“ยักษ์จีน” สละกำไรทั้งไตรมาส รับนโยบาย “สี จิ้นผิง” ลดเหลื่อมล้ำ

หนึ่งในข้อกล่าวหาร้ายแรงที่รัฐบาลจีนใช้ในการจัดการบริษัทเอกชนในประเทศหลายรายในช่วงที่ผ่านมาคือ การดำเนินธุรกิจที่ไม่เป็นธรรมต่อคู่แข่งหรือ “การผูกขาด” ส่งผลให้หลายบริษัทต้องปรับตัวเพื่อความอยู่รอด ซึ่งล่าสุดการบริจาคเงินจากผลประกอบการให้กับสังคมเป็นอีกวิธีหนึ่งในการแสดงให้เห็นถึงความกระตือรือร้นของบริษัทที่จะปฏิบัติตามนโยบายของรัฐบาลจีน

ซีเอ็นเอ็นรายงานว่า “พินตัวตัว” (Pinduoduo) ผู้ให้บริการค้าปลีกออนไลน์รายใหญ่ของจีน ได้ประกาศบริจาค “ผลกำไรทั้งหมด” ของบริษัทในไตรมาส 2/2021 มูลค่า 372 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ให้กับโครงการพัฒนาภาคการเกษตรในพื้นที่ชนบทของจีน และยังตั้งเป้าจะบริจาคในส่วนอื่น ๆ เพิ่มเติมรวมทั้งสิ้น 1,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

“พินตัวตัว” เป็นหนึ่งในอีคอมเมิร์ซที่เติบโตรวดเร็วของจีน ให้บริการซื้อขายออนไลน์ครอบคลุมสินค้าหลากหลาย โดยเฉพาะสินค้าเกษตร ทำให้พินตัวตัวสามารถเข้าถึงภาคชนบทของจีนและมีจำนวนผู้ใช้งานเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด โดยมียอดผู้ใช้งานทะลุ 850 ล้านคน ในช่วงปีที่ผ่านมา สูงกว่า “อาลีบาบา” ที่มีผู้ใช้งาน 828 ล้านคนในช่วงเดียวกัน

นอกจากนี้ พินตัวตัวยังเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ “แนสแดค” ของสหรัฐอเมริกาตั้งแต่ปี 2018 และขยายตัวอย่างต่อเนื่องมีส่วนแบ่งในตลาดอีคอมเมิร์ซจีนราว 10% แต่ยังถูกทิ้งห่างจากอาลีบาบาที่ครองส่วนแบ่งตลาดถึง 53% และตามหลัง “เจดีดอตคอม” ที่ 19% ตามข้อมูลของ “หัวชวง ซีเคียวริตีส์”

ความเคลื่อนไหวดังกล่าวเกิดขึ้นท่ามกลางปฏิบัติการจัดระเบียบบริษัทเอกชนอย่างรุนแรงของรัฐบาลจีน โดยเฉพาะบริษัทเอกชนที่จดทะเบียนในต่างประเทศจะถูกเพ่งเล็งอย่างหนัก และต่างต้องเผชิญกับกฎระเบียบและข้อกำหนดต่าง ๆ ตั้งแต่การสั่งปรับ การสั่งห้ามให้บริการแอปพลิเคชั่น ไปจนถึงการถูกสั่งปรับโครงสร้างบริษัทใหม่

การบริจาคครั้งนี้ของพินตัวตัว ชัดเจนว่าเป็นเพราะแรงกดดันจากรัฐบาลจีนตามแผน “ความเจริญรุ่งเรืองร่วมกัน” ของ ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ซึ่งไม่เพียงพินตัวตัวเท่านั้น ก่อนหน้านี้ “เทนเซ็นต์” ยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีอีกรายของจีนก็ประกาศบริจาคเงินถึง 7,700 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ให้กับโครงการแก้ไขปัญหาความยากจนและความไม่เท่าเทียมทางการศึกษาของจีน

แม้นโยบายความเจริญรุ่งเรืองร่วมกัน ต้องการให้เกิดการกระจายความมั่งคั่ง ลดความเหลื่อมล้ำภายในประเทศจีน แต่ “อเล็กซ์ คาปรี” นักวิจัยจากมูลนิธิไฮน์ริก ระบุว่า “ระเบียบภาคเอกชนของรัฐบาลจีน ท้ายที่สุดแล้วเป็นเรื่องของการควบคุม สิ่งสำคัญคือการป้องกันไม่ให้บรรดาบริษัทมีพฤติกรรมที่เป็นอิสระ หรือมีแนวโน้มไม่เป็นไปตามกฎระเบียบ ซึ่งอาจบ่อนทำลายอำนาจแบบรวมศูนย์ของรัฐบาลจีน”

ขณะที่รายงานของนักวิจัยจาก “โกลด์แมน แซกส์” ระบุ การดำเนินการของรัฐบาลจีนเป็นความพยายามในการ “ปรับสมดุลของสังคมนิยมกับตลาดทุน” ซึ่งอาจสร้างความเสียหายให้กับเศรษฐกิจจีนมากถึง 1.2 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ

ก่อนหน้านี้ ทั้งพินตัวตัวและเทนเซ็นต์ยังเคยถูกสอบสวนโดยรัฐบาลจีนและถูกกล่าวหาว่า มีพฤติกรรมที่สร้างความไม่เป็นธรรมให้กับคู่แข่งในตลาด การบริจาคเงินจากส่วนหนึ่งของรายได้จึงเป็นความพยายามแสดงให้เห็นว่าบริษัทได้ปรับตัวตามนโยบายของภาครัฐซึ่งต้องจับตาดูว่ามาตรการของรัฐบาลจีนในการควบคุมบริษัทเอกชนนั้นจะเดินไปในทิศทางใดต่อไป ซึ่งคงไม่สิ้นสุดลงในเร็ว ๆ นี้เป็นแน่