สัญญาณท่องเที่ยวจีนฟื้น หลังเปิด “วีซ่าฟรี” ชาติยุโรป

CHINA-LIFESTYLE
People visit a shopping mall in Beijing on February 18, 2024. (Photo by Pedro PARDO / AFP)
คอลัมน์ : ชีพจรเศรษฐกิจโลก
ผู้เขียน : ไพรัตน์ พงศ์พานิชย์

อุตสาหกรรมท่องเที่ยวของจีนนั้นมีมูลค่ามหาศาล คิดเป็นเม็ดเงินในแต่ละปีสูงกว่า 300,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ก่อนประสบปัญหาขั้นวิกฤตต่อเนื่องมานานหลายปีด้วยหลายปัจจัย ตั้งแต่ปัญหาการแพร่ระบาดครั้งใหญ่ของโรคโควิด-19 เรื่อยมาจนถึงความตึงเครียดด้านภูมิรัฐศาสตร์ และสภาพชะลอตัวทางเศรษฐกิจ

เป็นเวลากว่าปี หลังจากทางการจีนยกเลิกมาตรการควบคุมโควิดชนิดเข้มงวด ซึ่งเท่ากับเป็นการปิดประเทศจากโลกภายนอกไปโดยปริยายนานเกือบ 3 ปี นักท่องเที่ยวจากต่างประเทศก็ยังไม่ได้กลับมาเยือนจีนกันขนานใหญ่เหมือนที่ผ่านมา

สถิติของทางการแสดงให้เห็นว่า เมื่อปีที่แล้ว นักท่องเที่ยวที่เป็นชาวต่างชาติ เดินทางมาเยือนจีนเพียง 35 ล้านคน เปรียบเทียบแล้วเท่ากับเพียง 1 ใน 3 ของจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางมาเยือนจีนเกือบ 98 ล้านคนในปี 2019

สื่อของทางการจีนเคยประเมินไว้ว่า นับตั้งแต่ปี 2020 เรื่อยมาจนถึงปลายปี 2023 ที่ผ่านมา โควิด-19 สร้างความเสียหายให้กับรายได้จากอุตสาหกรรมท่องเที่ยวระหว่างประเทศของจีนมากถึง 362,000 ล้านดอลลาร์เลยทีเดียว

ข้อเท็จจริงเหล่านี้เป็นเหตุผลหลักที่ทำให้เมื่อปลายปี 2023 ทางการจีนได้ประกาศมาตรการพิเศษ อนุญาตให้พลเรือนจากประเทศที่ทำความตกลงไว้ สามารถเดินทางเข้าประเทศได้โดยไม่ต้องทำวีซ่า หรือที่เรียกกันว่า “วีซ่าฟรี” ตั้งแต่เมื่อปลายปีที่แล้ว

ประเทศที่จีนให้สิทธิพิเศษวีซ่าฟรีนี้ส่วนใหญ่แล้วเป็นชาติในยุโรป อย่างฝรั่งเศสและอีก 5 ชาติในยุโรป เริ่มต้นอย่างเป็นทางการตั้งแต่เดือนธันวาคมปีที่ผ่านมา ส่วน ออสเตรีย, เบลเยียม, ฮังการี, ไอร์แลนด์, ลักเซมเบิร์ก และเนเธอร์แลนด์ เพิ่งได้รับสิทธิพิเศษด้านการท่องเที่ยวนี้ไปเมื่อกลางเดือนมีนาคมนี่เอง

นอกจากชาติในยุโรปเหล่านี้แล้ว จีนยังทำความตกลงให้สิทธิวีซ่าฟรีนี้ซึ่งกันและกันกับอีกบางประเทศในเอเชีย คือไทยกับสิงคโปร์ ที่พลเรือนสามารถเดินทางเข้าประเทศซึ่งกันและกันได้โดยไม่ต้องทำวีซ่า ส่วนบรูไนซึ่งจีนเคยให้สิทธิพิเศษด้านการท่องเที่ยวไว้ก่อนหน้านี้ แต่ระงับไปเมื่อเกิดการแพร่ระบาดของโควิด ก็กลับมาให้สิทธิเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในจีนได้ในระยะสั้น ตามที่กำหนดโดยไม่ต้องทำวีซ่าอีกครั้ง

“เผิง อัน” หัวหน้าทีมนักวิเคราะห์การท่องเที่ยวของทราเวล เดลี สื่อด้านอุตสาหกรรมท่องเที่ยวของจีน ระบุว่า ช่วงครึ่งแรกของปี 2023 ที่ผ่านมา มีนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศเดินทางเข้าจีนเพิ่มขึ้นกว่าก่อนหน้านี้ก็จริง แต่ส่วนใหญ่แล้วเป็นผูที่เดินทางด้วยความจำเป็น เช่น เดินทางมาเยี่ยมญาติในครอบครัว หรือเพื่อทำธุรกิจ ไม่ใช่การเดินทางมาจีนเพื่อการท่องเที่ยวจริง ๆ

การฟื้นตัวของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจีนจึงช้ามาก เพราะได้รับผลกระทบจากปัจจัยหลายอย่างประกอบกัน ตั้งแต่เรื่องการยื่นเรื่องเพื่อขอวีซ่า ไปจนถึงปัญหาการขาดแคลนเที่ยวบินระหว่างประเทศ

เผิง อัน ระบุว่า ในช่วงเดือนมกราคม 2024 จำนวนเที่ยวบินระหว่างประเทศมีเพิ่มขึ้นก็จริง แต่เป็นการฟื้นตัวในระดับเพียง 65% ของปริมาณเที่ยวบินระหว่างประเทศในช่วงเดียวกันของปี 2019 เท่านั้นเอง

นักสังเกตการณ์บางคน อย่างเช่น “ไต้ ปิน” ประธานสถาบันการท่องเที่ยวจีน ซึ่งเป็นองค์กรวิชาการของรัฐบาลจีน ให้ความเห็นว่า ไม่ว่าจะเจตนาหรือไม่ก็ตาม การรณรงค์ให้วีซ่าฟรีสำหรับประเทศในยุโรปของจีนครั้งนี้ ส่งผลดีต่อจีนเองในด้านอื่น นอกเหนือจากอุตสาหกรรมท่องเที่ยวอีกด้วย

ที่ผ่านมา ทางการจีนเป็นกังวลมากขึ้นตามลำดับว่า การที่นักท่องเที่ยวต่างชาติลดจำนวนลง จะยิ่งส่งผลให้จีนถูกโดดเดี่ยวมากยิ่งขึ้น และกลายเป็นภาพลักษณ์ในเชิงลบต่อจีนในต่างประเทศมากยิ่งขึ้น

ในขณะที่ หยุน ซุน นักวิชาการอาวุโส ซึ่งดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการร่วมของโครงการเอเชียตะวันออกศึกษา ประจำศูนย์วิชาการ สติมสัน เซ็นเตอร์ เชื่อว่า แม้ว่าเป้าหมายแรกสุดนั้น คือการดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติให้เดินทางกลับมาท่องเที่ยวในจีนอีกครั้ง แต่ในเวลาเดียวกันทางการจีนก็แฝงเจตนารมณ์แบ่งแยกสหรัฐอเมริกาและ 4 ชาติพันธมิตรใกล้ชิดด้านความมั่นคง (ออสเตรเลีย, แคนาดา, นิวซีแลนด์ และสหราชอาณาจักร รวมกันเรียกว่า “กลุ่มไฟฟ์ อายส์”) ออกจากชาติพันธมิตรตะวันตกโดยทั่วไปอื่น ๆ ที่เหลือ เพื่อหวังผลในการแบ่งแยกความเห็นโดยทั่วไปของสาธารณชนในสองกลุ่มประเทศเหล่านี้ต่อจีนให้แตกต่างออกจากกัน

นี่ยังไม่นับการบังคับให้ชาวต่างชาติที่เดินทางมาท่องเที่ยวในจีนจำเป็นต้องติดตั้งแอปพลิเคชั่นสำหรับการชำระเงินที่เป็นของจีน คือ “วีแชท” หรือไม่ก็ “อาลีเพย์” เพื่อการชำระเงินในจีนทุก ๆ อย่างตั้งแต่จ่ายค่าแท็กซี่ ไปจนถึงค่าอาหารในภัตตาคารต่าง ๆ

ผลลัพธ์ของการประกาศใช้มาตรการพิเศษเพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวนี้เห็นได้ชัดตั้งแต่เดือนแรกหลังจากประกาศใช้ สถิติของทางการจีนแสดงให้เห็นว่า นักท่องเที่ยวต่างชาติราว 214,000 คน จากฝรั่งเศส, เยอรมนี, เนเธอร์แลนด์, สเปน และมาเลเซีย เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในจีนในช่วงเดือนธันวาคม 2023 เพิ่มขึ้นทันที 28.5 เปอร์เซ็นต์จากเดือนพฤศจิกายนก่อนหน้า

ถือเป็นโครงการกระตุ้นการท่องเที่ยวที่คุ้มค่าโดยแท้จริง