สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานแถลงการณ์ของธนาคารเอชเอสบีซี (HSBC) ในวันนี้ (18 ก.พ. 2020) ซึ่งระบุว่าทางธนาคารประกาศแผนปรับโครงสร้างบริษัท โดยการลดขนาดของธุรกิจลงกว่า 100,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จากการปรับลดขนาดของธุรกิจวาณิชธนกิจและกิจการต่าง ๆ ของบริษัทในยุโรปและสหรัฐอเมริกา ซึ่งส่งผลให้เอชเอสบีซีจำเป็นต้องปลดพนักงานกว่า 35,000 ตำแหน่ง ในช่วง 3 ปีข้างหน้า
โดย “เอชเอสบีซี” มีผลการดำเนินงานที่ไม่ค่อยดีนักเมื่อเทียบกับคู่แข่งรายอื่น ๆ จึงส่งผลให้ทางบริษัทจำเป็นต้องปรับธุรกิจให้มีขนาดเล็กลงเพื่อความสามารถในการแข่งขันท่ามกลางความท้าทายต่าง ๆ ที่กำลังเกิดขึ้น เช่น การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19, การถอนตัวของอังกฤษออกจากสหภาพยุโรป รวมถึงภาวะดอกเบี้ยระดับต่ำ เป็นต้น
- ประกาศแล้ว! พระราชกฤษฎีกาเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ รับ 11,000 บาทต่อเดือน
- เปิดไทม์ไลน์ลูกค้าซิตี้แบงก์ต้องรู้! ก่อนโอนย้ายบัญชีมาเป็น “ยูโอบี” 21 เม.ย.นี้
- ออมสิน เปิดให้กู้สินเชื่อรีไฟแนนซ์ ลดดอกเบี้ย 4 กลุ่ม เช็กเลย !
ทั้งนี้ เอชเอสบีซีเป็นธนาคารที่มีขนาดธุรกิจใหญ่ที่สุดในยุโรป โดยเมื่อปี 2019 ธนาคารมีกำไรก่อหักภาษีที่ 13,350 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดไว้ที่ระดับ 20,030 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
แถลงการณ์ของเอชเอสบีซี ระบุว่าทางธนาคารจะปรับลดจำนวนสาขาในสหรัฐลงถึง 1 ใน 3 ของจำนวนสาขาที่มีในปัจจุบัน 224 สาขา ซึ่งทางเอชเอสบีซีจะบริการเฉพาะกลุ่มลูกค้าธุรกิจขนาดใหญ่เท่านั้น นอกจากนี้ทางธนาคารแห่งนี้ยังเตรียมควบรวมธุรกิจธนาคารพาณิชย์เพื่อรายย่อยเข้ากับธุรกิจบริหารความมั่งคั่งอีกด้วย รวมถึงแผนการปรับลดขนาดของธุรกิจนายหน้าและการจัดทำบทวิเคราะห์ในตลาดทุนของยุโรป
โดยทาง “โนเอล ควิน” รักษาการณ์ซีอีโอของบริษัท กล่าวว่า “จากแผนการปรับโครงสร้างบริษัทดังกล่าวจะส่งผลให้เกิดการปรับลดจำนวนพนักงานทั้งหมดลดลงจาก 235,000 ตำแหน่ง เป็น 200,000 ตำแหน่ง ภายใน 3 ปีหน้า ”