สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานในวันนี้ (28 ก.พ. 2020) อ้างอิงแหล่งข่าวเจ้าหน้าที่ทางการสหรัฐอเมริกา ระบุว่าทำเนียบขาวเตรียมพิจารณาการใช้กฎหมาย “การผลิตเพื่อการป้องกัน (Defense Production Act)” ซึ่งเป็นกฎหมายพิเศษที่มอบอำนาจให้กับประธานาธิบดีในการสั่งผู้ผลิตสินค้าที่มีความจำเป็นต่อความมั่นคงของประเทศเพิ่มกำลังการผลิตสินค้าดังกล่าว
ทั้งนี้ กฎหมายฉบับนี้ซึ่งได้รับอนุมัติจากสภาคองเกรสเมื่อปี 1950 ถูกรัฐบาลสหรัฐนำมาพิจารณาเพื่อเตรียมการรับมือการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่อาจเกิดขึ้นในสหรัฐอเมริกา โดยประธานาธิบดีสามารถสั่งเพิ่มกำลังการผลิตอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่จำเป็นสำหรับการป้องกันไวรัส เช่น หน้ากากอนามัย, ถุงมือ และชุดป้องกัน เป็นต้น
- ลูกแม่ค้าขายผัก-พ่อขับแท็กซี่ สู่เก้าอี้ “ปลัดพลังงาน” บทพิสูจน์ชีวิต “ดร.ประเสริฐ สินสุขประเสริฐ”
- เงื่อนไขปุ๋ยลดราคาเฟส 2 สูตรไหน-พืชชนิดใดบ้าง
- นักท่องเที่ยวเข้าต่ำแสน หวั่นโลว์ซีซั่นทรุดหนัก ททท.ชี้กระทบสั้นยอดบุ๊กกิ้งแอร์ไลน์แน่น
ในส่วนของความต้องการอุปกรณ์ป้องกันเหล่านี้นั้น “อเล็กซ์ อาซาร์” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสุขภาพและบริการมนุษย์ เปิดเผยว่า “สหรัฐต้องการสต๊อกหน้ากากอนามัยชนิดเอ็น-95 เป็นจำนวนถึง 300 ล้านชิ้นสำหรับเจ้าหน้าที่สาธารณสุขเพื่อจัดการกับสถานการณ์หากการระบาดเกิดขึ้น อย่างไรก็ตามปัจจุบันสหรัฐมีการสต๊อกสินค้าที่จำเป็นสำหรับเจ้าหน้าที่สาธารณสุขเพียงส่วนหนึ่งของความต้องการทั้งหมดเท่านั้น”
นอกจากนี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสุขภาพและบริการมนุษย์ ยังกล่าวอีกว่าขณะที่ทางการจีนสั่งคุมเข้าการส่งออกอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่จำเป็นสำหรับเจ้าหน้าที่อาจกระทบต่อสหรัฐซึ่งมีการผลิตอุปกรณ์เหล่านี้น้อยมาก โดยเจ้าหน้าที่จากกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิแสดงความกังวลว่าหากการพร่ระบาดเกิดขึ้นในสหรัฐอาจส่งผลให้อุปกรณ์เหล่านี้ขาดตลาด
ทั้งนี้ รายงานระบุว่าบริษัทผู้ผลิตหน้ากากอนามัยรายใหญ่ในสหรัฐ ประกอบด้วย 3 เอ็ม คอร์ป และฮันนี่เวลล์ อินเตอร์เนชันแนล
