เมื่อวันที่ 2 มิถุนายน สำนักข่าวรอยเตอร์รายงนว่า ในการกล่าวบนเวทีการประชุมด้านความมั่นคง “แชงกรีลา ไดอะล็อก” ที่ประเทศสิงคโปร์ เมื่อวันที่ 2 มิถุนายน นายจิม แมททิส รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐอเมริกา กล่าวว่า สหรัฐยินดีที่จะทำงานร่วมกับจีนบนความสัมพันธ์ที่มุ่งก่อผล แต่การกระทำของจีนที่มุ่งเสริมสร้างแสนยานุภาพทางทหารในทะเลจีนใต้ซึ่งเป็นพื้นที่พิพาท ถือเป็นการข่มขู่คุกคามประเทศเพื่อนบ้านในภูมิภาค
การแสดงความเห็นของนายแมททิสบนเวทีนี้มีขึ้นท่ามกลางบรรยากาศความสัมพันธ์ที่ตึงเครียดขึ้นระหว่างสหรัฐและจีน และยังแสดงให้เห็นว่ารัฐบาลสหรัฐกำลังมุ่งแสวงหาความร่วมมือจากจีนอย่างเท่าเทียมในประเด็นปัญหาเกาหลีเหนือไปพร้อมกับการรับมือกับจีนในปัญหาพิพาทในทะเลจีนใต้
- ประกาศแล้ว! พระราชกฤษฎีกาเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ รับ 11,000 บาทต่อเดือน
- บังคับใช้แล้ว! หลักเกณฑ์การดำเนินงาน 30 บาทรักษาทุกที่ ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว
- อะไรทำให้ “ทองคำ” แพง สงคราม หรือการเก็งกำไร ?
“นโยบายของจีนในทะเลจีนใต้เป็นไปในทางตรงกันข้ามกับการเปิดเผยอย่างตรงไปตรงมาซึ่งเป็นยุทธศาสตร์ที่สหรัฐมุ่งส่งเสริม อย่างไรก็ดีสหรัฐยังคงมุ่งแสวงหาความสัมพันธ์ที่สร้างสรรค์กับจีน” นายแมททิสกล่าว พร้อมกับชี้ว่า “การติดตั้งระบบอาวุธยุทโธปกรณ์ของจีนมีส่วนเกี่ยวข้องโดยตรงกับการใช้เพื่อการทหารภายใต้เป้าหมายของการข่มขู่คุกคาม”
ท่าทีของรัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐมีขึ้นหลังจากเมื่อเดือนก่อนมีรายงานว่ากองทัพอากาศจีนได้ส่งเครื่องบินทิ้งระเบิดหลายลำไปลงบนเกาะและแนวหินโสโครกในทะเลจีนใต้ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการซ้อมรบของจีนที่สร้างความวิตกกังวลให้กับเวียดนามและฟิลิปปินส์ ชาติเพื่อนบ้านที่มีปัญหาพื้นที่ทับซ้อนในทะเลจีนใต้กับจีนอยู่ ขณะที่ภาพถ่ายทางดาวเทียมที่บันทึกไว้เมื่อวันที่ 12 พฤษภาคม ยังเผยให้เห็นว่าจีนได้ส่งระบบขีปนาวุธยิงจากภาคพื้นสู่อากาศและขีปนาวุธต่อต้านเรือไปประจำการบนเกาะวูดดี ในหมู่เกาะพาราเซลที่เป็นอีกหนึ่งพื้นที่พิพาททางทะเล