ไอเอ็มเอฟ ชี้เงินคริปโต มักได้รับความนิยมในกลุ่มประเทศที่อัตราคอรัปชั่นสูง
วันที่ 11 เมษายน 2565 กองทุนการเงินระหว่างประเทศ หรือ IMF เปิดเผยรายงานวิจัยที่ระบุว่า เงินสกุลดิจิทัล หรือ คริปโตเคอร์เรนซี มักเป็นที่นิยมเทรดมากโดยเฉพาะในกลุ่มประเทศที่มีอัตราการคอรัปชั่นสูง ซึ่งพบว่าประชากรในกลุ่มประเทศดังกล่าวมีสัดส่วนการถือครองสินทรัพย์ดิจิทัลในอัตราที่สูงเช่นกัน
- ทุเรียนทะลักวันละพันตู้ ล้งเบรกซื้อ ฉุดราคาดิ่งเหลือโลละ 135-140 บาท
- เช็กที่นี่ เบี้ยผู้สูงอายุ พฤษภาคม 2567 เงินเข้าวันไหน
- เงินอุดหนุนบุตร 600 บาท เดือนพฤษภาคม 2567 เงินเข้าวันไหน เช็กที่นี่
รายงานการศึกษาของไอเอ็มเอฟ ระบุว่า สินทรัพย์ดิจิทัลอาจถูกผู้ไม่หวังดีนำไปใช้ทำธุรกรรมเพื่อการคอรัปชั่น หรือใช้เป็นเครื่องมือในการเลี่ยงกฎเกณฑ์ด้านการควบคุมทางการเงินที่กำหนดโดยภาครัฐของประเทศนั้น อย่างไรก็ตาม รายงานของไอเอ็มเอฟไม่ได้ระบุรายชื่อประเทศอย่างชัดเจนว่ามีชาติใดบ้าง
รายงานของไอเอ็มเอฟ ยังเน้นย้ำถึงความจำเป็นที่แต่ละประเทศต้องออกมาตรการให้ผู้ใช้งานทำการรู้จักลูกค้า (Know your customer) ก่อนใช้บริการเทรดคริปโต หรือทรัพย์สินดิจิทัลชนิดอื่น ๆ ซึ่งเป็นมาตรฐานที่ใช้ตรวจสอบตัวตนของผู้ใช้งาน ออกแบบมาเพื่อป้องกันการฉ้อโกง การฟอกเงิน และการจัดหาเงินทุนของกลุ่มก่อการร้าย ดังเช่นในบางประเทศ อาทิ สหรัฐ ที่มีการออกมาตรการควบคุมดังกล่าวแล้ว
ทั้งนี้ ไอเอ็มเอฟยอมรับว่า ทุกภาคส่วนควรให้ความสนใจกับรายงานการศึกษานี้ แต่จำเป็นต้องตีความอย่างระมัดระวัง เนื่องจากเป็นการศึกษาจากกลุ่มตัวอย่างในจำนวนไม่มาก ซึ่งจัดทำโดย Statista บริษัทวิจัยข้อมูลเชิงสถิติสัญชาติเยอรมนี ผ่านการสำรวจใน 55 ประเทศ โดยมีผู้ตอบแบบสอบถามราว 2,000 – 12,000 คน ในแต่ละดินแดน
รายงานดังกล่าวของไอเอ็มเอฟ มีขึ้นในช่วงเวลาที่หลายชาติพยายามออกข้อกำหนดที่เกี่ยวกับการเทรดตลาดคลิปโตเคอร์เรนซี่ ซึ่งแต่ละชาติหรือดินแดนมีความเข้มงวดและรูปแบบการคุมคริปโตที่แตกต่างกันออกไป