วิบากกรรม “แจ็ก หม่า” ที่เริ่มเบาบาง สู่การฟื้นตัวบิ๊กเทคในจีน

Jack Ma
คอลัมน์ : Tech Times
ผู้เขียน : มัชฌิมา จันทร์สว่างภูวนะ

วันที่ 24 ตุลาคม 2020 แจ็ก หม่า คงไม่รู้ว่าสุนทราพจน์ของเขาในงานประชุมแห่งหนึ่งจะสั่นสะเทือนวงการเทคของจีนอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน

ในงาน Bund Financial Summit ที่เซี่ยงไฮ้ แจ็ก หม่า วิจารณ์กฎระเบียบด้านการเงินของรัฐว่าฉุดรั้งการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศ และสิ่งที่จีนต้องการไม่ใช่การ “ควบคุม” แต่เป็นการเปิดโอกาสให้ประชากรรายได้น้อยสามารถเข้าถึงบริการทางการเงินใหม่ ๆ โดยไม่ถูกจำกัดให้ต้องพึ่งพิงบริการของธนาคารของรัฐอย่างเดียว

สำหรับคนทั่วไป ฟังแล้วก็คงไม่รู้สึกอะไร เพราะสังคมโลกเคยวิจารณ์นโยบายเศรษฐกิจของจีนหนักกว่านี้ไม่รู้กี่เท่า แต่สำหรับรัฐบาลจีน คำพูดของแจ็ก หม่า ระคายโสตประสาทเหลือเกินจนต้องเรียกเจ้าสัวที่ทรงอิทธิพลที่สุดของประเทศ (และอดีตคนที่ร่ำรวยที่สุดในเอเชีย) มาปรับทัศนคติ

ไม่กี่วันต่อมา Ant Group บริษัทลูกของ Alibaba ประกาศยกเลิกแผนเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เซี่ยงไฮ้และฮ่องกงกะทันหัน หรือเพียง 2 วัน ก่อน IPO

หากไม่ถูกยกเลิก นักวิเคราะห์เชื่อว่า Ant Group บริษัท FinTech ที่ใหญ่ที่สุดในโลกในขณะนั้น จะสามารถระดมทุนได้กว่า 34.4 พันล้านเหรียญ และขึ้นแท่นเป็น IPO ที่มีมูลค่าที่สูงที่สุดในโลกทันที

หลังจากนั้น แจ็ก หม่า ก็หายตัวเข้ากลีบเมฆ พร้อม ๆ กับการเปิดฉากของรัฐบาลในการปราบปรามบิ๊กเทคทั่วประเทศอย่างหนัก จนทำให้มูลค่าของบริษัทบิ๊กเทคจีนหดหายไปกว่า 3 ล้านล้านเหรียญในปี 2021

ผ่านไป 3 ปี หลังมั่นใจว่าควบคุมบิ๊กเทคได้อยู่หมัดแล้ว รัฐบาลก็เริ่มผ่อนคลายการคุมเข้ม พร้อมกับการปรากฏตัวของแจ็ก หม่า ตามประเทศต่าง ๆ

ล่าสุด แม้รัฐบาลจะสั่งปรับ Ant เป็นเงิน 984 ล้านเหรียญ โทษฐานละเมิดกฎระเบียบว่าด้วยการคุ้มครองผู้บริโภคและธรรมาภิบาล แต่นักวิเคราะห์มองว่า เป็นการปิดฉากการสอบสวนของรัฐและน่าจะทำให้อนาคตวงการเทคจีนดูสดใสขึ้น พร้อมความหวังว่า IPO ของ Ant Group ที่นักลงทุนรอคอยจะกลับเข้าแผนเดิมอีกครั้ง

แต่กว่าจะถึงวันนี้ ราคาที่แจ็ก หม่า ต้องจ่ายจากการวิจารณ์การทำงานของรัฐก็สูงลิ่วจนน่าตกใจ

สัปดาห์ก่อน Ant Group ประกาศซื้อหุ้นคืน 7.6% ในราคา 78.5 พันล้านเหรียญ ซึ่งน้อยกว่ามูลค่าเดิมเมื่อ 3 ปีก่อน ถึง 230 พันล้านเหรียญ หรือลดลงถึง 75%

เบ็ดเสร็จแล้ว Ant และ Alibaba มีมาร์เก็ตแคป ลดลงจากการถูกไล่บี้โดยภาครัฐตลอด 3 ปี ถึง 877 พันล้านเหรียญ

ยิ่งไปกว่านั้น เขายังต้องสละสิทธิในการควบคุม Ant Group เมื่อต้นปีที่ผ่านมา

ที่น่าสะท้อนใจ คือ แม้ครั้งหนึ่ง แจ็ก หม่า จะได้รับการยกย่องให้เป็นนักธุรกิจแห่งศตวรรษที่สร้างแรงบันดาลใจและความเปลี่ยนแปลงอย่างมากในจีน แต่การถูกทำให้เงียบหายไปนาน สังคมก็ “มูฟออน” ไปแห่แหนนักธุรกิจอื่น เช่น เหลย จุน เจ้าของ Xiaomi เป็นต้น ในขณะที่ข่าวเทคโนโลยีก็หันไปโฟกัสที่เทรนด์ใหม่ ๆ อย่าง EVs และ AI ไปเสียแล้ว