เกาหลีใต้เปิดหีบเลือกตั้งชิงประธานาธิบดีคนใหม่

จับตาเกาหลีใต้เปิดฉากเลือกตั้งประธานาธิบดี คาดรู้ผลผู้นำโสมขาวคนใหม่ค่ำนี้ 

วันที่ 9 มีนาคม 2565 สำนักข่าวยอนฮับรายงานว่า นับตั้งแต่ช่วงเช้าเวลา 06.00 น. ที่เกาหลีใต้เปิดหีบลงคะแนนเลือกตั้งประธานาธิบดี จนเวลา 13.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น มีชาวเกาหลีใต้ราว 60% หรือประมาณ 27 ล้านคน จากผู้มีสิทธิเลือกตั้งทั้งหมดจำนวน 44.2 ล้านคน เดินทางไปลงคะแนนตามหน่วยเลือกตั้งทั้ง 14,464 หน่วยทั่วประเทศแล้ว

การเปิดเผยจากคณะกรรมการการเลือกตั้งแห่งชาติ (NEC) ระบุว่า การลงคะแนนเสียงเลือกตั้งในครั้งนี้จะคึกคักกว่าการเลือกตั้งประธานาธิบดีครั้งก่อนเมื่อปี 2017 โดยการลงคะแนนล่วงหน้าเมื่อวันศุกร์และเสาร์ที่ผ่านมา มีผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้าสูงกว่า 55.5% มากกว่าการเลือกตั้งประธานาธิบดีเมื่อ 5 ปีก่อน หากแบ่งตามภูมิภาค ผ่านไปเพียงครึ่งวันกรุงโซลมีรายงานผู้ออกมาใช้สิทธิในวันนี้มากที่สุดกว่า 60% ตามด้วยจังหวัดคยองกีที่ 59% และเมืองอินชอนที่ 58%

การเลือกตั้งในวันนี้เกิดขึ้นท่ามกลางสถานการณ์โควิดที่พบตัวเลขผู้ติดเชื้อในเกาหลีใต้สูงที่สุดเป็นประวัติการณ์นับตั้งแต่ประเทศเผชิญการระบาด ขณะที่ผู้ซึ่งอยู่ระหว่างกักกันตัว รวมถึงผู้ที่ป่วยติดเชื้อโควิดรัฐบาลได้จัดให้มีการลงคะแนนเสียงล่วงหน้า ผ่านกระบวนการหย่อนคะแนนที่เข้มงวด มีการรวบรวมกระดาษของผู้ลงคะแนนในถุงพลาสติกอย่างมิดชิด

ส่วนผู้ที่อยู่ในระหว่างกักกันหรือผู้ป่วยโควิดที่ใช้สิทธิในวันนี้ แต่ละเขตเลือกตั้งจะมีการจัดการลงคะแนนแยกส่วนเป็นการเฉพาะระหว่างเวลา 18.00 ถึง 19.30 น. ซึ่งเป็นเวลาหลังจากที่ปิดหีบลงคะแนนสำหรับคนทั่วไป โดยคณะกรรมการเลือกตั้งเกาหลียังได้ปรับกฎระเบียบเพื่ออำนวยความสะดวกให้ผู้ป่วยโควิด หรือผู้ที่ต้องกักกันสามารถหย่อนบัตรลงคะแนนได้ด้วยตนเอง

ศึกเลือกตั้งชิงเก้าอี้ประธานาธิบดีครั้งนี้นับว่ามีการแข่งขันกันอย่างดุเดือดระหว่างสองแนวคิดทั้งฝ่ายอนุรักษนิยม และฝ่ายเสรีนิยม ผลโพลหลายสำนักก่อนหน้านี้ชี้ว่า ทั้งนาย อี แจ มยอง ผู้สมัครจากพรรคมินจู สายเสรีนิยม ทายาททางการเมืองของประธานาธิบดีมุน แจ อิน กับนายยุน ซุก ยอล ผู้สมัครจากฝ่ายค้านพรรคพลังประชาชนเกาหลี ซึ่งเป็นฝ่ายอนุรักษนิยม ต่างมีคะแนนขับเคี่ยวสูสี

ทว่าอย่างไรก็ตาม หลายฝ่ายมองว่าการเลือกตั้งประธานาธิบดีในปีนี้ เป็นการเลือกตั้งที่แย่ที่สุดของประเทศ เนื่องจากการรณรงค์แคมเปญหาเสียงเชิงลบจากทุกฝ่ายทั้งสองฝ่ายในบรรดานักการเมืองระดับสูงของทั้งสองพรรค แทนที่จะรณรงค์แคมเปญหาเสียงที่ฟื้นเศรษฐกิจหรือความมั่นคงของประเทศ ซึ่งจะยิ่งสร้างความเกลียดชังของสาธารณชนต่อผู้สมัครฝ่ายตรงข้ามมากขึ้น และนั่นอาจนำไปสู่ความวุ่นวายทางการเมือง หลังเกาหลีใต้ได้ประธานาธิบดีคนใหม่

ทั้งนี้ สถานีโทรทัศน์หลักของเกาหลีคาดว่าจะมีรายงานผลการนับคะแนนและคาดการณ์แนวโน้มผู้สมัครที่มีโอกาสชนะเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดีเกาหลีใต้คนใหม่ตั้งแต่เวลา 19.30 น. ตามเวลาท้องถิ่น แต่อย่างไรก็ตาม หากผลการนับคะแนนของผู้สมัครตัวเก็งทั้งสองสูสีกัน อาจต้องรอผลการนับคะแนนจากผู้ใช้สิทธิโควิดที่มีกำหนดปิดหีบช้ากว่าการลงคะแนนทั่วไป


ภาพ : ยอนฮับ