผู้ให้บริการด้านธนาคารและการชำระเงินดิจิทัล ก็รายงานผลกำไรลดลง 62% เนื่องจากการตั้งสำรองหนี้สูญที่มากขึ้น

ส่วน แคปิตัล วัน ไฟแนนเชียล (Capital One Financial) รายงานผลกำไรลดลง 0.6% และ ซินโครนี ไฟแนนเชียล (Synchrony Financial) ผลกำไรลดลง 1.3% 

และสำหรับในปี 2024 นี้ ธนาคารจำนวนหนึ่งเตือนว่า การปรับลดอัตราดอกเบี้ยของเฟดในปีนี้มีแนวโน้มที่จะทำให้อัตรากำไรลดลง