ราคาน้ำมันดิบ (8 ส.ค.65) เพิ่มขึ้น หลังตัวเลขจ้างงานสหรัฐ ขยับขึ้น

แท่นสูบน้ำมันดิบ

ราคาน้ำมันเวสต์เท็กซัสและเบรนต์ปรับตัวเพิ่มขึ้น ตามการปรับเพิ่มของตลาดหุ้นสหรัฐ หลังตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตรสหรัฐ เพิ่มขึ้นราว 528,000 ตำแหน่ง ขณะที่สต๊อกน้ำมันดีเซลสิงคโปร์ ปรับตัวสูงขึ้นกว่า 15.49 % เมื่อเทียบกับสัปดาห์ก่อนหน้า สู่ระดับสูงที่สุดในรอบ 6 สัปดาห์

วันที่ 8 สิงหาคม 2565 หน่วยวิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน บมจ.ไทยออยล์ ระบุว่า ราคาน้ำมันเวสต์เท็กซัสและเบรนต์ปรับตัวเพิ่มขึ้น ตามการปรับเพิ่มของตลาดหุ้นสหรัฐ หลังตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตร (Nonfarm Payrolls) ของสหรัฐ เพิ่มขึ้นราว 528,000 ตำแหน่ง ในเดือน ก.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นการปรับเพิ่มขึ้นมากที่สุด นับตั้งแต่เดือน ก.พ. ที่ผ่านมา และมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้

ขณะที่ Baker Hughes รายงานแท่นขุดเจาะน้ำมันดิบ ปรับลดลง 7 แท่น สู่ระดับ 598 แท่น สำหรับสัปดาห์สิ้นสุด ณ วันที่ 5 ส.ค. 2565 ซึ่งเป็นการลดลงในรอบ 10 สัปดาห์ หลังค่าใช้จ่ายในการดำเนินการที่สูงซึ่งเป็นผลมาจากเงินเฟ้อและปัญหาห่วงโซ่อุปทาน

ส่วนการประชุมของธนาคารกลางอังกฤษ (BOE) มีมติปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ย 50 เบสิสพอยต์ หรือ 0.50% มาอยู่ที่ 1.75% ซึ่งเป็นการปรับอัตราดอกเบี้ยที่สูงที่สุดในรอบ 27 ปี เพื่อควบคุมอัตราเงินเฟ้อที่สูงขึ้นมาก

การปรับดอกเบี้ยในครั้งนี้มีขึ้นภายหลังธนาคารกลางสหรัฐ (FED) และธนาคารกลางยุโรป (ECB) ปรับดอกเบี้ยในช่วงเดือนที่ผ่านมา ส่งผลให้ตลาด

ราคาน้ำมันเบนซิน

ปรับตัวลดลงมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังปริมาณส่งออกน้ำมันเบนซินจากเกาหลีใต้มีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้น อย่างไรก็ตามยังคงมีแรงซื้อจากอินโดนีเซียและมาเลเซียเข้ามาอย่างต่อเนื่อง

ราคาน้ำมันดีเซล

ปรับตัวลดลงมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังอุปสงค์จากประเทศฝั่งตะวันตกมีแนวโน้มปรับลดลง ขณะที่สต๊อกน้ำมันดีเซลสิงคโปร์ ปรับตัวสูงขึ้นกว่า 15.49 % เมื่อเทียบกับสัปดาห์ก่อนหน้า สู่ระดับสูงที่สุดในรอบ 6 สัปดาห์ที่ระดับ 8.37 ล้านบาร์เรล

โดยราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส อยู่ที่ 89.01 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น 0.47 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ราคาน้ำมันดิบเบรนต์อยู่ที่ 94.92 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น 0.80 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ราคาน้ำมันดิบดูไบ อยู่ที่ 93.58 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ลดลง 1.98 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

ราคาน่ำมันดิบ 8 8 22