มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก หลุด Top 10 เศรษฐีโลก หลังหุ้น Meta ร่วง

มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก ความมั่งคั่งลดลงหลังหุ้น Meta ร่วงกว่า 20%
FILE PHOTO: Photo by Nicholas Kamm / AFP

ความมั่งคั่งของ มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก ลดลง 29,000 ล้านเหรียญเพียงวันเดียว หลังหุ้น Meta ร่วง เขย่าราคาตลาดคริปโท

วันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2565 แชนแนลนิวส์เอเชีย รายงานว่า “มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก” สูญเสียความมั่งคั่งทางการเงิน 29,000 ล้านเหรียญเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา (3 ก.พ.) เนื่องจากหุ้น Meta ทำสถิติดิ่งลงเป็นประวัติการณ์ภายในหนึ่งวัน หลังการคาดการณ์ผลประกอบการที่น่าผิดหวังซึ่งเขย่าวงการเทคโนโลยีทั่วโลก

หุ้น Meta ร่วงลง 26% สูญเสียมูลค่าในตลาดรุนแรงที่สุด ในช่วงเวลาเพียง 1 วันไปกว่า 200,000 ล้านเหรียญ ทำให้ความมั่งคั่งของผู้ก่อตั้งและซีอีโออย่าง “ซักเคอร์เบิร์ก” ลดลงเหลือ 85,000 ล้านเหรียญ ตามรายงานจากฟอร์บส

ทั้งนี้ ซักเคอร์เบิร์กเป็นเจ้าของหุ้นบริษัทยักษ์เทคโนโลยีราว 12.8% ซึ่งเดิมถูกเรียกว่า Facebook

ความมั่งคั่งที่ลดลงในระยะเวลาเพียงวันเดียวของเขา นับเป็นการลดลงครั้งใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมา และเกิดขึ้นหลังจาก “อีลอน มัสก์” ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสูงสุดของเทสลาที่สูญเสียไป 35,000 ล้านเหรียญ ในเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา

มัสก์ บุคคลที่ร่ำรวยที่สุดในโลก ได้ทำโพลในทวิตเตอร์ว่าเขาควรขายหุ้น 10% ในบริษัทผลิตรถยนต์ไฟฟ้าหรือไม่ และหุ้นเทสลายังคงไม่มีการฟื้นตัวหลังจากมัสก์ขายหุ้นทิ้ง

โบรกเกอร์อย่างน้อย 21 แห่ง ลดราคาเป้าหมายหุ้น Meta หลังจากที่บริษัทเผยคาดการณ์ที่ต่ำกว่าที่คาด เมื่อวันพุธที่ผ่านมา (2 ก.พ.) โดยกล่าวโทษการเปลี่ยนแปลงความเป็นส่วนตัวของ Apple และการแข่งขันที่เพิ่มขึ้นสำหรับผู้ใช้จากคู่แข่งรวมถึง TikTok และ YouTube

หลังจากสูญเสีย 29,000 ล้านเหรียญ ซักเคอร์เบิร์กได้ร่วงลงไปอยู่ที่อันดับ 12 ในอันดับมหาเศรษฐีแบบเรียลไทม์ของฟอร์บส รองลงมาคือ “มูเกช อัมบานี” และ “โกตัม อดานิ” นักธุรกิจชาวอินเดีย

เพื่อให้แน่ใจว่าการซื้อขายหุ้นเทคโนโลยียังคงมีความผันผวน เนื่องจากนักลงทุนพยายามดิ้นรนเพื่อปรับพอร์ตจากผลกระทบของเงินเฟ้อที่สูง และอัตราดอกเบี้ยที่คาดว่าจะสูงขึ้น ทั้งนี้ หุ้น Meta สามารถฟื้นตัวได้เร็วขึ้นในภายหลัง โดยความมั่งคั่งของซักเคอร์เบิร์กยังติดอันดับบนกระดาน

ซักเคอร์เบิร์กขายหุ้น Meta มูลค่า 4,470 ล้านเหรียญในปีที่แล้ว การขายหุ้นครั้งดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของแผนการซื้อขาย 10b5-1 ที่กำหนดไว้ล่วงหน้า ซึ่งผู้บริหารใช้เพื่อบรรเทาความกังวลเกี่ยวกับการซื้อขายหลักทรัพย์โดยใช้ข้อมูลวงใน

ผู้ใช้งานลดในรอบ 18 ปี เปิดสาเหตุ

วานนี้ (3 ก.พ.) “เมตา เน็ตเวิร์ก” บริษัทแม่ของเฟซบุ๊กเผยว่า ยอดผู้ใช้งานรายวัน (DAUs) ลดลงไปอยู่ที่ 1,929 ล้านคน ในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 2564 ขณะที่ไตรมาส 3 มีผู้ใช้งานรายวันอยู่ที่ 1,930 ล้านคน ซึ่งถือเป็นการลดลงครั้งแรกในรอบ 18 ปี

เมตา เน็ตเวิร์ก ยังเผยสาเหตุด้วยว่า รายได้ที่เติบโตอย่างชะลอตัวมาจากการแข่งขันกับคู่แข่งอย่าง TikTok และ YouTube ขณะที่ผู้โฆษณาก็ลดค่าใช้จ่ายลง

หุ้นของเมตาร่วงลงมากกว่า 20% ในการซื้อขายนอกเวลาทำการในนิวยอร์ก ส่งผลให้รายได้ลดลงมากถึง 200,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จากมูลค่าตลาดหุ้นของบริษัท

ส่วนหุ้นของโซเชียลมีเดียอื่น ๆ ซึ่งรวมถึงทวิตเตอร์ สแนป และพินเทอเรส ก็ลดลงอย่างมากในการซื้อขายระยะยาว

“มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กล่าวว่า การเติบโตของยอดขายได้รับผลกระทบ เนื่องจากผู้ชม โดยเฉพาะผู้ใช้ที่อายุน้อย ๆ ได้ผละจากเฟซบุ๊กไปหาคู่แข่ง

เมตา ซึ่งเป็นเจ้าของแพลตฟอร์มโฆษณาดิจิทัลที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลก รองจากกูเกิล ยังระบุด้วยว่า ได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงความเป็นส่วนตัวในระบบปฏิบัติการของแอปเปิล

“การเปลี่ยนแปลงดังกล่าวทำให้แบรนด์ต่าง ๆ กำหนดเป้าหมายและวัดผลโฆษณาบนเฟซบุ๊กและอินสตาแกรม ยากขึ้น และอาจส่งผลกระทบต่อคำสั่งซื้อมูลค่ากว่า 10,000 ล้านเหรียญในปีนี้” เดฟ เวห์เนอร์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงินของเมตา กล่าว

รายได้รวมของเมตา ซึ่งส่วนใหญ่มาจากการขายโฆษณา เพิ่มขึ้นเป็น 33,670 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งใกล้เคียงกับการคาดการณ์ของตลาด

นอกจากนี้ ยังคาดการณ์รายรับที่ระหว่าง 27,000-29,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐในไตรมาสหน้า ซึ่งต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้

เขย่าตลาดคริปโท

หลังจากที่หุ้น Meta ร่วง คอยน์เดสก์ รายงานว่า บิตคอยน์ และตลาดคริปโทเผชิญกับแรงกดดันจากการขายทิ้งที่หนักหนา ซึ่งถือเป็นการสิ้นสุดแนวรับสองวันของคริปโทเคอร์เรนซีที่เก่าแก่ที่สุด

การลดลงของราคาในช่วงบ่ายของคริปโท เป็นผลจากกำไรไตรมาส4 และรายงานคาดการ์ที่น่าผิดหวังสำหรับไตรมาสปัจจุบัน

โดยวานนี้ สกุลเงินดิจิทัลที่ใหญ่ที่สุดมีราคาตลาอยู่ที่ประมาณ 37,000 เหรียญ ลดลง 4.5% ใน 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา อีเธอเรียม สกุลเงินดิจิทัลอันดับสองอยู่ที่ประมาณ 2,690 เหรียญ ลดลง 3.8% ในช่วงเวลาเดียวกัน

ตามข้อมูลจากคอยน์เดสก์ ปริมาณการซื้อขายบิตคอยน์ยังคงลดลงอย่างต่อเนื่องตั้งแต่วันพุธที่ผ่านมา