นายกรัฐมนตรีมาเลเซียลงพื้นที่เยี่ยมผู้ประสบภัยน้ำท่วม พร้อมยอมรับจุดอ่อนในการรับมือปัญหาน้ำท่วม
วันที่ 21 ธันวาคม 2564 แชนแนลนิวส์เอเชียรายงานว่า “อิสมาอิล ซาบรี ยาคอบ” นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ยอมรับว่า มีจุดอ่อนในการประสานงานเพื่อรับมือกับอุทกภัยครั้งใหญ่ และสัญญาว่าจะพัฒนาปรับปรุงในอนาคต
- ร้านธงฟ้า 1.4 แสนแห่ง พร้อมรับดิจิทัลวอลเลต เช็กจังหวัดไหนร้านธงฟ้ามาก-น้อยสุด
- นักท่องเที่ยวเข้าต่ำแสน หวั่นโลว์ซีซั่นทรุดหนัก ททท.ชี้กระทบสั้นยอดบุ๊กกิ้งแอร์ไลน์แน่น
- เปิด 10 อันดับมหาวิทยาลัยรัฐ-ราชภัฏ-เอกชน ที่ได้รับความนิยมมากสุด
เขากล่าวว่า การจัดการภัยพิบัติจากอุทกภัยไม่ใช่ความรับผิดชอบของรัฐบาลกลางเท่านั้น แต่ยังรวมถึงเจ้าหน้าที่ระดับรัฐและระดับเขตด้วย
“ผมไม่ปฏิเสธ (จุดอ่อน) และจะปรับปรุงในอนาคต ความรับผิดชอบไม่ใช่หน้าที่ของรัฐบาลเพียงผู้เดียว แต่เป็นความรับผิดชอบของรัฐบาลแต่ละรัฐด้วย” เขาให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวหลังเดินทางเยี่ยมเหยื่อน้ำท่วมในเขตเจเลบู รัฐเนอเกอรีเซิมบีลัน เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา
“สำนักงานจัดการภัยพิบัติแห่งชาติทำหน้าที่เพียงประสานงานเท่านั้น หากถือเป็นจุดอ่อนในการประสานงานผมจะไม่ปกป้องใครในสถานการณ์นี้ สำหรับผมทุกคนต้องรับผิดชอบ” นายกรัฐมนตรีมาเลเซียกล่าว และว่า สถานการณ์น้ำท่วมในรัฐสลังงอร์เป็นเรื่องที่คาดไม่ถึง
“ในสลังงอร์มีปัญหาอย่างหนึ่ง เรามีความโปร่งใสเกี่ยวกับเรื่องนี้ และผมไม่ต้องการปิดบังใคร” เขากล่าวและปิดท้ายว่า
“ในรัฐอื่น ๆ โดยเฉพาะแถบชายฝั่งตะวันออก เกิดน้ำท่วมเป็นประจำทุกปีอยู่แล้ว จึงมีการเตรียมการไว้แล้ว เพียงแต่ต้องรอดูว่าจะต้องเปิดศูนย์บรรเทาทุกข์หรือไม่”
จนถึงขณะนี้มีผู้สูญหายกว่า 20 รายในรัฐสลังงอร์และปะหัง ขณะที่ผู้ประสบอุทกภัยเกือบ 67,000 รายต้องอพยพไปยังศูนย์บรรเทาทุกข์ 422 แห่งเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ต่อมาในช่วงเที่ยงวันอังคารจำนวนผู้ประสบอุทกภัยที่ต้องอพยพไปศูนย์บรรเทาทุกข์เพิ่มขึ้นในรัฐปะหังและเนเกรี จำนวน 39,806 ราย และ 765 รายตามลำดับ