รัสเซีย ยูเครน : ไบเดนเห็น “ปัญหาที่แท้จริง” ของรัสเซีย หลังสั่งถอนทัพออกจากแคร์ซอน

ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐฯ กล่าวว่า การตัดสินใจถอนทัพออกจากเมืองแคร์ซอนของรัสเซีย แสดงให้เห็นว่า กองทัพรัสเซีย “มีปัญหาที่แท้จริงบางประการ” ขณะที่ทางการสหรัฐฯ ระบุว่า สงครามที่ผ่านมาทำให้ทหารทั้งสองฝ่ายบาดเจ็บล้มตายไปแล้ว 200,000 นาย

นายไบเดนกล่าวว่า เขาคาดว่า จะเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นมา “สักระยะ” แล้ว และนั่นจะเปิดโอกาสให้ทั้งสองฝ่ายได้ “ปรับเปลี่ยนตำแหน่งของตัวเอง” ในช่วงฤดูหนาว

แคร์ซอนเป็นเมืองใหญ่ของยูเครนเพียงแห่งเดียวที่ตกอยู่ภายใต้การยึดครองของกองทัพรัสเซีย

ยูเครนกำลังกังขากับข่าวการถอนทหารของรัสเซีย โดยระบุว่า ยูเครนจะเคลื่อนไหว “อย่างรอบคอบ”

ทหารเกณฑ์คนหนึ่งจากไครเมียที่ถูกรัสเซียผนวกรวม กำลังร่ำลาญาติของเขา ก่อนที่จะเดินทางไปร่วมรบกับกองทัพรัสเซีย

ที่มาของภาพ, EPA

พลเอกเซอร์เก ซูโรวีคิน ซึ่งรัสเซียแต่งตั้งเป็นผู้บัญชาการในยูเครนเมื่อไม่กี่สัปดาห์ก่อนพร้อมกับบุคคลสำคัญในกองทัพรัสเซีย ประกาศถอนทหารเมื่อวันพุธ (9 พ.ย.) ผ่านทางสถานีโทรทัศน์ของทางการรัสเซีย เขายืนยันว่า ทหารรัสเซียจะถอนกำลังทั้งหมดออกจากทางฝั่งตะวันตกของแม่น้ำนีเปอร์

นี่เป็นการถอยหลังครั้งสำคัญของฝ่ายรัสเซีย ขณะที่กำลังเผชิญกับการบุกโต้กลับของฝ่ายยูเครน

นายไบเดนกล่าวจากทำเนียบขาวหลังการเลือกตั้งกลางสมัยซึ่งพรรคเดโมแครตของเขาดูเหมือนว่า จะสูญเสียเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎรให้แก่พรรครีพับลิกัน

ก่อนหน้านี้ บรรดาคู่แข่งทางการเมืองของประธานาธิบดีสหรัฐฯ ประกาศว่า จะทบทวนความช่วยเหลือทางด้านมนุษยธรรมและการทหารของสหรัฐฯ ที่มอบให้แก่ยูเครน นายไบเดน ตั้งข้อสังเกตว่า “น่าสนใจมาก” ที่รัฐบาลรัสเซีย “รอจนกระทั่งหลังการเลือกตั้ง” จึงประกาศการถอนทหารนี้

สหรัฐฯ คาดทหาร 2 ฝ่าย เจ็บ-ตาย ฝ่ายละแสน

พล.อ.มาร์ก มิลลีย์ ประธานเสนาธิการร่วมของสหรัฐฯ ประเมินว่า มีทหารบาดเจ็บหรือเสียชีวิตในสงครามที่ยูเครนแล้วราว 200,000 นาย โดยแบ่งเป็นทหารรัสเซียราว 100,000 นาย และทหารยูเครนราว 100,000 นาย

นอกจากนี้ยังระบุว่า มีพลเรือนเสียชีวิตแล้วราว 40,000 คน หลังจากที่ตกอยู่ในพื้นที่สู้รบ

การประเมินนี้เป็นตัวเลขที่สูงที่สุดเท่าที่เคยมีการระบุมาจากฝ่ายทางการของชาติตะวันตก

แต่เขาสังเกตเห็นสัญญาณหลายอย่างว่า รัฐบาลยูเครนต้องการที่จะกลับไปเจรจากับรัฐบาลรัสเซียซึ่งก็เปิด “ช่อง” สำหรับการเจรจาอยู่

ในช่วงไม่กี่วันนี้ ยูเครนได้ส่งสัญญาณว่า ต้องการที่จะเปิดเจรจากับรัฐบาลรัสเซียขึ้น หลังจากประธานาธิบดียูเครนล้มเลิกข้อเรียกร้องที่ว่า ต้องมีการปลดประธานาธิบรัสเซียออกเสียก่อน การเจรจาจึงจะดำเนินต่อไปได้

ขณะที่ความคืบหน้าอีกเรื่องหนึ่งคือ ขณะนี้ได้มีการยืนยันแล้วว่า ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซียจะไม่เดินทางเข้าร่วมการประชุมจี 20 ซึ่งผู้นำโลกจะมารวมตัวกันในอินโดนีเซียในสัปดาห์หน้า โดยนายเซอร์เก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศจะเข้าร่วมประชุมแทน

เจ้าหน้าที่ทางการกล่าวว่า นายปูติน อาจจะเข้าร่วมการประชุมในเวทีหนึ่งของหลายเวทีทางออนไลน์แทน

กราฟิก

ยูเครนยังคงจับตาดูการตัดสินใจถอนทหารของรัสเซียอีกฝั่งของแม่น้ำนีเปอร์อย่างระมัดระวัง

ประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี กล่าวว่า รัฐบาลยูเครนกำลังเคลื่อนไหว “อย่างระมัดระวังอย่างยิ่ง” หลังการประกาศดังกล่าว

“ศัตรูไม่ได้มอบของขวัญให้เรา ไม่ได้ ‘มีท่าทีประสงค์ดี’ เราชนะศึกนี้อย่างราบคาบ” เขากล่าวกับชาวยูเครน

หลังการประกาศของรัสเซีย พลเรือนในเมืองแคร์ซอนกล่าวว่า ทหารเชเชนจำนวนมากจากกองทัพรัสเซียอยู่ในเมืองแห่งนี้ ตามร้านกาแฟและเดินทางไปตามถนนสายต่าง ๆ

ส่วนที่ฐานที่มั่นแห่งหนึ่งของยูเครนที่อยู่รอบนอกของเมือง บรรดาทหารกล่าวว่า ศัตรูอาจกำลังพยายามล่อให้พวกเขาเข้าไปติดกับดัก พวกเขากำลังเดินหน้าอย่างระมัดระวัง

……………………….

เมืองที่กำลังจะเปลี่ยนผู้คุม ?

บทวิเคราะห์โดย พอล อาดัมส์ ผู้สื่อข่าวต่างประเทศของบีบีซี

นับตั้งแต่เดือน ต.ค. ชาวเมืองแคร์ซอนบางส่วนที่ภักดีต่อรัฐบาลยูเครนได้รู้สึกถึงความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น

เจ้าหน้าที่ทางการที่ฝ่ายรัสเซียแต่งตั้งขึ้นเริ่มอพยพพลเรือนออกไป การปลดปล่อยเมืองแห่งนี้ดูเหมือนจะกำลังใกล้เข้ามาแล้ว

หนึ่งในเหตุการณ์เชิงสัญลักษณ์ที่เห็นชัดที่สุด เกิดขึ้นเมื่อเจ้าหน้าที่ของรัสเซียได้เดินทางมาถึงโบสถ์เซนต์แคเธอรีนในสมัยศตวรรษที่ 18 ของเมืองนี้ เพื่อขนย้ายพระอัฐิของเจ้าชายกริกอรี โพตโยมคิน ชายที่ทำหน้าที่ปกครองอานานิคมทางใต้ของยูเครนแทนพระนางแคเธรีน มหาราชินี คนรักของพระองค์

แต่นั่นก็อาจสื่อถึงความหมายที่น่าสะพรึงกลัวได้เช่นกัน ถ้ากองทัพรัสเซียถูกสั่งให้ถอนกำลัง พวกเขาจะทำอะไรหลังถอนกำลังออกไปแล้ว

ข่าวลือที่กำลังแพร่กระจายอยู่ในขณะนี้คือ ฝ่ายรัสเซียกำลังวางแผนจะระเบิดเขื่อนโนวาคาคอฟคา (Nova Kakhovka) ที่อยู่ใกล้เคียง หรือทหารรัสเซียสวมใส่ชุดพลเรือนแล้วก็ซ่อนตัวอยู่ตามบ้านคน หรือหน่วยปืนใหญ่ของรัสเซียจะยิงถล่มเมืองอีกฝั่งของแม่น้ำนีเปอร์ให้ราบ หลังจากที่ทหารถอนออกมาแล้ว

ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น นี่ดูเหมือนจะเป็นช่วงเวลาสำคัญ เมืองที่ถูกมองว่า เป็นอัญมณีล้ำค่าของการเข้ามายึดครองของรัสเซีย อาจจะกำลังเปลี่ยนมือ

………………….

ประธานาธิบดีปูติน ไม่ได้เข้าร่วมการประกาศถอนกำลังทหารดังกล่าว

แต่ว่าพันธมิตรสำคัญของเขา 2 คน ซึ่งก่อนหน้านี้ได้วิจารณ์ความพยายามในการทำสงครามครั้งนี้ของรัสเซีย ยินดีกับท่าทีนี้

เยฟเกนี พริโกชิน ผู้ก่อตั้งกลุ่มทหารรับจ้างแวกเนอร์ (Wagner) และพรรคพวกที่คบหากับปูตินมายาวนาน กล่าวว่า แม้ว่าการตัดสินใจดังกล่าว “ไม่ใช่การก้าวสู่ชัยชนะ” แต่ก็จะต้อง “ไม่ดื้อดึง ไม่หวาดระแวง แต่ต้องหาข้อสรุปและข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้น”

รัมซาน คาดีรอฟ ผู้นำของเชเชน ซึ่งนายปูตินเลือกขึ้นมาปกครองสาธารณรัฐที่ปกครองตนเองแห่งนี้ในปี 2007 กล่าวว่า พล.อ.ซูโรวีคิน มีท่าทาง “เหมือนกับนายพลในกองทัพอย่างแท้จริง ไม่หวาดกลัวการวิพากษ์วิจารณ์”

แม้ว่ายูเครนเคลื่อนทัพอย่างล่าช้าในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา เส้นทางการขนส่งเสบียงของรัสเซียข้ามแม่น้ำนีเปอร์ได้เผชิญกับความยุ่งยากมากขึ้น หลังจากที่ขีปนาวุธของยูเครนได้ทำลายสะพาน 2-3 แห่ง

ก่อนที่จะมีการถอนทหาร รัสเซียได้อพยพพลเรือนออกไปจากเมืองทางเรือ ซึ่งยูเครนเรียกว่าเป็นการขับไล่

……………………….

ข่าว บีบีซี ไทย ที่เผยแพร่ในเว็บไซต์ ประชาชาติธุรกิจ เป็นความร่วมมือของสององค์กรข่าว