บลจ.อีสท์สปริงเตรียมจ่ายปันผล 2 กองทุนต่างประเทศ 18 ส.ค. 66

Background Image by jcomp on Freepik

บลจ.อีสท์สปริงประกาศจ่ายปันผล 2 กองทุนต่างประเทศ “ES-GDIV-TMBGRR” งวดผลการดำเนินงาน 3 เดือน (1 พ.ค.-31 ก.ค.) รวม 29 ล้านบาท กำหนดจ่ายปันผลพร้อมกัน 18 ส.ค. 2566

วันที่ 15 สิงหาคม 2566 นางสาวดารบุษป์ ปภาพจน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน อีสท์สปริง (ประเทศไทย) จำกัด หรือ บลจ.อีสท์สปริง เปิดเผยว่า บริษัทเตรียมจ่ายเงินปันผลกองทุนที่ลงทุนในต่างประเทศ 2 กองทุน ภายใต้การบริหารจัดการ สำหรับผลการดำเนินงานรอบระยะเวลา 3 เดือน ระหว่างวันที่ 1 พฤษภาคม 2566-31 กรกฎาคม 2566

ประกอบด้วย กองทุนเปิดอีสท์สปริง Global Dividend Equity (ES-GDIV) ในอัตรา 0.20 บาทต่อหน่วย ซึ่งเป็นการจ่ายปันผลครั้งแรก นับจากวันจดทะเบียนกองทุน เมื่อวันที่ 31 มกราคม 2566 และกองทุนเปิดทหารไทย โกลบอล เรียล รีเทิร์น (TMBGRR) ในอัตรา 0.0998 บาทต่อหน่วยลงทุน โดยมีกำหนดจ่ายปันผลพร้อมกันในวันที่ 18 สิงหาคม 2566 นี้ คิดเป็นมูลค่าเงินปันผลรวมทั้งสิ้น 29,207,787.19 บาท

สำหรับกองทุนเปิดอีสท์สปริง Global Dividend Equity (ES-GDIV) เน้นลงทุนในกองทุนหลัก คือ J.P. Morgan Global Dividend Fund-Class C (acc) USD เพียงกองทุนเดียว โดยเฉลี่ยรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ

ซึ่งกองทุนหลักจะลงทุนในตราสารทุนทั่วโลก รวมถึงตลาดเกิดใหม่ที่สร้างรายได้ในระดับสูงไม่ต่ำกว่าร้อยละ 67 ของมูลค่าทรัพย์สินของกองทุนหลัก และสินทรัพย์ของกองทุนหลักอย่างน้อยร้อยละ 51 จะลงทุนในบริษัทที่มีคุณลักษณะด้านสิ่งแวดล้อมหรือสังคมในเชิงบวก ซึ่งเป็นไปตามแนวทางปฏิบัติด้านธรรมาภิบาลที่วัดได้จากวิธีการให้คะแนน ESG ของผู้จัดการการลงทุน ซึ่งบริหารจัดการโดย J.P. Morgan Asset Management

ส่วนกองทุนเปิดทหารไทย โกลบอล เรียล รีเทิร์น (TMBGRR) เน้นลงทุนในกองทุน GMO Global Real Return (UCITS) Fund Class A USD โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของ NAV

กองทุนหลักมีการลงทุนในหลักทรัพย์ที่หลากหลายทั่วโลก ทั้งตราสารทุน, ตราสารหนี้, ตราสารตลาดเงิน, อัตราแลกเปลี่ยน, ตราสารที่เกี่ยวข้องกับดัชนีอ้างอิงสินค้าโภคภัณฑ์, REITs และตราสารอนุพันธ์ ซึ่งบริหารจัดการโดย Grantham, Mayo, Van Otterloo & Co. LLC

ทั้งนี้กองทุน TMBGRR มีการจ่ายปันผลต่อหน่วยลงทุนย้อนหลัง 5 ปี คือ ปี 2560 จ่ายปันผลอยู่ที่ 0.325 บาทต่อหน่วย ปี 2562 อยู่ที่ 0.20 บาทต่อหน่วย ปี 2563 อยู่ที่ 0.08 บาทต่อหน่วย ปี 2564 อยู่ที่ 0.16 บาทต่อหน่วย และเมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2566 อยู่ที่ 0.0985 บาทต่อหน่วย โดยรวมกับจ่ายปันผลงวดนี้อีก 0.0998 บาทต่อหน่วย รวมเป็นเงินจ่ายปันผลทั้งสิ้น 0.9633 บาทต่อหน่วย