แบงก์ชาติอังกฤษเตือน “คริปโทฯ” อาจไร้ค่าในอนาคต

REUTERS/Dado Ruvic/Illustration/File Photo

รองผู้ว่าแบงก์ชาติอังกฤษ มองบิตคอยน์อาจ “ไร้ค่า” ชี้คริปโทอาจทำลายเสถียรภาพทางการเงินของโลก

วันที่ 15 ธันวาคม 2564 เดอะการ์เดี้ยนรายงานว่า เซอร์ จอน คันคลิฟฟ์ (Sir Jon Cunliffe) รองผู้ว่าธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) ได้กล่าวในการให้สัมภาษณ์กับรายการ Today ของสถานีวิทยุบีบีซี ว่า มูลค่าของเงินสกุลดิจิทัล หรือคริปโทเคอร์เรนซี อาจแตกต่างกันมากและมูลค่าอาจลดลงเป็นศูนย์ในทางทฤษฎีและทางปฏิบัติ

รองผู้ว่าการธนาคารของประเทศอังกฤษ ออกมาเตือนเกี่ยวกับเสถียรภาพทางการเงินดิจิทัลในเวลานี้ โดยเขามองว่า เหรียญคริปโทเคอร์เรนซีเป็นภัยคุกคามต่อเสถียรภาพทางการเงินของโลก เนื่องจากเป็นอุตสาหกรรมที่เติบโตเร็วจนเกินไป โดยตั้งคำถามว่า เงินสกุลดิจิทัลซึ่งราคาผันผวนนั้น เป็นไปตามธรรมชาติหรือไม่ ในวันหนึ่งมันอาจมีมูลค่าสูงถึงเกือบ 50,000 ดอลลาร์ต่อเหรียญ แต่ต่อมาไม่นานดิ่งลงฮวบอย่างน่าประหลาดใจ หลังมีกระแสข่าวข้อกังวลเกี่ยวกับไวรัสกลายพันธุ์โอไมครอน ความผันผวนโดยไร้การอ้างอิงเช่นนี้ในอนาคตอาจกลายเป็นสกุลที่ไร้ค่า

“ประเด็นคือผมคิดว่า สิ่งที่น่ากังวลคือเมื่ออนาคตหากเงินดิจิทัลถูกผนวกรวมกับระบบการเงิน ความผันผวนของตลาดเหรียญอาจส่งผลกระทบครั้งใหญ่ต่อตลาดการเงินอื่น ๆ และส่งผลกระทบต่อผู้เล่นในตลาดของสถาบันการเงินที่มั่นคง” คันลิฟฟ์ กล่าว

รองผู้ว่าแบงก์ชาติ เสริมอีกว่า หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจำเป็นต้องเตรียมพร้อมรับมือกับเรื่องนี้ ทั้งต้องชิงลงมือ ก่อนที่คริปโทจะกลายเป็นปัญหาใหญ่ที่บานปลายขึ้นเรื่อยๆ จำต้องมีหน่วยงานเฉพาะที่กำกับดูแลความเสี่ยงในการลงทุนประเภทนี้แล้ว BoE จำเป็นต้องเตรียมพร้อมรับความเปลี่ยนแปลงทางการเงินนี้เช่นกัน

เนื่องจากปัจจุบันราว 0.1% ของความมั่งคั่งครัวเรือนในสหราชอาณาจักรอยู่ในรูปแบบเงินสกุลดิจิทัล อาทิ อีเทอร์เรียม และบิตคอยน์ ขณะเดียวกันคาดว่าจะมีชาวอังกฤษราว 2.3 ล้านคน ที่ถือคริปโทเคอร์เรนซีไว้ จำนวนเฉลี่ยต่อคนประมาณ 300 ปอนด์

คันลิฟฟ์ ระบุอีกว่า คริปโทไม่ว่าจะเป็นบิตคอยน์ หรืออีเทอร์เรียมนั้นแทบที่จะเป็นภัยคุกคามต่อเสถียรภาพทางการเงินของโลกไปแล้ว เขามองว่าไม่ใช่เรื่องของความเสี่ยงเท่านั้น แต่ยังเป็นการเข้ามาก้าวก่ายแทรกแซงระบบการเงินที่มีอยู่แต่เดิมด้วย

ก่อนหน้านี้ คณะกรรมการนโยบายการเงินของธนาคารของอังกฤษ ซึ่งเป็นคณะทำงานที่ถูกจัดตั้งขึ้นหลังวิกฤตการณ์ทางการเงินในปี 2551 ให้ความเห็นเมื่อวันจันทร์ว่า คริปโทเคอร์เรนซีเป็นภัยคุกคามเพียงเล็กน้อยต่อเสถียรภาพของระบบการเงินของสหราชอาณาจักร อย่างไรก็ตาม พวกเขาเตือนว่า ด้วยการเติบโตอย่างรวดเร็วในปัจจุบัน สินทรัพย์ดังกล่าวอาจเชื่อมโยงกับบริการทางการเงินแบบดั้งเดิมมากขึ้นและมีแนวโน้มที่จะก่อให้เกิดความเสี่ยงหลายประการ

สอดคล้องกับ โทมัส เบลชาม ซึ่งทำงานในฝ่ายบริหารผลประโยชน์ธนาคาร กล่าวว่า ปัญหาของบิตคอยน์ ไม่ได้ใช้เพื่อกำหนดราคาสิ่งของ นอกจากกำหนดราคาตัวมันเอง มันจึงไม่เหมือนกับสกุลเงินแบบดั้งเดิม แม้บิตคอยน์จะถูกจำกัดอยู่ที่ 21 ล้านเหรียญ นั่นเป็นสาเหตุที่ทำให้นักลงทุนสนใจ แต่ด้วยลักษณะแบบนี้ ก็อาจทำให้บิตคอยน์ไร้ค่าในที่สุด