จีนทุ่มซื้อน้ำมันรัสเซียไปเท่าใด ยอดนำเข้าจึงแซงหน้าซาอุดีอาระเบีย

Kriti Legend oil tanker is seen near the port city of Nakhodka, Russia June 13, 2022. REUTERS/Tatiana Meel

ตัวเลขการนำเข้าน้ำมันของจีนเดือนพฤษภาฯ รัสเซียกลายมาเป็นประเทศผู้ส่งออกน้ำมันรายใหญ่ที่สุดไปยังจีน แทนที่ซาอุดีอาระเบียแล้ว หลังลดราคาอย่างกระหน่ำให้จีน 

วันที่ 21 มิถุนายน 2565 บีบีซี รายงาน ตัวเลขการนำเข้าน้ำมันของจีน เดือน พ.ค.จีนเพิ่มปริมาณนำเข้าน้ำมันจากรัสเซียขึ้นอีก 55% เทียบกับหนึ่งปีก่อนหน้า

ข้อมูลจากสำนักงานบริหารศุลกากรทั่วไปของจีนชี้ว่า เมื่อเดือน พ.ค.รัสเซียส่งน้ำมันผ่านท่อส่งน้ำมันไซบีเรียตะวันออก-มหาสมุทรแปซิฟิก และขนส่งทางเรือ ไปยังจีน เป็นปริมาณเกือบ 8.42 ล้านตัน แซงหน้าซาอุดีอาระเบีย ผู้ส่งออกน้ำมันดิบรายใหญ่ที่สุดไปจีน ซึ่งส่งออกให้จีนเดือน พ.ค. 7.82 ล้านตัน

FILE PHOTO: A vessel leaves the Orlan oil plattform at Sakhalin-1’s off-shore rig at the Chaivo field, some 11 km (7 miles) off the east cost of Sakhalin island REUTERS/Sergei Karpukhin (RUSSIA)/File Photo

บริษัทน้ำมันหลายแห่งของจีนรวมทั้งโรงกลั่นน้ำมันรายใหญ่ซิโนเปก (Sinopec) และ เฉินหัว ออยล์ (Zhenhua Oil) ที่ดำเนินงานโดยรัฐบาลจีน ต่างเพิ่มปริมาณนำเข้าน้ำมันดิบจากรัสเซียมากขึ้นในช่วง 2-3 เดือนมานี้ หลังจากรัสเซียกระหน่ำลดราคาขายให้ จังหวะที่บริษัทผู้ซื้อน้ำมันในยุโรปและสหรัฐอเมริกา ไม่นำเข้าน้ำมันจากรัสเซีย

ด้าน บลูมเบิร์ก ระบุว่า จำนวนเงินที่จีนใช้ซื้อน้ำมันรัสเซียดังกล่าวอยู่ที่ 7,470 ล้านดอลลาร์ หรือราว 2.6 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,000 ล้านดอลลาร์ หรือราว 35,000 ล้านบาท จากเดือนเมษายน และเพิ่มขึ้นสองเท่าเมื่อเทียบปริมาณจากปีก่อน

จำนวนเรือขนส่งน้ำมันจากรัสเซียเข้ามายังจีนเพิ่มขึ้น หลังจากความต้องการน้ำมันในประเทศที่เคยลดลงระหว่างคุมเข้มโรคโควิดเริ่มคลี่คลาย และการผลิตของภาคอุตสาหกรรมเริ่มกลับมา

เมื่อรวมมูลค่าการนำเข้าสินค้ารัสเซียของจีน ที่มีทั้งถ่านหิน ทองแดง นิกเกิล อลูมิเนียม พัลเลเดียม ข้าวสาลี ฯลฯ ในเดือนพฤษภาคมปีนี้ พุ่งขึ้นถึง 80% จากปีก่อน เป็นมูลค่าถึง 10,270 ล้านดอลลาร์ หรือราว 3.6 แสนล้านบาท

A Russian state flag flies on the top of a diesel plant in the Yarakta Oil Field, owned by Irkutsk Oil Company (INK), in Irkutsk Region, Russia March 10, 2019.   REUTERS/Vasily Fedosenko/

จีนนำเข้าน้ำมันอิหร่านรอบ3

นอกจากรัสเซียแล้ว เมื่อเดือน พ.ค. จีนยังนำเข้าน้ำมันดิบจากอิหร่านรอบที่สาม ประมาณ 260,000 ตัน ต่อเนื่องจากที่เริ่มนำเข้าตั้งแต่เดือน ธ.ค.2021 ชี้ให้เห็นว่าจีนยังคงซื้อน้ำมันจากอิหร่านซึ่งเป็นชาติที่สหรัฐลงโทษทางเศรษฐกิจ

เมื่อเดือน มี.ค. ทั้งสหรัฐ และสหราชอาณาจักร ประกาศว่าจะห้ามการนำเข้าน้ำมันจากรัสเซีย ขณะที่สหภาพยุโรปก็เดินหน้าลดการพึ่งพาก๊าซจากรัสเซีย ตามที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐ เห็นว่าเพื่อพุ่งเป้าจัดการ “กับเส้นเลือดใหญ่ที่หล่อเลี้ยงเศรษฐกิจของรัสเซีย”

อย่างไรก็ดี การดำเนินการดังกล่าวมีแนวโน้มจะส่งผลกระทบต่อผู้บริโภคในยุโรปเอง

FILE PHOTO: A gas flare on an oil production platform is seen alongside an Iranian flag in the Gulf July 25, 2005. REUTERS/Raheb Homavandi/File Photo

เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ศูนย์วิจัยว่าด้วยพลังงานและอากาศสะอาด เผยแพร่รายงานชี้ว่ารัสเซียยังคงมีรายได้จากการส่งออกเชื้อเพลิงฟอสซิลเกือบ 1 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ ในรอบ 100 วันของการรุกรานยูเครน แม้ว่ายอดการส่งออกในเดือน พ.ค.จะลดลงก็ตาม

สหภาพยุโรป (อียู) เองเป็นผู้นำเข้าน้ำมันตามมูลค่าดังกล่าวคิดเป็นสัดส่วนถึง 61% หรือประมาณ 59,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

โดยรวมแล้ว การส่งออกน้ำมันและก๊าซและรายได้จากธุรกิจพลังงานของรัสเซียลดต่ำลงจากช่วงที่เคยส่งออกสูงสุดเป็นมูลค่า 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐต่อวัน เมื่อเดือน ม.ค. แต่เวลาเดียวกัน รายได้ของรัสเซียก็ยังมีมากกว่าค่าใข้จ่ายในการทำสงครามกับยูเครนในช่วง 100 วันแรก

Yang Mei Hu oil products tanker owned by COSCO Shipping gets moored at the crude oil terminal Kozmino on the shore of Nakhodka Bay near the port city of Nakhodka, Russia June 13, 2022. REUTERS/Tatiana Meel

ศูนย์วิจัยว่าด้วยพลังงานและอากาศสะอาดประเมินว่า รัสเซียมีค่าใช้จ่ายในการทำสงครามตกวันละประมาณ 876 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย กล่าวในงานเสวนาที่นครเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก ว่าการแซงก์ชั่นของชาติตะวันตกนั้น “บ้าคลั่ง สิ้นคิด และไม่มีทางสำเร็จ” และผลร้ายจะเกิดกับผู้ที่ออกมาตรการเหล่านั้นเอง

คาดว่า อียูจะสูญเสียทางเศรษฐกิจราว 4 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ขณะที่อัตราเงินเฟ้อใน 27 ชาติสมาชิกอียู เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ

เวลาเดียวกันผู้ว่าการธนาคารกลางรัสเซียเองออกมาเตือนว่ามาตรการแซงก์ชั่นจะทำให้รัสเซียจะสูญเสียทางเศรษฐกิจราว 15% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมประชาชาติ หรือจีดีพี