การประชุมผู้นำสามฝ่าย ระหว่างจีน ฝรั่งเศส และเยอรมนี ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง แสดงจุดยืนชัด ไม่เห็นด้วยกับการแซงก์ชั่นรัสเซีย เพราะเจ็บกันทั้งโลก
วันที่ 8 มีนาคม 2565 เอบีซี นิวส์ รายงานว่า ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำจีน กล่าวแสดงท่าทีต่อศึกรัสเซีย-ยูเครน และการตอบโต้ของชาติตะวันตกที่รุมแซงก์ชั่นรัสเซีย ว่าจีนวิตกกังวลและเจ็บปวดที่เห็นไฟสงครามปะทุขึ้นในยุโรป และเห็นว่าการแซงก์ชั่นมีแต่จะทำร้ายทุกฝ่าย
- ลูกแม่ค้าขายผัก-พ่อขับแท็กซี่ สู่เก้าอี้ “ปลัดพลังงาน” บทพิสูจน์ชีวิต “ดร.ประเสริฐ สินสุขประเสริฐ”
- KBANK ปรับโครงสร้างใหญ่ ลดจำนวนบอร์ด ตั้ง 4 เอ็มดีเป็น “ผู้จัดการใหญ่” มีผล 1 พ.ค.67
- เงื่อนไขปุ๋ยลดราคาเฟส 2 สูตรไหน-พืชชนิดใดบ้าง
ผู้นำสีกล่าวผ่านการประชุมออนไลน์กับนายเอ็มมานูเอล มาครง ประธานาธิบดีฝรั่งเศส และนายโอลาฟ โชลซ์ นายกรัฐมนตรีเยอรมนี ว่าทั้ง 3 ประเทศควรร่วมมือกันสนับสนุนการเจรจาสันติภาพระหว่างรัสเซียและยูเครน และขอเรียกร้องให้ทุกฝ่าย “อดทนอดกลั้นถึงที่สุด”
สิ่งแรกที่ควรจะต้องทำ คือ ป้องกันไม่ให้สถานการณ์รุนแรงขึ้น ไม่ปล่อยให้สถานการณ์เลวร้ายเกินกว่าที่จะควบคุมได้ นอกจากนี้ ฝรั่งเศสและเยอรมนีควรพยายามลดผลกระทบด้านลบที่เกิดจากวิกฤตในยูเครน
“เราต้องร่วมมือกันลดผลกระทบทางลบจากวิกฤตนี้ เมื่อมองผลของมาตรการแซงก์ชั่นต่าง ๆ ต่อเสถียรภาพการเงินโลก แหล่งพลังงาน การขนส่ง และห่วงโซ่อุปทาน จากที่เศรษฐกิจโลกก็บอบช้ำจากโรคระบาดอยู่แล้ว การแซงก์ชั่นมีแต่จะทำร้ายทุกฝ่าย” สี จิ้นผิง กล่าว
ทั้งนี้ ตั้งแต่เกิดศึกรัสเซียบุกยูเครน จีนปฏิเสธที่จะประณามการกระทำของรัสเซีย และไม่เรียกว่าเป็นการบุกรุกรวมถึงแสดงความไม่เห็นด้วยหลายครั้งต่อสิ่งที่ระบุว่าเป็นการแซงก์ชั่นรัสเซียอย่างผิดกฎหมาย
ส่วนรัฐบาลรัสเซียอ้างว่าการกระทำของรัสเซียต่อยูเครนเป็น “ปฏิบัติการพิเศษทางทหาร” เพื่อปลดอาวุธเพื่อนบ้านและผู้นำที่รัสเซียเรียกว่าเป็นนีโอนาซี
จีนและรัสเซียกระชับความสัมพันธ์กันเมื่อเดือนที่แล้ว เมื่อวลาดิมีร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย ร่วมพิธีเปิดโอลิมปิกฤดูหนาวที่กรุงปักกิ่ง เป็นวันเดียวกันกับที่ทั้ง 2 ประเทศประกาศความสัมพันธ์เชิงยุทธศาสตร์อย่างไม่มีข้อจำกัด
แต่เมื่อรัสเซียใช้กำลังทางทหารกับยูเครนจึงทำให้จีนกระอักกระอ่วนใจเพราะสงครามทวีความรุนแรง
เมื่อวันจันทร์ที่ 7 มี.ค. นายสกอตต์ มอร์ริสัน นายกรัฐมนตรีออสเตรเลีย กล่าวว่าจีน มีอำนาจเหนือกว่าประเทศอื่นในการยับยั้งรัสเซียบุกยูเครนซึ่งขึ้นอยู่กับจีนว่าจะช่วยให้เกิดสันติภาพในโลกและจะเป็นจุดเปลี่ยนที่สำคัญอย่างไร
“ไม่มีประเทศใดที่ได้รับผลกระทบจากสงครามในยูเครนมากไปว่าจีนแล้ว แต่ตราบใดที่ยังเดิมพันกันคนละทิศคนละทาง ผมเกรงว่าจะเกิดการนองเลือดต่อไป” ผู้นำออสเตรเลียกล่าว
ด้านรัฐบาลสหรัฐอเมริกา นายโจ ไบเดน ประธานาธิบดี เดินหน้าใช้มาตรการห้ามนำเข้าน้ำมันรัสเซีย จนเขย่าราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกให้พุ่งไม่หยุด แต่รัฐบาลสหรัฐเชื่อว่านี่เป็นหนทางที่จะบีบให้รัสเซียถอยทัพได้ โดยเฉพาะหากยุโรปร่วมด้วย