ข้อมูลเผยแพร่เมื่อ 13 สิงหาคม 2567 เวลา 07.41 น.อัพเดตล่าสุดเมื่อเวลา 08.35 น.
อีกหนึ่งสมรภูมิรบที่ต้องจับตาในสัปดาห์นี้ สหรัฐอเมริกาเตรียมรับมือการโจมตีที่อาจเกิดขึ้นจากอิหร่าน ในภูมิภาคตะวันออกกลาง เร่งส่งกองเรือบรรทุกเครื่องบินฮับราฮัม ลินคอล์น เร็วกว่าแผนเดิม หลังจากการลอบสังหารผู้นำฮามาสในกรุงเตหะราน คาดอาจโจมตีอิสราเอลโดยตรง ส่วนพันธมิตรอิหร่านโจมตีทั้งฐานทัพสหรัฐในอิรักและซีเรีย เกิดขึ้นพร้อม ๆ กับการโจมตีอิสราเอล
วันที่ 13 สิงหาคม 2024 นิกเคอิ เอเชียรายงานว่า นายจอห์น เคอร์บี โฆษกสภาความมั่นคงแห่งชาติประจำทำเนียบขาวเปิดเผยว่า สหรัฐเพิ่มความพร้อมกองกำลังทหารในภูมิภาค เนื่องจากอิสราเอลกังวลเกี่ยวกับว่าอิหร่านและกลุ่มติดอาวุธปาเลสไตน์อาจลงมือโจมตีเอาคืน หลังจากถูกกล่าวหาสังหารนายอิสมาอิล ฮานิเยห์ ผู้นำฮามาสในกรุงเตหะราน เมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา
“เราต่างมีความกังวลและการคาดการณ์เช่นเดียวกันว่า การโจมตีอาจเกิดขึ้นในสัปดาห์นี้ เราต้องเตรียมพร้อมรับมือการโจมตี” นายเคอร์บีกล่าว ทั้งนี้ หลายสำนักข่าวรายงานตรงกัน ยังไม่ชัดเจนว่าอิหร่านกำลังวางแผนตอบโต้อย่างไร ส่วนวอชิงตันโพสต์ สื่อสหรัฐรายงานอ้างอดีตเจ้าหน้าที่หน่วยข่าวกรองอาวุโสซีไอเอภาคสนามระบุว่า อิหร่านอาจโจมตีอิสราเอลโดยตรงจากประเทศอิหร่านเอง โดยกลุ่มติดอาวุธที่อิหร่านหนุนหลังกำลังวางแผนโจมตีฐานทัพสหรัฐในซีเรียและอิรัก ในเวลาเดียวกันกับที่อิหร่านโจมตีอิสราเอล แต่ยังไม่กำหนดเวลาโจมตีที่แน่ชัด
อิสราเอลเตรียมรับมือการโจมตีครั้งใหญ่ตั้งแต่เดือนที่แล้ว เมื่อขีปนาวุธสังหารเด็กและวัยรุ่นเสียชีวิต 12 รายในที่ราบสูงโกลัน และอิสราเอลตอบโต้โดยการสังหารผู้บัญชาการอาวุโสของกลุ่มติดอาวุธฮิซบอลเลาะห์ในกรุงเบรุตของประเทศเลบานอน ซึ่งหนึ่งวันหลังจากปฏิบัติการดังกล่าว อิสมาอิล ฮานิเยห์ ผู้นำทางการเมืองของฮามาสถูกลอบสังหารในกรุงเตหะราน อิหร่านให้คำมั่นตอบโต้เอาคืนอิสราเอล
นายเคอร์บีกล่าวอีกว่า ชัดเจนว่าสหรัฐไม่ต้องการเห็นอิสราเอลต้องปกป้องตัวเองจากการถูกโจมตีที่รุนแรงอีกครั้ง เหมือนที่เคยเกิดขึ้นในเดือนเมษายนที่ผ่านมา ซึ่งอิหร่านยิงจรวดกว่า 300 ลูกใส่อิสราเอลเพื่อเอาคืนที่อิสราเอลทิ้งระเบิดโจมตีสถานกงสุลอิหร่านในกรุงดามัสกัส ประเทศซีเรีย นายเคอร์บีระบุอีกว่า แต่หากมีการโจมตีเกิดขึ้นสหรัฐจะยังคงช่วยอิสราเอลต่อไป
ด้านกระทรวงกลาโหมสหรัฐออกแถลงการณ์ภายหลังการหารือทางโทรศัพท์ระหว่างนายโยอาฟ กัลแลนด์ รมว.กลาโหมอิสราเอล และ นายลอย ออสติน รมว.กลาโหมสหรัฐระบุว่า นายออสตินสั่งเตรียมพร้อมเรือดำน้ำติดอาวุธปล่อยใต้น้ำสู่พื้น หรือขีปนาวุธนำวิธี ยูเอสเอส จอร์เจีย ประจำการในภูมิภาคตะวันออกกลาง ซึ่งสามารถบรรทุกขีปนาวุธโทมาฮอกได้ 154 ลำ ใช้โจมตีเป้าหมายที่อยู่บนภาคพื้นและส่งกองเรือบรรทุกเครื่องบินยูเอสเอสอับราฮัม ลินคอล์น ซึ่งติดตั้งเครื่องบินรบเอฟ-35 ซี (F-35C) เพื่อเร่งความพร้อมประจำการในภูมิภาคให้เร็วกว่าแผนเดิม
แต่เจ้าหน้าที่สหรัฐกล่าวกับรอยเตอร์ว่า ขณะนี้กองเรือบรรทุกเครื่องบินอับราฮัม ลินคอล์นแล่นอยู่ใกล้ทะเลจีนใต้ และอาจใช้เวลาราว 1 สัปดาห์จึงจะแล่นถึงตะวันออกกลาง
ราคาน้ำมันพุ่งขึ้นกว่าร้อยละ 3 ในวันจันทร์ที่ผ่านมา เพิ่มขึ้นต่อเนื่องเป็นครั้งที่ 5 จากการคาดการณ์ความขัดแย้งตะวันออกลางที่กำลังขยายใหญ่ขึ้น ซึ่งอาจทำให้ราคาน้ำมันโลกตึงตัว ขณะที่กองทัพอิสราเอลเดินหน้าปฏิบัติการใกล้เมืองข่านยูนิส ทางใต้ของกาซา ท่ามกลางประชาคมโลกผลักดันให้มีการเจรจาเพื่อยุติการสู้รบในกาซาและป้องกันการไถลเข้าไปสู่ความความขัดแย้งในภูมิภาคกับอิหร่านและกลุ่มติดอาวุธที่อิหร่านหนุนหลัง