อัยการสั่งไม่ฟ้องทุกข้อหา “บอส อยู่วิทยา” ขับรถชนตำรวจเสียชีวิต เมื่อปี 2555
วันที่ 23 กรกฎาคม 2563 ข่าวสด รายงานอ้างข้อมูลจากซีเอ็นเอ็น ระบุว่า นายวรยุทธ อยู่วิทยา หรือ บอส ทายาทตระกูลอยู่วิทยา หลานชายของนายเฉลียว อยู่วิทยา ผู้ก่อตั้งบริษัทเครื่องดื่มกระทิงแดง อาณาจักรธุรกิจยักษ์ใหญ่ระดับโลก รอดพ้นคดีต้องสงสัยขับรถชนเจ้าหน้าที่ตำรวจถึงแก่ความตาย เมื่อปี 2555 แล้ว เนื่องจากอัยการสั่งไม่ฟ้องทุกข้อหา
- ประกาศแล้ว! พระราชกฤษฎีกาเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ รับ 11,000 บาทต่อเดือน
- บังคับใช้แล้ว! หลักเกณฑ์การดำเนินงาน 30 บาทรักษาทุกที่ ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว
- รักษาการอธิบดี DSI เปิดเงื่อนไข “ขนย้ายกากแคดเมียม” เข้าข่ายเป็นคดีพิเศษหรือไม่
พ.ต.อ.สัมพันธ์ เหลืองสัจจกุล ผกก. สน. ทองหล่อ ให้สัมภาษณ์ซีเอ็นเอ็น ว่า ได้รับทราบจากอัยการถึงการตัดสินใจสุดท้าย เมื่อวันที่ 12 มิถุนายน ที่ผ่านมา ว่า จะไม่สั่งฟ้อง นายวรยุทธ จึงได้แจ้งไปทางนายวรยุทธแล้ว และยกเลิกหมายจับแล้วเช่นกัน
จดหมายแจ้งเรื่องดังกล่าวส่งจากสถานีตำรวจทองหล่อไปยังบ้านพักของนายวรยุทธ อยู่วิทยา ที่กรุงเทพฯ และซีเอ็นเอ็นเห็นจดหมายดังกล่าว มีข้อความว่า…
“อัยการสูงสุดตัดสินยกคำฟ้อง นายวรยุทธ อยู่วิทยา ส่วนคณะกรรมการตำรวจไม่คัดค้านการตัดสินใจนี้ และจะดำเนินการยกเลิกหมายจับต่อไป”
นายวรยุทธ อายุ 28 ปี ตกเป็นข่าวครึกโครมไปทั่วโลก ในคดีที่ระบุว่า อยู่ในรถเฟอร์รารีคันที่พุ่งชนตำรวจ ที่ปฏิบัติหน้าที่บนรถจักรยานยนต์ บริเวณถนนสุขุมวิท กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 3 กันยายน 2555 เป็นเหตุให้ตำรวจนายดังกล่าวเสียชีวิต
นายวรยุทธถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมก่อนในตอนนั้น หลังตำรวจพบรอยน้ำมันจากจุดเกิดเหตุปรากฏเป็นทางยาวไปถึงบ้านของเขา จึงล้อมบ้านก่อนเข้าไปเมื่อได้หมายจับ
โดยพบรถเฟอร์รารีในสภาพยับเยินจากแรงชน นายวรยุทธให้ปากคำตอนนั้นว่าเป็นผู้ขับรถยนต์ แต่อ้างว่าถูกมอเตอร์ไซค์ตัดหน้า จากนั้นประกันตัวออกมาด้วยวงเงิน 5 แสนบาท
คดีดังกล่าว อัยการสำนักงานคดีอาญากรุงเทพใต้ มีคำสั่งฟ้องนายวรยุทธ ในข้อหา ขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 291 มีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี
อย่างไรก็ตาม แม้ตำรวจจะออกหมายจับหลายครั้ง แต่นายวรยุทธแจ้งทุกครั้งว่าอยู่ต่างประเทศ
ทั้งนี้ ตามกฎหมาย คดีนี้มีอายุความในการติดตามตัวผู้ต้องหามาดำเนินคดีเพื่อยื่นฟ้องศาลภายใน 15 ปี นับตั้งแต่วันที่ได้กระทำความผิด ดังนั้นจึงจะขาดอายุความในวันที่ 3 กันยายน 2570
ขณะที่เมื่อวันที่ 3 กันยายน 2560 ข้อหาไม่หยุดให้ความช่วยเหลือตามสมควร หมดอายุความมาแล้ว
นอกจากนี้ ซีเอ็นเอ็น รายงานด้วยว่า คดีดังกล่าวก่อให้เกิดกระแสไม่พอใจต่อกระบวนการยุติธรรมในหมู่ประชาชน ทั้งกรณีอื้อฉาวว่าเจ้าหน้าที่พยายามช่วยปกปิด โดยจับกุมผู้ต้องสงสัยที่ทำทีเป็นว่าขับรถเฟอร์รารีคันเกิดเหตุ อีกทั้งยังมีข้อครหาเรื่องการจ่ายเงินชดใช้ให้ครอบครัวผู้ตาย 3 ล้านบาท