สมคิด ขายนโยบายยกแพค ปุ๋ยคนละครึ่ง พักหนี้-ยกดอก ผันเงิน 7 หมื่นหมู่บ้าน

สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ประธานพรรคสร้างอนาคตไทย

ปัดฝุ่นกองทุนหมู่บ้าน-โอท็อป ขายนโยบาย ปุ๋ยคนละครึ่ง เพิ่มทุน ธกส. – ปล่อยสินเชื่อเกษตรกร 5 หมื่นล้าน พักหนี้ 5 ปี ลดต้น-ปลดดอก สนธิรัตน์ ลั่น ตั้งกระทรวงน้ำ – ข้าวหอมมะลิ ตันละหมื่นห้า สุพล ประกาศสงครามครั้งสุดท้าย

วันที่ 5 พฤศจิกายน 2565 ที่หอประชุมอาคารเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบพระชนมพรรษา มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ประธานพรรคสร้างอนาคตไทย ขึ้นกล่าวปราศรัยพร้อมเปิดนโยบายพรรคสร้างอนาคตไทย ว่า คำพูดของตนมาจากใจ ถ้าพูดคำไหนไม่เคยลืม พยายามทำให้ดีที่สุดในสิ่งที่ได้มีการสัญญาไว้ ไม่ว่าจะยุคสมัยไหนก็ตาม

“3 ปีมานี้เหมือนฟ้าดินเมตตาตนทำให้สุขภาพฟื้นคืนมา ตอนอยู่ในตำแหน่งจะแย่อยู่แล้ว แต่เราอดทนทำให้กับประชาชน พอ 3 ปีผ่านไปตนสามารถยืนพูดอยู่ได้เกินหนึ่งชั่วโมง ฟ้าดินย่อมมีเหตุผลแน่นอน สิ่งที่ตนอธิษฐานตอนทำพิธีบายศรีสู่ขวัญ ตนไม่ได้บอกว่าจะเป็นนายกฯ ไม่ต้องขอ แต่ขอให้ประชาชน โดยเฉพาะชาวอีสานพ้นทุกข์ ขอให้ฟ้าดินช่วยให้ประชาชนมีกินมีใช้อยู่อย่างสุขสบาย” นายสมคิดกล่าว

นายสมคิดกล่าวว่า อีสานเป็นภูมิภาคใหญ่ที่สุดในประเทศไทย มีส.ส. 130 กว่าคน มากที่สุดในสภาฯ ส่วนการเลือกตั้ง ครั้งนี้มีส.ส. 132 คน ดังนั้นเมื่อบอกว่ามีทุกข์ ไม่มีจะกิน น้ำท่วม น้ำแล้ง ท่านต้องถามตัวเองว่าผิดพลาดเรื่องอะไรจึงลำบากขนาดนี้ แต่ตนจะตอบให้ว่าเป็นเพราะการเลือกนักการเมืองเข้าสภา ถ้าเลือกคนที่ตั้งใจทำงาน ก็จะไม่มีปัญหานี้

พักหนี้เกษตรกร 5 ปี

นายสมคิดกล่าวว่า เรากลับมาครั้งนี้ สิ่งแรก คือ นโยบายใด ๆ ที่ในอดีต ผมเป็นคนกำกับดูแลและสร้างขึ้นมา ผมจะสานต่อ และทำให้ดีขึ้นกว่าเดิมอีก พวกท่านมีหนี้สิน เราเคยพักหนี้เกษตรกร แต่สิ่งที่เราจะทำต่อไปนั้น ขอย้ำอีกครั้ง เราจะพักหนี้ ทั้งต้น ทั้งดอก 5 ปี

“ไม่เพียงแค่นั้น ยังมีมากกว่านั้น กระเป๋าสองข้างของผม สมองของผม มันเป็นสมองอิกคิวซัง ที่พักดอกต้องเติมเงินใหม่เข้าไป ธกส.ต้องมีสินเชื่อใหม่ และสินเชื่อไม่ใช่ไปหักดอก ดอกแขวน เอาไปหักต้น ให้เงินต้นลดลงมา มีที่ไหนหักแต่ดอก ต้นนิดเดียว ดอกเบี้ยบานกระโท่โร่เลย”นายสมคิดกล่าว

นายสมคิดกล่าวว่า สถานบันทางการเงินของรัฐ หรือ ธนาคารเฉพาะกิจของรัฐบาล การปล่อยสินเชื่อ ขาดทุน เป็นเอ็นพีแอล ถึงเวลาเราจะเอาเงินเพิ่มทุนให้ธนาคารเกษตรเพื่อสหกรณ์การเกษตร (ธกส.) เพราะหากปล่อยสินเชื่อได้ 5 หมื่นล้านบาท สามารถปล่อยได้เป็นแสนล้าน

นายสมคิดกล่าวว่า มีผู้บริหาร ธกส.บอกกับตนว่า ดอกที่พักเพื่ออะไร ถ้าทำดี ไม่เบี้ยวจะให้เรียงแถว เจรจารายคน ดอกที่เกิดจากความผิดพลาด จากน้ำท่วม จะแขวนดอก จะปลดดอกให้ อะไรที่เป็นความผิดพลาดของรัฐบาล จะเจรจาเป็น จะปรับโครงสร้าง ลดต้นให้

เติมเงินกองทุนหมู่บ้าน 7 หมื่นแห่ง

นายสมคิดกล่าวว่า กองทุนหมู่บ้านต้องเป็นหลักในการพัฒนาชุมชน พัฒนาสินค้าชุมชน สร้างการท่องเที่ยวชุมชน โรงสีชุมชน กองทุนหมู้บ้านไม่ได้มีหน้าที่ปล่อยสินเชื่อ แต่ละกองทุนสามารถช่วยเหลือกันได้ แลกเปลี่ยนสินค้าระหว่างกองทุนจังหวัด 7 หมื่นหมู่บ้าน สินค้าจะมีทางออก

“เราจะเติมทุนให้กองทุนหมู่บ้าน กองทุนที่ขาดอยู่จะทยอยเติมให้เต็ม นโยบายที่เคยทำ โอท็อป จะไม่หยุดแค่นี้แน่นอน เราจะหมู่บ้านโอท็อบ เอาการนักท่องเที่ยวไปเที่ยวในหมู่บ้าน”นายสมคิดกล่าว

นายสมคิดกล่าวว่า จะมีกองทุนสร้างอนาคตไทย 3 แสนล้านบาท โดยครึ่งหนึ่งในนั้นช่วยรากหญ้า พัฒนาโอท็อป พัฒนาหมู่บ้าน เงินจะหมุนเวียนในหมู่บ้านแน่นอน

“จะทำให้ดีกว่าเดิม ไม่ค้างเติ่ง แม้กระทั่ง บัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่เราคิดขึ้นมา มีแล้ว ยังไม่บอกวันนี้ เอาไว้เป็นของขวัญปีไหม่ ตนไม่ได้อยู่พลังประชารัฐ และไม่เคยอยู่พลังประชารัฐ แต่ตนสามารถคิดสิ่งที่ดีกว่าเดิมได้ ใครคิดแข่ง คิดแข่งมาเลย ประชาชนจะได้ประโยชน์”

ปุ๋ยคนละครึ่ง

นายสมคิดกล่าวว่า ทุกคนตอนนี้อยู่ในระบอบประชาธิปไตย อยู่ที่นำเสนอนโยบาย คุณเชื่อพรรคไหน ถ้าเชื่อสมคิด เลือกพรรคสร้างอนาคตไทยพรรคเดียว ให้มันรู้ว่า พรรคที่ไม่ซื้อหัวละ 50 จะอยู่ไม่ได้ ให้มันรู้ไป เราจะสู้ด้วยการสุจริต ด้วยอุดมการณ์ เราไม่สร้างแลนด์สไลด์ แต่เราจะสร้างสึนามิเลย”นายสมคิดกล่าวและว่า

“เราตั้งพรรคขึ้นมาเพื่อเป็นกลางเพื่อทำงาน อะไรช่วยได้ก็จะช่วย ยกตัวอย่าง นายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรค เคยใช้นโยบายคนละครึ่ง คนชอบ แต่วันนี้ คนอีสาน เกษตรกรครึ่งประเทศไม่มีเงินเที่ยวแล้ว แต่เราจะใช้นโยบายคนละครึ่งเรื่องปุ๋ย เฉพาะเกษตรกรายย่อย จดทะเบียนไว้แล้ว 5-6 ล้านครัวเรือน 1 ฤดูกาลผลิต รัฐบาลจัดสรรงบประมาณให้ส่วนหนึ่ง คนละครึ่ง”นายสมคิดกล่าว

นายสมคิดกล่าวว่า น้ำมันต้องมีการบริหารจัดการ ลดได้แค่ไหนต้องอธิบายให้ประชาชนฟัง ไฟฟ้าก็เช่นเดียวกัน ปุ๋ย ประเทศนี้กลายเป็นประเทศของพ่อค้าคนกลางไปแล้วเหรอ มีใครบีบคอคุณอยู่ กฎหมายล้าสมัยต้องแก้ไข กระทรวงเกษตรฯต้องแก้ แน่คือคำสัญญา

“พรรคนี้ถูกปรามาสว่าเป็นพรรคเล็ก กำลังไม่มีรู้มั้ยว่า หมอประเวศ บอกว่า ถ้าพยายามทำในสิ่งที่ประชาชนต้องการ แล้วมวลชนจะยืนอยู่ข้างอาจารย์”นายสมคิดกล่าว

นายสมคิดกล่าวว่า ภาคอีสานพื้นดินแห้ง ทำอะไรไม่ได้ ไม่จริง โลกขาดอาหาร โลกกำลังเปลี่ยนแปลง เปิดโอกาสให้กับเกษตรอินทรีย์ เกษตรปลอดสาร อาหารปลอดภัย สมุรไพรเป็นยา อีกหน่อยจะประกาศนิคมอุตสาหกรรมเกษตรที่นี่ ทำเกษตรสีเขียว เกษตรแปรรูป เอางานมาให้อีสาน พลังงานชุมชนจากการปลูกพืชพลังงานจะเป็นนโยบายหลักของรัฐบาลต่อไป

สุพล สงครามครั้งสุดท้าย

ด้านนายสุพล ฟองงาม รองหัวหน้าพรรคสร้างอนาคตไทยและประธานภาคอีสาน ขึ้นกล่าวปราศรัยว่า เป็น ส.จ. ตั้งแต่ 2533 เข้าสู่เส้นทางการเมืองท้องถิ่น เกิดอะไรขึ้นในรอบ 16 ปี รับสมัครเลือกตั้งเป็น ส.ส. ปี 38 สอบตก ปี 39 พรรคความหวังได้ รณรงค์อยากได้นายกฯอีกสาน ได้พล.อ.ชวลิตเป็นนายกฯอีสาน แต่ไม่สามารถบริหารบ้านเมือง ไม่สามารถบริหารเศรษฐกิจได้ เกิดม็อบสีลม อยู่ไม่ได้ลาออก ได้นายชวนเป็นนายกฯ เลือกกันใหม่ หลังจากนั้น 80 ชีวิตก็มาร่วมกับนายทักษิณ พรรคไทยรักไทย ปี 43 เป็นวันแรกที่ตนได้รู้จักกับนายสมคิด จำได้ว่า คนเก่งอยู่นี่ เป็นผู้คิด ผู้บริหาร ตั้งแต่ปี 44 ตั้งแต่ชนะเลือกตั้ง รองนายกรัฐมนตรีถึงปี 48

นายสุพลกล่าวว่า 16 ปีของผม เริ่มตั้งแต่ปี 48 เกิดความขัดแย้ง เกิดม็อบไล่รัฐบาล เป็นจุดเริ่มต้นของความขัดแย้ง ที่นักการเมืองชอบพูดว่า 16 ปีพอหรือยังกับความขัดแย้ง ฝ่ายหนึ่งชี้ว่า 8 ปีฉิบหายพอแล้ว หมายถึงรัฐบาลปัจจุบัน อีกฝ่ายที่มีอำนาจ ถ้าไม่มีความขัดแย้ง ไม่โกงกิน ไม่เผาบ้านเผาเมืองก็ไม่อยู่ในอำนาจ

“ผมกำลังจะบอกว่า ปัญหาของบ้านเมือง 1.ความขัดแย้ง 2.การโกงกินทุจริต เพราะได้คนไม่ได้ ผมตัดสินใจ เที่ยวนี้เป็นสงครามครั้งสุดท้ายทางการเมือง พรรคสุดท้ายแล้ว ไม่มีอีกแล้ว พอแล้ว”นายสุพลกล่าว

นายสุพล ฟองงาม รองหัวหน้าพรรคสร้างอนาคตไทยและประธานภาคอีสาน

นายสุพลกล่าวว่า เงื่อนไขแรกที่ลาออกจากพรรคพลังประชารัฐมาตั้งพรรคสร้างอนาตไทย ต้องได้คนดี สอง ต้องได้คนเก่งบ้านเมืองถึงจะไปรอด บ้านเมืองต้องการคนดี คนเก่ง บ้านเมืองวิกฤต ถ้าบ้านเมืองเป็นคนป่วยก็เป็นมะเร็ง ระยะที่3 ระยะที่ 4 จะเอาหมอจบใหม่ ๆ มารักษาไม่ได้ จะเอาหมออายุน้อยมารักษาไม่ได้ เอาคนรุ่นใหม่ที่มีความรู้ ความสามารถ มีประสบการณ์เข้ามาแก้ไขบ้านเมือง

“ถ้าเอาผู้นำในประเทศ เอาแคนดิเดตนายกฯ ทั้งหลายในประเทศ มายืนเรียงกัน มาเทียบคุณสมบัติกัน คนที่มีความรู้ความสามารถ มีประสบการณ์ มีผลงาน และที่สุดคัญที่สุด ผมพูดได้เต็มปากว่า เป็นคนดี ที่พิสูจน์แล้ว ใครจะเก่งจะดีเท่านายสมคิด สถานการณ์บ้านเมืองในปัจจุบัน วิกฤตเศรษฐกิจ การเมือง ทุจริตและความขัดแย้ง ต้องการคนเก่ง ต้องการคนดี ต้องการคนที่มีประสบการณ์”นายสุพลกล่าว

นายสุพลกล่าวว่า พรรคนี้ตั้งขึ้นมาแก้ปัญหาเศรษฐกิจปากท้องเป็นอันดับแรก สอง ต้องการก้าวข้ามความขัดแย้ง หลังจากนี้เหลือเวลาอีก 5-6 เดือน เราจะส่งครบทุกเขต สู้ทุกเขต ให้พี่น้องเป็นผู้ตัดสิน เราจะไม่ยอมแพ้ ในขณะที่ยังไม่ได้ขึ้นเวที ต้องชกทุกพื้นที่ แพ้ชนะให้พี่น้องตัดสิน

ตั้งกระทรวงน้ำ-ข้าวหอมมะลิ 1.5 หมื่น

ขณะที่สนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรคสร้างอนาคตไทยปราศรัยว่าสิ่งแรกที่พรรค สอท. จะทำคือแก้ปัญหาน้ำแล้ง น้ำท่วม จะทำให้จ.อุบลราชธานี ออกจากความยากจน เราจึงประกาศตั้งกระทรวงน้ำ ที่ผ่านมาอยู่ได้อย่างไร น้ำไม่มีทำมาหากินไม่ได้ พอน้ำมีก็ท่วม รัฐบาลใช้เงินเป็นแสนล้านบาท แต่น้ำก็ท่วมทุกปี ต่อจากนี้ น้ำจะไม่ท่วมจ.อุบลราชธานี ถ้าจะท่วม รอ 3-7 วันก็จะหมด

“สิ่งที่สอง คือแก้ปัญหาหนี้สิน เราเตรียมเงินไว้ 3 แสนล้านบาทเอาไว้แก้หนี้ แก้ความยากจนให้พี่น้อง เดี๋ยวนายสมคิด ว่าที่นายกฯ จะมาเล่าให้ว่าจะแก้หนี้อย่างไร สิ่งที่สามคือ แก้ปัญหาราคาข้าว ราคามันตกต่ำ เราจะเอาราคาข้าวหอมมะลิเกิน 15,000 บาท และจะกดราคาปุ๋ยให้เหลือครึ่งเดียว ถ้ากดสองอย่างนี้ไม่ได้ จะยากจนทั้งชีวิต และสิ่งที่สี่คือ แก้ปัญหาค่าไฟฟ้าแพง ที่เห็นบิลแต่ละเดือนเห็นแล้วจะขาดใจตาย”นายสนธิรัตน์กล่าว

สนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรคสร้างอนาคตไทย