เพื่อไทย โยนหิน 5 ชื่อ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี วัดใจพรรคก้าวไกล

แกนนำเพื่อไทย โยนหินถามทาง 5 ชื่อ ว่าที่แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี หัวหน้าเพื่อไทย แต่งตั้ง ร.ต.อ.เฉลิม เฮียเพ้ง-พงษ์ศักดิ์ คุมพื้นที่เลือกตั้ง กทม. เคลื่อนคู่ พวงเพ็ชร เจ้าแม่ กทม.

วันที่ 3 สิงหาคม 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา พรรคเพื่อไทย ได้เกิดปรากฏการณ์ ปักหมุดวางตัวบุคคลที่จะคุมพื้นที่เลือกตั้งโซน กทม. อย่างเป็นทางการเป็นครั้งแรก โดยหัวหน้าพรรค นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ถึงกับต้องลงนามในหนังสือแต่งตั้ง 14 บุคคลรับผิดชอบ หลังจากมีปัญหาชุลมุนเรื่องการวางตัวผู้สมัครส.ส. ซึ่งวางไปแล้ว 21 เขต เหลืออีก 12 เขต ยังไม่ลงตัว

คำสั่งดังกล่าว เป็นการ “ยกเลิก” การจัดบุคคลคุมโซนกทม. ที่เดิมมี 6 โซน รวบเป็นพื้นที่โซนเดียว ภายใต้ชื่อ “คณะกรรมการประสานงานด้านการเมืองพื้นที่กรุงเทพมหานคร” โดยมีนางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด เป็นประธานคณะกรรมการ

ขับเคลื่อนคู่ขนานกับ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง, นายพงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล, นายภูมิธรรม เวชยชัย, นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง, นายพิชัย นริพทะพันธุ์, นายวิชาญ มีนชัยนันท์, นายมานะ คงวุฒิปัญญา ในฐานะที่ปรึกษา

นอกจากนี้ มีนายดนุพร ปุณณกันต์, นายวราวุธ ยันต์เจริญ, นางสุภาภรณ์ คงวุฒิปัญญา, นายพลภูมิ วิภัติภูมิประเทศ, นายวิรัตน์ มีนชัยนันท์ เป็นกรรมการ และน.ส.อรทัย ลับไพรี เป็นคณะทำงาน

คณะกรรมการนี้ มีอำนาจในการกำหนดแนวทางและแผนงานการดำเนินกิจกรรมทางการเมืองของพรรคในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานคร กลั่นกรอง ตรวจสอบคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามเบื้องต้นของผู้แสดงความจำนงสมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานคร

ประสานงานกับ ส.ส.และส.ก.ของพรรคในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานครเกี่ยวกับกิจกรรมในพื้นที่ ปัญหา และความต้องการของประชาชนในเขตเลือกตั้ง ประเมินกระแสความนิยมของประชาชนในเขตเลือกตั้งแต่ละเขตของพื้นที่กรุงเทพมหานคร ที่มีต่อพรรค ส.ส. และส.ก.ของพรรค

ที่สำคัญ คณะกรรมการชุดนี้จะต้องทำหน้าที่ “สนับสนุนค่าใช้จ่าย” ด้วย ภายใต้คำสั่ง ย่อหน้าสุดท้าย ที่เขียนไว้ว่า

“สนับสนุนการดำเนินงานในหน้าที่ของส.ส.และ ส.ก.ของพรรค และปฏิบัติหน้าที่อื่นตามที่คณะกรรมการบริหารพรรค หรือหัวหน้าพรรคมอบหมายการดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ ให้พรรคสนับสนุนค่าใช้จ่ายตามที่เห็นว่าจำเป็นและเหมาะสม”

แหล่งข่าวในพรรคเพื่อไทยระบุว่า การตั้งคณะทำงานชุดนี้ เกิดขึ้นเพื่อแก้ปัญหาการวางตัวบุคคลลงรับสมัครส.ส. ที่เคยเกิดความลักลั่น แบ่งสาย-ขึ้นตรงกับผู้มีบารมีใน-นอกพรรค โดยเห็นว่าหากปล่อยให้เกิดความแตกแยกเพิ่ม อาจเสียพื้นที่ให้กับพรรคคู่แข่งคนสำคัญคือพรรคก้าวไกล (กก.) ได้

ทั้งนี้ มีการวิเคราะห์ว่าสูตรการเลือกตั้งแบบใหม่ไม่ว่าจะเป็นหาร 500 หรือแนวโน้มสูงสุดคือสูตรหาร 100 คู่แข่งทางตรงของเพื่อไทยในบัญชีรายชื่อ และส.ส.เขต คือพรรคก้าวไกล และจะเป็นปัญหาระยะยาวต่อไปหากต้องนับคะแนนเสียงรวบรวมพรรคร่วม เพื่อการจัดตั้งรัฐบาลในอนาคตด้วย

พรรคเพื่อไทยจึงเตรียมบุคลากรการเมืองไว้แก้โจทย์กับพรรคก้าวไกลหลายแบบ ทั้งการวางคนในระบบบัญชีรายชื่อ ระบบส.ส.เขต และปล่อยข่าว ชื่อ-ชั้นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ที่ตอบโจทย์ฐานเสียงทุกรุ่น 5 รายชื่อ ประกอบด้วย บุคคลที่มีคุณสมบัติ ดังนี้

1.น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย

2.นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรค

3.นักธุรกิจ บุคคลที่เคยปรากฏชื่ออยู่ในโผ สายตรงน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร

4.นักการเมืองที่คะแนนนิยมสูงสุด บุคคลที่เคยเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ของเพื่อไทย

5.นักการเมือง ที่อาจไม่ได้เป็นสมาชิกพรรค แต่ได้รับความนิยมมากเพียงพอที่จะเซอร์ไพรส์ตลาดการเมืองได้