รัฐมนตรีคลังคนใหม่ในรัฐบาลริซ ทรัสส์ อังกฤษ ประกาศแผนสร้างการเติบโตทางเศรษฐกิจระยะกลางปักธงโต 2.5% ด้วยแผนลดภาษีชุดใหญ่ไฟกระพริบ ส่งผลให้เงินปอนด์เทียบดอลลาร์อ่อนค่าเกือบ 2% ทุบสถิติในรอบ 37 ปี ขณะที่นักวิเคราะห์คาดเดือน พ.ย. บีโออีขึ้นดอกเบี้ยอีก 1%
วันที่ 23 กันยายน ซีเอ็นบีซี รายงานว่า ควาซี กวาร์เต็ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง อังกฤษ กล่าวในที่ประชุมรัฐสภาว่า รัฐบาลต้องการแนวทางใหม่สำหรับยุคใหม่ ที่มุ่งเน้นการเติบโต โดยตั้งเป้าหมายอัตราการเติบโตระยะกลางไว้ที่ 2.5% และเชื่อว่า ภาษที่สูงจะลดแรงจูงใจการทำงาน ขัดขวางการลงทุน และกีดขวางผู้ประกอบการ
- ด่วน ! วอยซ์ ทีวี ประกาศปิดกิจการทุกแพลตฟอร์ม เลิกจ้าง 100 กว่าคน
- NETA X ขาย มิ.ย.นี้ ราคาไม่เกิน 1 ล้านบาท หลัง MOU สรรพสามิต
- ลูกแม่ค้าขายผัก-พ่อขับแท็กซี่ สู่เก้าอี้ “ปลัดพลังงาน” บทพิสูจน์ชีวิต “ดร.ประเสริฐ สินสุขประเสริฐ”
ในการประชุมรัฐสภาวันนี้ รัฐบาลอังกฤษภายใต้การนำของนายกรัฐมนตรีริซ ทรัสส์ ได้ประกาศโครงการลดภาษีและมาตรการจูงใจการลงทุน ซึ่งเป็นแผนการสำหรับการกระตุ้นการเติบโตทางเศรษฐกิจ
โดยมีมาตรการต่าง อาทิ
- ยกเลิกการเพิ่มภาษีนิติบุคคลตามแผนเป็น 25% โดยคงไว้ที่ 19% ซึ่งเป็นอัตราที่ต่ำที่สุดในกลุ่ม G-20
- ทบทวนการเพิ่มเงินสมทบประกันแห่งชาติเป็น 1.25% จากภาษีรายได้
- ลดภาษีเงินได้ขั้นพื้นฐานจาก 20 เพนนี เป็น 19 เพนนี
- ยกเลิกอัตราภาษี 45% ที่จ่ายสำหรับผู้มีรายได้มากกว่า 150,000 ปอนด์ ส่งผลให้มีอัตราสูงสุดเป็น 40%
- ลดหย่อนอากรแสตมป์ที่สำคัญ ซึ่งเป็นภาษีที่จ่ายสำหรับการซื้อบ้าน
- การลงทุนใน “เขตการลงทุน” ทั่วสหราชอาณาจักร จะได้รับข้อเสนอลดภาษี กฎการวางแผนเป็นอิสระ และลดอุปสรรคด้านกฎระเบียบ
- ทำโครงการคืนภาษีให้นักท่องเที่ยว
- เลิกขึ้นอัตราภาษีสุราชนิดต่างๆ
- ยกเลิกการจำกัดโบนัสของนายธนาคาร ที่ทำมาตั้งแต่หลังวิกฤตการเงินโลกช่วงปี 2551
โดยรัฐบาลประเมินว่า การลดภาษีจะมีมูลค่ารวม 4.5 หมื่นล้านปอนด์ ภายในปี 2569-2570
พอล จอห์นสัน ผู้อำนวยการสถาบันเพื่อการศึกษาการคลังกล่าวว่า เป็นเวลากว่าครึ่งศตวรรษแล้ว ที่ไม่ได้เห็นการลดภาษีในระดับนี้
ปอนด์เทียบดอลลาร์ร่วงหนักเกือบ 2% ต่ำสุดในรอบ 37 ปี
หลังการประกาศของรัฐบาล ส่งผลให้เงินปอนด์เทียบดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 37 ปี มาอยู่ที่ปอนด์ละ 1.103 ดอลลาร์ หรือร่วงลงเกือบ 2% ในเวลาไม่กี่ชั่วโมง ส่วนเมื่อเทียบกับยูโรร่วงลงมากกว่า 1% มาอยู่ที่ 1.12 ยูโร ขณะที่นักลงทุนยกเลิกพันธบัตรรัฐบาลอังกฤษ และดัชนี FTSE 100 ร่วงลงสู่ระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนมีนาคม
ผู้อำนวยการสถาบันเพื่อการศึกษาการคลังกล่าวด้วยว่า ตลาดดู “น่ากลัว” ด้วยขนาดของ “การแจกเงิน”
คำประกาศด้านภาษีของรัฐบาลอังกฤษเกิดขึ้น 1 วัน หลังจากที่ธนาคารกลางอังกฤษ (BOE) กล่าวว่าเศรษฐกิจของสหราชอาณาจักรจะเข้าสู่ภาวะถดถอยอย่างเป็นทางการในไตรมาสที่ 3 เนื่องจากได้ขึ้นอัตราดอกเบี้ย 50 เบสิสพอยต์ หรือ 0.50% มาเป็น 2.25% เพื่อต่อสู้กับเงินเฟ้อที่สูง ขณะที่เศรษฐกิจหดตัว 0.1% ในไตรมาสที่ 2 ท่ามกลางรายได้ที่แท้จริงที่บีบตัว
และแม้จะมีการปฏิรูปอย่างกว้างขวาง แต่รัฐบาลไม่ได้อธิบายแพ็คเกจนี้ว่า จะใช้งบประมาณอย่างเป็นทางการเท่าไร
จากข้อมูลของบลูมเบิร์ก นักวิเคราะห์คาดว่าอัตราดอกเบี้ยของสหราชอาณาจักรจะแตะ 5.2% ในเดือนสิงหาคม 2566 โดยคาดว่าอาจมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 1% ในการประชุมของธนาคารกลางอังกฤษในครั้งต่อไปของในเดือนพฤศจิกายน
โดยจะทำให้ต้นทุนการกู้ยืมของรัฐบาลเพิ่มสูงขึ้น หรือเพิ่มขึ้นเกือบเป็นประวัติการณ์ เนื่องจากนักลงทุนตอบสนองต่อการลดภาษีครั้งใหญ่ของ ควาซี กวาร์เต็ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังคนใหม่ และนักวิเคราะห์กล่าวว่าสิ่งเหล่านี้จะลดรายได้ของรัฐบาล ขณะเดียวกันจะมีการสนับสนุนทางการเงินจำนวนมาก เพื่อจำกัดต้นทุนค่าพลังงานสำหรับครัวเรือนและบริษัท