ยักษ์ใหญ่มะกัน ‘จีเอ็ม’ประกาศปลดพนง.กว่า 14,000 ตำแหน่ง ระงับผลิต-ปิด 8 โรงงาน

บริษัทเจเนอรัล มอเตอร์ส(จีเอ็ม) ผู้ผลิตรถยนต์ยักษ์ใหญ่ของสหรัฐอเมริกา อาทิ รถยนต์เชฟโรเล็ต รถยนต์คาดิแลค และรถบิ๊กอัพจีเอ็มซี ประกาศปลดพนักงานกว่า 14,000 ตำแหน่ง หรือคิดเป็น 15 เปอร์เซ็นต์ของพนักงานทั้งหมด และจะระงับการผลิตในโรงงาน 5 แห่งทวีปอเมริกาเหนือ นอกจากนี้ยังจะปิดโรงงานผลิตรถนอกทวีปอเมริกาเหนืออีก 3 แห่งภายในสิ้นปี 2562 ด้วย

หันให้ความสำคัญผลิตรถบรรทุก รถไฟฟ้า รถยนต์ไร้คนขับ

การตัดสินใจปรับลดพนักงานและปิดโรงงานครั้งใหญ่นี้เกิดขึ้นหลังจากยอดขายรถยนต์ที่ชะลอตัวลง เนื่องจากผู้ซื้อไม่สนใจที่จะซื้อรถยนต์ขนาดเล็ก แต่หันไปซื้อรถใหญ่อย่างรถเอสยูวีหรือรถบรรทุกแทน โดยคิดเป็นสัดส่วนถึงเกือบ 70% ของการซื้อรถในอเมริกาเหนือทั้งหมด บวกกับปัญหารายจ่ายที่เพิ่มขึ้นเนื่องจากกำแพงภาษีใหม่ที่มีการประกาศใช้โดยเฉพาะภาษีนำเข้าเหล็ก บริษัทระบุว่าจะหันไปให้ความสำคัญกับการผลิตรถบรรทุก รถยนต์ไฟฟ้า และรถยนต์ไร้คนขับ ซึ่งน่าจะเป็นอนาคตของอุตสาหกรรมรถยนต์ยุคต่อไปแทน

การตัดสินใจปรับโครงสร้างองค์กรดังกล่าวของจีเอ็มทำให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักจากนักการเมืองจำนวนมาก ซึ่งรวมถึงประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ที่ระบุว่าไม่มีความสุขกับสิ่งที่เกิดขึ้น พร้อมกับย้ำว่านโยบายของเขากำลังช่วยกระตุ้นให้ภาคอุตสาหกรรมรถยนต์ของสหรัฐให้กลับมาฟื้นตัวอีกครั้งหนึ่ง ดังนั้นบริษัทควรจะเลือกดำเนินการอย่างอื่นแทนการตัดสินใจเช่นนี้

ด้านจีเอ็มระบุว่าแผนการปฏิรูปองค์กรดังกล่าวจะช่วยลดค่าใช้จ่ายของบริษัทได้ถึง 6,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐภายในสิ้นปี 2563 และจะทำให้บริษัทสามารถสร้างกำไรและรับมือกับความเปลี่ยนแปลงของตลาด ทั้งยังเพิ่มความยืดหยุ่นสำหรับการลงทุนในอนาคต เพราะบริษัทตระหนักดีว่าต้องการอยู่ในแถวหน้าภายใต้เงื่อนไขของการเปลี่ยนแปลงของตลาด และเพื่อให้สามารถตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค รวมถึงทำให้บริษัทประสบผลสำเร็จในระยะยาวต่อไป

ที่มา:มติชนออนไลน์