สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า อูเบอร์ (Uber) บริษัทให้บริการรถแท็กซี่ผ่านแอปพลิเคชั่น ถูกกลุ่มสิทธิคนพิการ และผู้ใช้รถเข็นวีลแชร์ฟ้องร้องในการละเมิดสิทธิมนุษชนที่อูเบอร์ไม่สามารถให้บริการแก่ผู้พิการที่ใช้วีลแชร์ในมหานครนิวยอร์ก
โดยข้อร้องเรียนของกลุ่มสิทธิคนพิการและผู้ใช้วีลแชร์ระบุว่า อูเบอร์นั้นเลือกปฏิบัติกับผู้ใช้บริการที่นั่งรถเข็นวีลแชร์ เนื่องจากรถอูเบอร์ที่สามารถใช้วีลแชร์ได้มีให้บริการน้อยกว่าจำนวนรถอูเบอร์ที่มีให้บริการในเมือง 5.8 หมื่นคัน
ตามข้อเรียกร้องต่อศาลแมนฮัตตัน ในนครนิวยอร์กนั้น ยังระบุว่าอีกว่า อูเบอร์ ยังทำลายผลประโยชน์การพัฒนาอย่างยั่งยืนของมหานครนิวยอร์กที่ต้องการจะทำให้แท็กซี่เหลืองนั้นสามารถเข้าถึงผู้ที่ใช้รถเข็นวีลแชร์ในปี 2020 (พ.ศ.2563)
ด้านผู้พิการในนิวยอร์กบางรายให้สัมภาษณ์ว่า ตนต้องการได้รับการปฏิบัติเหมือนกับคนอื่นๆ และเราเป็นคนธรรมคนหนึ่งที่มีชีวิตจิตใจ
ทั้งนี้การฟ้องร้องดังกล่าวคล้ายกับการฟ้องร้องในชิคาโก และวอชิงตัน ดี.ซี. ที่เป็นการฟ้องการให้บริการของอูเบอร์ ที่มีการให้บริการ UberWAV ซึ่งเป็นอูเบอร์ที่ใช้วีลแชร์ได้ แต่มีให้บริการน้อยกว่า 100 คัน ซึ่งเมื่อผู้พิการเรียกใช้รถที่ให้บริการวิลแชร์นั้นจะต้องรอเป็ระยะเวลานาน รวมถึงต้องจ่ายค่าบริการแพงกว่าอูเบอร์ปกติด้วย
อย่างไรก็ตามในช่วงที่ผ่านมาอูเบอร์ กำลังเผชิญหน้ากับปัญหามาอย่างต่อเนื่องไม่ว่าจะเป็นเรื่องฉาวภายในองค์กรที่มีการล่วงละเมิดทางเพศ และการเลือกปฏิบัติของพนักงาน อีกทั้งยังถูกกุเกิลฟ้องร้องว่าขโมยลิขสิทธิ์รถขับเคลื่อนอัตโนมัติ ซีอีโอผู้ก่อตั้งอย่าง “ทราวิส คาลานิก” ลาออกหลังถูกผู้ถือหุ้นกดดันอย่างต่อเนื่อง
และยังมีคลิปทะเลาะกันของซีอีโออูเบอร์กับคนขับรวมถึงคนขับอูเบอร์ใช้คำพูดที่ไม่สุภาพกับผู้ใช้บริการอีกด้วย