‘เฟด’ คงอัตราดอกเบี้ยใกล้ 0% คาดโควิดทำเศรษฐกิจสหรัฐปีนี้หดตัว 6.5%

สำนักข่าวซีเอ็นบีซีรายงานว่า ธนาคารกลางแห่งสหรัฐอเมริกา (เฟด) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ระดับ 0%-0.25% เช่นเดิม เพื่อส่งเสริมการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่การระบาดของโควิด-19 ทั้งยังจะเดินหน้านโยบายซื้อพันธบัตรเพิ่มเติมอย่างต่อเนื่อง ในอัตราเดือนละ 80,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐสำหรับตั๋วเงินคลัง และ 40,000 ดอลลาร์สหรัฐสำหรับพันธบัตรองค์กรและหลักทรัพย์ที่มีสินทรัพย์ค้ำประกัน

โดยนายเจอโรม พาวเวลล์ ประธานเฟดกล่าวระหว่างการแถลงข่าวในวันที่ 10 มิถุนายนว่า “เรายังไม่ได้พิจารณาเรื่องการเพิ่มอัตราดอกเบี้ย ไม่แม้แต่จะคิดเกี่ยวกับการขึ้นอัตราดอกเบี้ย สิ่งที่เรากำลังพิจารณาคือการให้การสนับสนุนเศรษฐกิจซึ่งเราคิดว่าจะต้องใช้เวลาต่อเนื่องไปอีกระยะหนึ่ง”

ทั้งนี้ เฟดคาดการณ์ว่าจีดีพีของสหรัฐจะหดตัวลง 6.5% ในปี 2020 เนื่องจากการหยุดชะงักทางเศรษฐกิจอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน แต่คาดว่าจะกลับมาขยายตัว 5% ในปี 2021 และ 3.5% ในปี 2022 ขณะที่อัตราว่างงานของสหรัฐในปีนี้คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 9.3% ก่อนที่ลดลงสู่ระดับ 6.5% ในปี 2021 และ 5.5% ในปี 2022

ซึ่งแนวโน้มทางเศรษฐกิจที่เริ่มฟื้นตัวในช่วงครึ่งหลังของปีนี้และต่อเนื่องไปอีกหลายไปปี เป็นไปได้ว่าเฟดจะคงตรึงอัตราดอกเบี้ยในระดับปัจจุบันไปอีกอย่างน้อย 2 ปีข้างหน้า เพื่อส่งเสริมการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ แต่เฟดยืนยันว่าจะไม่มีการใช้นโยบายดอกเบี้ยแบบติดลบ

โดยนายพาวเวลล์ระบุว่า “เฟดคาดว่าจะยังคงรักษาเป้าหมายเช่นนี้ไปจนกว่าจะมั่นใจได้ว่าเศรษฐกิจสามารถผ่านพ้นสถานการณ์ปัจจุบันไปได้ และบรรลุเป้าหมายด้านการจ้างงานและความมั่นคงด้านราคา” อย่างไรก็ตาม นายพาวเวลล์เน้นย้ำว่า ความเร็วของการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจจะยังคงขึ้นอยู่กับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ซึ่งยังคงไม่มีความแน่นอน