‘ฝรั่งเศส’ ออกกฎเหล็ก ‘ห้าม’ นักเรียนใช้มือถือในโรงเรียน เริ่มก.ย.ปีหน้า

เดอะ เทเลกราฟ รายงานว่า รัฐบาลฝรั่งเศสเตรียมประกาศกฎบังคับใช้ “ห้าม” นักเรียนใช้โทรศัพท์มือถือในโรงเรียนประถมศึกษาและมัธยมศึกษาตอนต้น โดยกำหนดให้เริ่มบังคับใช้ตั้งแต่ดือนกันยายน ปี 2018 ทั้งนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการได้ให้การรับรองแล้ว

ตามกฎระเบียบในขณะนี้ กฎห้ามใช้โทรศัพท์มือถือสำหรับนักเรียนในฝรั่งเศสถือว่าเป็นคำสั่งโดยสมบูรณ์ เพียงแต่รอประกาศใช้อย่างเป็นทางการเท่านั้น ก่อนหน้านี้ กรณีการต้องห้ามดังกล่าวถือว่าเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์มาสักพักใหญ่ ระหว่างผู้เชี่ยวชาญด้านการศึกษา และกลุ่มผู้ปกครอง

อย่างไรก็ตาม ประธานาธิบดี เอ็มมานูเอล มาครง ให้เหตุผลว่า “การใช้โทรศัพท์มือถือในเวลาเรียน หรือการอนุญาตให้นำโทรศีพย์มือถือมาโรงเรียนได้ เป็นหนึ่งในสาเหตุสำคัญที่ทำให้สุขภาพนักเรียนเปลี่ยนแปลงไปในทางที่แย่ลง เนื่องจากในเวลาพักเบรกช่วงกลางวัน จากเดิมที่มักจะร่วมกันทำกิจกรรมสร้างสรรค์หรือพูดคุยกันเพื่อสร้างความคุ้นเคย นักเรียนกลับเอาเวลาทั้งหมดในช่วงระหว่างวัน โฟกัสไปที่โทรศัพท์มือถือ และสื่อโซเชียลมีเดียอื่นๆ มากกว่า”

นอกจากนี้ ผู้เชี่ยวชาญเคยระบุว่า การใช้สมาร์ทโฟนที่มากจนเกินไปเป็นบ่อเกิดของการสูญเสียสมาธิในระยะยาว หรือ เสี่ยงเป็นโรคสมาธิสั้น นั่นเอง

ทั้งนี้ ผลสำรวจในหลายๆ ปีที่ผ่านมา พบว่าในฝรั่งเศสจำนวนนักเรียนอายุระหว่าง 12-17 มีโทรศัพท์มือถือใช้มากถึง 93% และสิ่งที่น่าตกใจก็คือ ตลอดการเรียนการสอนในแต่ละวันยังมีนักเรียนที่ใช้สมาร์ทโฟนในการส่งข้อความหากันในหลายแอปพลิเคชั่นต่างๆ ซึ่งเป็นสิ่งบ่งชี้ว่า ระหว่างชั่วโมงการเรียนนักเรียนจำนวนมากไม่ตั้งใจเรียน และยังโฟกัสไปที่การใช้โทรศัพท์มือถือในระหว่างที่คุณครูสอน


ส่วนบทลงโทษ หรือทางออกในรูปแบบอื่นๆ นาย Jean-Michel Blanquer รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการฝรั่งเศส กล่าวว่า ยังไม่ชัดเจนว่าจะเพิ่มเติมหรือแก้ไขกฎระเบียบดังกล่าวใมนรูปแบบใด อาจจะเป็นการแนะนำให้ในแต่ละโรงเรียนจะต้องมี “ตู้เก็บของ” สำหรับโทรศัพท์มือถือโดยเฉพาะ และเก็บรักษาไว้จนกว่าจะถึงเวลาเลิกเรียน เป็นต้น