ที่ประชุมความมั่นคงยูเอ็นเดือด รัสเซีย-สหรัฐ ซัดอีกฝ่ายปั่นวิกฤตยูเครน

Ukrainian Defense Ministry Press Service via AP

ที่ประชุมความมั่นคงยูเอ็นเดือด รัสเซีย-สหรัฐ ซัดอีกฝ่ายปั่นวิกฤตยูเครน สหรัฐชี้การกระทำรัสเซียเป็นภัยคุกคามสันติภาพ เสถียรภาพ

วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2565 สำนักข่าวเอพี รายงานการประชุมคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ หรือ UNSC ว่าด้วยวิกฤตยูเครน เมื่อวันที่ 31 ม.ค. ในที่ประชุมสหประชาชาติ ตัวแทนรัฐบาลสหรัฐอเมริกากับตัวแทนรัฐบาลรัสเซียต่างกล่าวโทษกันว่าอีกฝ่ายเร้าให้เกิดสถานการณ์ตึงเครียดขึ้น สหรัฐชี้ว่าการกระทำของรัสเซียเป็นภัยคุกคามสันติภาพและเสถียรภาพ

ลินดา โธมัส-กรีนฟิลด์ เอกอัครราชทูตสหรัฐประจำสหประชาชาติ กล่าวโจมตีรัสเซียที่เคลื่อนกำลังทหารมากกว่า 100,000 นายเข้าประชิดแนวพรมแดนติดยูเครน ว่าเป็นการเคลื่อนกำลังทหารที่ใหญ่ที่สุดของยุโรปในรอบหลายทศวรรษ อีกทั้งยังโจมตีทางไซเบอร์และปล่อยข้อมูลหลอกลวงอีกมากเพื่อโหมโรงให้เกิดการบุกรุกในที่สุด

AP Photo/Richard Drew

ด้าน วาสสิลี เนเบนเซีย เอกอัครราชทูตรัสเซียประจำสหประชาชาติ ตอบโต้ว่า สหรัฐเข้าแทรกแซงกิจการภายในของประเทศอื่นแล้วใช้การทูตโทรโข่งตามสูตรเดิม ปั่นกระแสให้เกิดความตึงเครียด หวาดผวา และยั่วยุ

AP Photo/Richard Drew

“ท่านทำเกือบจะทั้งหมดนี้ ท่านต้องการให้มันเกิด ท่านรอจนมันเกิด เพราะท่านต้องการให้ถ้อยคำที่เอ่ยออกมามันเป็นจริง” ทูตรัสเซียกล่าว พร้อมโจมตีว่า การที่สหรัฐเข้ามาขับไล่ประธานาธิบดียูเครนคนที่เป็นมิตรกับรัสเซีย เมื่อปี 2557 แล้วมอบตำแหน่งนั้นให้กับพวกชาตินิยม หัวรุนแรง ปั่นกระแสให้ผวารัสเซีย และสร้างนาซีที่แท้ขึ้นมา นั่นทำให้เกิดความเป็นปรปักษ์ระหว่างยูเครนกับรัสเซียขึ้น

จากนั้นจังหวะที่ เซอร์เก คีสลีตสยา เอกอัครราชทูตยูเครนประจำสหประชาชาติ จะกล่าวต่อในที่ประชุม ทูตรัสเซียได้ลุกเดินออกจากห้องประชุมไปก่อน ขณะที่ทูตยูเครนกล่าวต่อว่า “รัสเซียจะกดดันไปอีกนานแค่ไหน จะพยายามผลักยูเครนและพันธมิตรเข้าไปติดกับใช่หรือไม่”

ทั้งนี้การประชุมดังกล่าวมีขึ้นตามข้อเรียกร้องของสหรัฐที่เห็นว่า การเดินเกมหลังม่านดำเนินมาพักใหญ่แล้ว สมควรต้องพูดกันเปิดเผย จากนั้นที่ประชุมสมาชิกคณะมนตรี 15 ประเทศจึงลงมติให้เปิดการประชุม ด้วยคะแนน 10-2 โดยรัสเซียและจีนไม่เห็นด้วย ขณะที่อินเดีย กาบอง และเคนยา งดออกเสียง

AP Photo/Richard Drew

หลังการประชุม ทูตสหรัฐกล่าวว่าผิดหวังกับความเห็นของทูตรัสเซีย ซึ่งยิ่งตอกย้ำถึงการข่มขู่คุกคามก้าวร้าวว่าเป็นการยั่วยุ จากนั้นประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐ กล่าวถึงเรื่องนี้ระหว่างต้อนรับผู้นำจากกาตาร์ ว่าสหรัฐจะเดินเกมทางการทูตอย่างไม่หยุดยั้ง แต่ก็พร้อมเสมอไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น

ช่วงเวลาเดียวกัน กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐสั่งครอบครัวนักการทูตชาวอเมริกันที่อยู่ประเทศเบลารุสให้เดินทางออกมาทันที หลังรัสเซียส่งกองกำลัง รถถัง และยุทโธปกรณ์อื่น ๆ เข้าไปซ้อมรบที่นั่น ซึ่งเจ้าหน้าที่ชาติตะวันตกเกรงว่า รัสเซียอาจใช้เบลารุสเป็นช่องทางบุกรุกเข้าไปยังยูเครน โดยเฉพาะทะลวงเข้าถึงกรุงเคียฟทางด้านเหนือ ในขณะที่แนวชายแดนด้านอื่น มีทหารรัสเซียตรึงอยู่แล้ว