รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขญี่ปุ่นเผยความเป็นไปได้ เข็มฉีดยาอาจเป็นสาเหตุให้พบสารปนเปื้อนในวัคซีนโมเดอร์นา
วันที่ 31 สิงหาคม 2564 กรณีญี่ปุ่นระงับการใช้งานวัคซีนป้องกันโควิด-19 ของโมเดอร์นาทั้งหมด 1.63 ล้านโดส หลังมีรายงานจากบริษัท ทาเกดะ ฟาร์มาซูทิเคิล หน่วยงานกระจายวัคซีนภายในประเทศว่า มีสารปนเปื้อนภายในขวดภาชนะที่บรรจุวัคซีน ซึ่งในภายหลังมีการเปิดเผยว่าสารปนเปื้อนนั้นคืออนุภาคโลหะ
- สมชัย เลิศสุทธิวงค์ ซีอีโอ “เอไอเอส” สละโสดในวัย 62 ปี
- กองทุนประกันวินาศภัยถังแตก แจ้งชะลอจ่ายคืนหนี้ตั้งแต่ มี.ค. 2567
- เรือชนสะพานถล่มในสหรัฐ กระทบเศรษฐกิจ การขนส่งสินค้าเป็นอัมพาต
ต่อมามีรายงานชาวญี่ปุ่น 2 รายเสียชีวิต หลังฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ของบริษัทโมเดอร์นา อิงก์ (Moderna Inc.) เป็นเข็มที่ 2 ได้เพียงไม่กี่วัน โดยผู้เสียชีวิตได้ฉีดวัคซีนลอตที่มีรายงานว่าพบสารปนเปื้อน ภายในขวดภาชนะ ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ล่าสุด รอยเตอร์ส รายงานว่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขเผยว่า มีความเป็นไปได้สูงว่าสารปนเปื้อนที่พบในวัคซีนของโมเดอร์นาในจังหวัดโอกินาวา เกิดจากเข็มฉีดยา
วัคซีนโมเดอร์นาบางส่วนถูกระงับใช้ชั่วคราวในจังหวัดโอกินาวาเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา หลังพบสารปนเปื้อนในขวดและหลอดฉีดยา โดยกระทรวงสาธารณสุขญี่ปุ่นเผยในเวลาต่อมาว่า เข็มฉีดยาอาจถูกสอดเข้าไปในขวดวัคซีนอย่างไม่ถูกต้อง ทำให้จุกยางแตก
“ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดก็ตาม (สำหรับเรื่องสิ่งแปลกปลอม) เราได้ยินมาว่าไม่มีปัญหาเรื่องความปลอดภัยหรืออื่น ๆ” นายโนริฮิสะ ทามูระ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขกล่าวกับผู้สื่อข่าว พร้อมเสริมว่า ไม่ใช่เรื่องแปลกที่สิ่งแปลกปลอมจะเข้าไปในขวดสำหรับวัคซีนชนิดอื่น
“เราจะรวบรวมข้อมูลและส่งรายงานกลับ” เขากล่าว
ญี่ปุ่นกำลังเผชิญหน้ากับการติดเชื้อโควิด-19 ระลอกใหญ่ที่สุดในช่วงการระบาด โดยมีปัจจัยจากสายพันธุ์เดลต้าที่แพร่เชื้อได้สูง ขณะที่การเร่งฉีดวัคซีนประสบความล่าช้าจากการนำเข้าวัคซีนและการพบสารปนเปื้อนในวัคซีนโมเดอร์นาบางส่วน ซึ่งนำไปสู่การระงับใช้วัคซีนโมเดอร์นาเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว