เอ็มจี กับบทบาทผู้นำตลาดรถไฟฟ้าชู “MG EV FAMILY” 5 รุ่น 5 สไตล์ ตอบโจทย์ทุกการใช้งานของคนไทย

ความเห็นพ้องของ 27 ชาติสมาชิกสหภาพยุโรป ในการยุติการจำหน่ายรถยนต์ที่ใช้น้ำมันตั้งแต่ปี 2035 เป็นต้นไป เพื่อผลักดันนโยบายเป็นกลางทางคาร์บอนให้ได้ภายในปี 2050 ตามเป้าหมาย ถือเป็นจุดเปลี่ยนที่ทำให้ยนตรกรรมทางเลือกอย่างรถยนต์ไฟฟ้ามีบทบาทมากขึ้น มีการปรับปรุงพัฒนาเทคโนโลยีแบตเตอรี่ ส่งผลให้ราคาจำหน่ายที่เคยสูงลิบ ลดลงมาจนใกล้เคียงกับราคารถยนต์สันดาป

ถ้าจะพูดถึงตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในเมืองไทยก็ต้องถือว่า MG เป็น “ผู้มาก่อนกาล” เพราะเป็นแบรนด์ที่เริ่มปักธงเป็นเจ้าแรก ๆ ด้วยการเปิดตัว “NEW MG ZS EV” รถยนต์เอสยูวีพลังงานไฟฟ้า 100% เมื่อปี 2562 ในราคาที่พอเอื้อมถึง จึงเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้คนไทยเริ่มสนใจตลาดรถยนต์ไฟฟ้ามากขึ้น ทยอยมีผู้เล่นหน้าใหม่เข้ามามากขึ้นต่อเนื่อง

อีกทั้งการออกแบบ สมรรถนะการขับขี่ เทคโนโลยีที่ล้ำสมัย รวมถึงฟังก์ชั่นที่ให้เกินราคาค่าตัว ปัจจุบันมีรถไฟฟ้าหลายรุ่นที่เคาะขายไม่เกิน 1 ล้านบาท ผนวกกับส่วนลดจากมาตรการส่งเสริมจากภาครัฐ ยิ่งเป็นเครื่องกระตุ้นให้คนไทยเข้าสู่สังคมยานยนต์ไฟฟ้าได้ง่ายมากขึ้น

“MG EV FAMILY” รถไฟฟ้า 5 รุ่นของ MG ที่ทยอยเข้ามาเพื่อ ตอบโจทย์ให้ได้ครอบคลุมทุกความต้องการของคนไทย

นับจากแจ้งเกิดในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าจนถึงปัจจุบัน “MG” เดินหน้าเพิ่มทางเลือกให้ครอบคลุมในทุกเซ็กเมนต์ รองรับการใช้งานในหลากหลายรูปแบบ เริ่มจาก NEW MG ZS EV” รถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% รุ่นแรก ที่สร้างประสบการณ์เกี่ยวกับรถไฟฟ้าให้กับคนไทย โดยใช้คอนเซ็ปต์ “TRULY EASY” ในการสื่อสารถึงความเรียบง่าย ทั้งดีไซน์ตามสไตล์รถเอสยูวี ฟังก์ชั่นการใช้งานต่าง ๆ ถูกออกแบบให้ใช้งานง่าย ไม่ซับซ้อน ด้านสมรรถนะการขับขี่และเทคโนโลยีความปลอดภัยเพียงพอสำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวันหลากหลายรูปแบบ เสนอขายด้วยราคาเริ่มต้น 949,000 บาท*

“NEW MG EP” สเตชันวากอนไฟฟ้า 100% รุ่นแรก อเนกประสงค์ด้วยตัวถังขนาดใหญ่ ห้องโดยสาร และพื้นที่บรรจุสัมภาระกว้างขวาง คุ้มค่า คุ้มราคา แถมค่าบำรุงรักษาตามระยะทางตลอด 5 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร (แล้วแต่อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน) รวมค่าแรงแล้วไม่เกิน 8,000 บาท ด้วยความสุดคุ้มหลายองค์กรทั้งภาครัฐ และเอกชน เลือกใช้รถรุ่นนี้เป็นรถใช้งานภายใน ราคาเพียง 771,000 บาท* 

“NEW MG4 ELECTRIC” ยนตกรรมที่พัฒนาเพื่อการขับขี่ที่สนุกสนาน เร้าใจ ไปจนถึงการตอบสนองที่ดี จึงเป็นรถไฟฟ้าที่อัดแน่นไปด้วยนวัตกรรมยุคใหม่ทั้งคัน ตั้งแต่แพลตฟอร์มใหม่ NEBULA PURE ELECTRIC ที่คิดค้น และพัฒนาขึ้นเพื่อใช้กับรถยนต์ไฟฟ้าโดยเฉพาะ สามารถนำไปปรับใช้กับรถยนต์ไฟฟ้าได้หลากหลายขนาด ตั้งแต่รถเก๋ง เอสยูวี ไปจนถึงรถกระบะ รองรับแบตเตอรี่ได้หลากหลายความจุ พร้อมกับติดตั้งเป็นส่วนหนึ่งของโครงสร้างตัวถัง จึงได้รับการปกป้องมากยิ่งขึ้น ผสานกับเทคโนโลยี RUBIK’s CUBE BATTERY ช่วยให้แบตเตอรี่มีขนาดเล็กแต่ให้สมรรถนะสูง ส่งผลให้พื้นที่ภายห้องโดยสารกว้างขวางมากขึ้น

ระบบช่วงล่างเป็นอิสระ 4 ล้อ แบบ 5-LINK SUSPENSION ออกแบบให้เกิดการกระจายน้ำหนักแบบสมมาตรที่ 50 : 50 มีจุดศูนย์ถ่วงต่ำ เข้าโค้งได้อย่างมั่นใจ เป็นรถไฟฟ้าที่มีระบบขับเคลื่อนล้อหลังเป็นรุ่นแรกของเมืองไทยที่จำหน่ายในราคาเริ่มต้นเพียง 869,000 บาท* 

และในปีนี้ MG เปิดตัวรถไฟฟ้าถึง 2 รุ่น ในช่วงเวลาใกล้เคียงกัน หนึ่งในนั้นเป็นสเตชันวากอนไฟฟ้า 100% รุ่นที่ 2 NEW MG ES” ซึ่งมีเพียงมิติตัวถังที่ใกล้เคียงกับ NEW MG EP แต่เครื่องในทั้งมอเตอร์ แบตเตอรี่ เทคโนโลยี ไปจนถึงฟังก์ชั่นการใช้งานต่าง ๆ ถูกยกระดับเพื่อเสริมความสะดวกสบายขึ้นไปอีกขั้น ภายใต้คอนเซ็ปต์ COMFORTABLE ดีไซน์ตั้งแต่ภายนอกสู่ภายในห้องโดยสาร สัมผัสได้ถึงความหรูหรา พรีเมี่ยมด้วยผิวสัมผัสและการเลือกใช้วัสดุ ราคาจำหน่าย 959,000 บาท*

และรุ่นที่ถือเป็นบิ๊กเซอร์ไพรส์แห่งปี 2023 ของ MG เลยก็ คือ NEW MG MAXUS 9″ Luxury e-MPV ไฟฟ้า 100% แบบ 7 ที่นั่ง ตอกย้ำภาพลักษณ์การเป็นผู้นำและผู้บุกเบิกตลาดอีวีในไทยอีกครั้ง กับการเป็น “เจ้าแรก” ที่เปิดน่านน้ำใหม่ด้วยรถไฟฟ้า 100% แบบ 7 ที่นั่ง 

เพิ่มความเหนือระดับยิ่งกว่าด้วยฟังก์ชั่นและฟีเจอร์ล้ำสมัย นำเสนอความเป็นที่สุดทั้งงานดีไซน์ที่หรูหรา เลือกใช้วัสดุพรีเมี่ยม เทคโนโลยีความปลอดภัยใส่มารอบคัน เบาะแถวสองแบบ Captain Seat ปรับไฟฟ้า 12 ทิศทาง ควบคุมและสั่งการผ่านหน้าจอทัชสกรีนส่วนตัว มีระบบบันทึก ระบบนวด ปรับระดับอุณหภูมิได้ตามต้องการ การมาของโมเดลนี้ส่งผลให้ MG ก้าวเข้าสู่ตลาดพรีเมี่ยมเป็นที่เรียบร้อย

MG กับบทบาทผู้นำที่ไม่ได้มาเพียงแค่ “ยอดขาย” แต่เป็นสร้างสังคมยานยนต์ไฟฟ้าให้มีคุณภาพและยั่งยืน

เพราะในวันนี้รถยนต์ไฟฟ้าเป็นทางเลือกใหม่ แต่ต่อไปจะเป็นทางเลือกหลักของผู้ใช้รถยนต์ ดังนั้น นอกจากเป็นผู้นำของตลาดรถยนต์ไฟฟ้าด้วยยอดส่งมอบรถไฟฟ้าถึงมือลูกค้าคนไทยรวมทุกรุ่นแล้วกว่า 10,000 คัน หากพิจารณาจำนวนขยายเครือข่ายผู้แทนจำหน่าย และศูนย์บริการกระจายอยู่ทั่วประเทศ MG ยังถูกจัดให้อยู่ในอันดับต้น ๆ  

นอกจากนี้ในเรื่องของระบบนิเวศยานยนต์ไฟฟ้า มีการขยายเครือข่ายสถานีชาร์จ ปัจจุบันมีสถานี MG SUPER CHARGE พร้อมให้บริการมากถึง 140 แห่งทั่วประเทศ รวมถึงการวางแผนงานการผลิตในอนาคต การรีไซเคิล และการให้ความรู้กับสถาบันการศึกษา โดยเฉพาะพนักงานของผู้แทนจำหน่ายจะต้องมีความรู้ในเรื่องของถยนต์ไฟฟ้าให้มากขึ้น 

เพื่อสร้างอีวี อีโคซิสเต็ม ของไทยให้เป็นสังคมยานยนต์ไฟฟ้าที่มีคุณภาพอย่างยั่งยืน

สำหรับลูกค้าที่สนใจรถยนต์ไฟฟ้าของ เอ็มจี ทุกรุ่น สามารถทดลองขับขี่ได้ที่โชว์รูมเอ็มจี ที่ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้จำหน่ายรถยนต์พลังงานไฟฟ้าทั่วประเทศ (EV Authorized Dealer) หรือจองผ่านช่องทางเว็บไซต์ https://onlinebooking.mgcars.com/ และแอปพลิเคชั่น MG THAILAND 

* ราคาดังกล่าวเป็นราคาหลังหักส่วนลดจากมาตรการส่งเสริมจากภาครัฐ