สหรัฐประกาศเล่นงาน ลูกสาวปูติน 2 คน – ขู่อินเดีย เสียหายแน่ถ้าคบค้ารัสเซีย

ลูกสาวปูติน
ซ้าย มาเรีย ลูกสาว ขวา ลุดมิยา ที่ตอนนี้เป็นอดีตภรรยา (Photo: ALEXANDER NEMENOV/AFP via Getty Images)

อเมริกากระชับวงล้อมเข้าไปรัดผู้นำรัสเซียมากขึ้นอีก ด้วยข้อกล่าวหาอาชญากรรมสงคราม ซึ่งปรากฏหลักฐานที่เมืองบูชา ใกล้กรุงเคียฟ ครั้งล่าสุดนี้ประกาศเป้าหมายลงโทษ ลูกสาวปูติน ทั้งสองคน

วันที่ 6 เมษายน 2565 สำนักข่าว เอพี รายงานว่า รัฐบาลสหรัฐอเมริกาประกาศเพิ่มมาตรการลงโทษทางเศรษฐกืจ หรือ แซงก์ชั่น ลูกสาว 2 คนของประธานาธิบดี วลาดิมีร์ ปูติน ได้แก่ มารียา ปูตินา และ แคเทอรีนา ติกโฮโนวา

ลูกสาวปูติน
มาเรีย ปูตินา ลูกสาวคนโตของปูติน

รวมไปถึงนายมิกฮาอิล มิชูสติน นายกรัฐมนตรีรัสเซีย พร้อมภรรยาและลูก นายเซอร์เก ลาฟรอฟ รมว.ต่างประเทศรัสเซีย และนายดมิทรี เมดเวเดฟ สมาชิกสภาความมั่นคงที่เป็นอดีตประธานาธิบดี บุคคลในเป้าหมายทั้งหมดนี้จะถูกตัดออกจากระบบการเงินของสหรัฐ ถูกอายัดทรัพย์ทั้งหมดที่มีในสหรัฐ

ขณะเดียวกันยังลงโทษธนาคาร 2 แห่ง ได้แก่ สเบอร์แบงก์ และอัลฟา แบงก์ ไม่ให้เข้าระบบการเงินใดๆ ของสหรัฐ และห้ามชาวอเมริกันทำธุรกิจใดๆ กับธนาคารทั้งสอง

ลูกสาวปูติน
แคเทอรีนา ลูกสาวคนเล็ก

ประธานาธิบดี โจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐ กล่าวว่า มาตรการลงโทษครั้งล่าสุดมุ่งให้เกิดความเสียหายร้ายแรง นี้เป็นไปตามที่ตนเคยกล่าวว่า รัสเซียจะต้องชดใช้อย่างสาสม ต่อการกระทำโหดร้ายในเมืองบูชา

นายไบเดนยังจะลงนามคำสั่งฝ่ายบริหารเพื่อห้ามชาวอเมริกันลงทุนใหม่ใดๆ ในรัสเซีย ไม่ว่าจะมาจากที่ใดในโลก และกระทรวงการคลังสหรัฐยังจัดเตรียมมาตรการแซงก์ชั่นต่อบริษัทรัฐวิสาหกิจหลักๆ ของรัสเซียด้วย

ด้านคณะกรรมาธิการยุโรปเสนอห้ามนำเข้าถ่านหินจากรัสเซีย ซึ่งเป็นมาตรการแรกที่ยุโรปใช้ลงโทษรัสเซียด้านพลังงาน หลังจากยุโรปถูกครหาว่าพึ่งพาพลังงานจากรัสเซียมากเกินไปจนขยับเขยื้อนลำบาก

ศพในเมืองบูชา ที่ตำรวจยูเครนตรวจสอบและระบุเป็นชาวบ้าน ก่อนมอบให้ญาติไปประกอบพิธีทางศาสนา เมื่อ 6 เม.ย. (AP Photo/Rodrigo Abd)

นายโจเซฟ บอร์เรล หัวหน้ากิจการต่างประเทศของสหภาพยุโรป กล่าวว่า ยุโรปยังคงจ่ายค่าพลังงานเป็นเงินนับพันล้านยูโรให้ปูตันทุกวันนับจากสงครามเริ่มต้นขึ้น ตอนนี้จ่ายไปแล้ว 35,000 ล้านยูโร เทียบกับเงิน 1 พันล้านยูโรปที่เราให้ยูเครนเป็นอาวุธยุทโธปกรณ์

ด้าน บลูมเบิร์ก รายงานว่า นายไบรอัน ดีส ที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจของ ประธานาธิบดีไบเดน กล่าวเตือนอินเดีย ชาติมหาอำนาจเอเชียอีกประเทศนอกเหนือจาก จีน ที่ไม่ได้แสดงปฏิกิริยาต่อต้านรัสเซียในศึกครั้งนี้ อีกทั้งยังเผยท่าทีที่จะทำการค้ากับรัสเซีย ว่าหากทำเช่นนั้นจริง อินเดียจะต้องเจอกับผลลัพธ์ที่ไม่พึงปรารถนาตามมา

นายเซอร์เก ลาฟรอฟ รมว.ต่างประเทศรัสเซีย พบปะนายเอส ชัยศันการ์ รัฐมนตรีต่างประเทศอินเดีย ที่กรุงนิวเดลี เมื่อ 1 เม.ย. 2022. (Indian Foreign Minister S. Jaishankar’s Twitter handle via AP)

ก่อนหน้านี้รัฐบาลนายไบเดนแถลงว่า ผิดหวังกับท่าทีของจีนและอินเดีย ที่มีต่อการรุกรานยูเครนของรัสเซีย ซึ่งแตกต่างจากชาติตะวันตก รวมถึงญี่ปุ่น ออสเตรเลีย ที่ดำเนินมาตรการลงโทษทางเศรษฐกิจต่อรัสเซียอย่างหนัก

“สหรัฐได้บอกอินเดียถึงผลต่างๆ ที่จะตามมาจากยุทธศาสตร์ที่สนับสนุนรัสเซีย” ที่ปรึกษาเศรษฐกิจของไบเดนกล่าว หลังจากที่ นายดาลีป สิงห์ รองที่ปรึกษาความมั่นคงแห่งชาติเดินทางไปอินเดีย เพื่อพบปะเจรจากับเจ้าหน้าที่รัฐบาลอินเดีย

FILE – นายปูตินพบปะชื่นมื่นกับนายโมดี ที่กรุงนิวเดลี เมื่อ 6 ธ.ค. 2021. (AP Photo/Manish Swarup, File)

เจน ซากี โฆษกหญิงทำเนียบขาว กล่าวว่า ดาลีปพูดชัดกับฝ่ายอินเดียว่า สหรัฐไม่ได้เชื่อว่าอินเดียจะเพิ่มการนำเข้าพลังงานจากรัสเซีย หรือสินค้าอื่นๆ สหรัฐและสมาชิกของกลุ่มจี 7 จะประสานความร่วมมือกับอินเดีย และหวังว่าอินเดียจะพยายามวางตัวออกมาให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ ความร่วมมือระหว่างอินเดียและสหรัฐจะขยายความมั่นคงทางอาหาร และพลังงานของโลก

สำหรับอินเดีย นอกจากจะมุ่งหวังซื้อน้ำมันรัสเซียแล้ว ยังเป็นผู้ซื้ออาวุธรายใหญ่ที่สุดของรัสเซีย นายนเรนทรา โมดี นายกรัฐมนตรีอินเดียปฏิเสธคำขอจากสหรัฐและออสเตรเลียที่จะให้ออกห่างจากรัสเซีย โดยยืนยันว่าอินเดียต้องการอาวุธจากรัสเซียไว้รับมือปากีสถานและจีน ขณะที่อาวุธชาติอื่นแพงเกินไป