ประยุทธ์ โมโหไม่หาย ฉายาแปดเปื้อน ครม. เถียงดุเดือดวาระแต่งตั้ง

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ประชุม ครม.27 ธ.ค.2565
ภาพจากศูนย์ภาพมติชน

ประยุทธ์ โมโหไม่หาย ฉายาแปดเปื้อน บ่นกลาง ครม. บิ๊กป้อม ฟาดปาก ดุเดือด จุรินทร์ ปกป้องรัฐมนตรีโควตาประชาธิปัตย์ วาระแต่งตั้ง อธิบดีกรมฝนหลวง

วันที่ 27 ธันวาคม 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานจากที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) แจ้งว่า ในช่วงหนึ่งของการประชุม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ปรารภตอนหนึ่งถึงนโยบายหาเสียงของบางพรรคการเมืองว่า การจะหาเสียงอะไรช่วยดูงบประมาณประเทศด้วย ใครเป็นนายกฯ หรือรัฐบาลต่อปวดหัวแน่นอนถ้าหาเสียงแบบนี้ ตนก็เข้าใจและอยากดูแลประชาชนเหมือนกัน แต่บางเรื่อง เช่นล้างหนี้ ยกให้หมดจะเอาเงินมาจากไหน

นายกรัฐมนตรีได้ปรารภถึงเรื่องฉายา ที่สื่อมวลประจำทำเนียบรัฐบาลตั้งในปี 2565 ว่า โดนกันหมด นายดอน ปรมัถต์วินัย รมว.การต่างประเทศยังโดนฉายา ลุ่ม ๆ ดอน ๆ เจออย่างนี้ใครจะไม่โมโห โดนหาว่าทำเอเปคสู้ครั้งก่อนไม่ได้ แต่เวลาตนไปต่างประเทศก็มีแต่คนชื่นชม

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ช่วงหนึ่งที่ประชุมหารือถึงวาระการแต่งตั้ง อธิบดีกรมฝนหลวงและการบินเกษตร ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เสนอรายชื่อนายสุพิศ พิทักษ์ธรรม ในตำแหน่งอธิบดีกรมฝนหลวง โดยนายสุนทร ปานแสงทอง รมช.เกษตรและสหกรณ์ คนใหม่โควตาพลังประชารัฐ ได้ยกมือทักท้วงไม่เห็นด้วย ทำให้นายกฯ ถามไปยังเลขาฯ ครม.ว่าสามารถทักท้วงในที่ประชุมได้หรือไม่ โดยเลขาฯ ครม.ชี้แจงว่าทำได้

จากนั้นที่ประชุมผ่านการพิจารณาเรื่องดังกล่าวไปประชุมเรื่องอื่นต่อ จนกระทั่งจบการประชุมในวาระต่าง ๆ แล้ว นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกฯและ รมว.พาณิชย์ หยิบยกเรื่องดังกล่าวขึ้นหารืออีกครั้ง โดยระบุว่าตนกำกับดูแลกระทรวงเกษตรฯ และได้โทรศัพท์พูดคุยกับ นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.เกษตรฯ ที่ไม่ได้อยู่ในที่ประชุม ยืนยันเสนอชื่อนายสุพิศ ทำให้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ แย้งว่า ตำแหน่งอธิบดีกรมฝนหลวงฯ เป็นโควตาในกำกับของรัฐมนตรีพลังประชารัฐ และได้ตกลงกับนายเฉลิมชัยแล้วว่าจะเป็นคนอื่น

จนกระทั่ง พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ต้องออกความเห็นว่า ในที่ประชุม ครม.เป็นที่ที่ศักดิ์สิทธิ์ ไม่ควรยกเรื่องโควตาพรรคมาพูดกัน และตามกฎหมายผู้มีอำนาจแต่งตั้งอธิบดีคือปลัดกระทรวงเกษตรฯ ทำให้นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.คลัง พูดสนับสนุน พล.อ.ประวิตรว่า เมื่อมีการแบ่งงานกันแล้วก็ควรให้เกียรติ รมช.ที่กำกับดูแลหน่วยงานต่าง ๆ ไม่เช่นนั้นจะมี รมช.ไว้ทำไม

ขณะที่นายจุรินทร์ยังยืนยันหลักการเดิมว่า เป็นสิทธิของรัฐมนตรีว่าการกระทรวง ในการแบ่งงานในกระทรวง จะมอบหมายให้ใครทำอะไร ทำให้นายกฯ ตัดบทว่าให้ ครม.ผ่านเรื่องดังกล่าวไปก่อนพร้อมกับตำแหน่งอื่น ๆ ทั้ง 11 รายชื่อที่กระทรวงเสนอแต่งตั้งโยกย้ายในคราวนี้ เพราะระหว่างนี้ยังอยู่ในขั้นตอนที่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ โดยหลังการประชุม พล.อ.ประวิตรได้เรียกเลขาฯ ครม.ไปคุยค่อนข้างนาน และมีรัฐมนตรีหลายคนเข้าไปพูดคุยด้วย