อย่ามองข้าม ตลาดใหญ่สองวัย

แฟ้มภาพ

คอลัมน์ สามัญสำนึก

โดย สมถวิล ลีลาสุวัฒน์

 

วันก่อน นั่งวินหน้ามติชนไปตลาดบองมาเช่ เป้าหมายเพื่อไปจ่ายบัตรเครดิตแบงก์แม่มณีสีม่วง

เมื่อเห็นกลุ่มลูกค้าสูงวัยที่เป็น “กำลังซื้อหลัก” นั่งรถตู้หรูขนาดกะทัดรัดมาตลาดไฮโซ อย่างไม่ได้นัดหมาย ถามไถ่หลายท่านส่วนใหญ่ตอบตรงกัน ชอบมาที่นี่เพราะ “สะอาด สะดวก สบายใจ”

แต่เมื่อหันมาถามพ่อค้าแม่ค้าในตลาดบองฯบ้าง “คอมเมนต์” อาจแตกต่างไป เช่น ถ้าลูกค้ากลุ่มเดิมมาแล้วก็จะซื้อของกินของใช้แบบเดิม ๆ ไม่มีเปลี่ยนแปลง และส่วนใหญ่จะซื้อ “เท่าเดิม”

คือโอกาสขายของในจำนวนที่มากกว่าเดิม เป็นไปได้ยาก นอกจากจะฟลุกจริง ๆ

ที่น่าสนใจ กลุ่มผู้เช่าแผงต่างให้ข้อมูลตรงกันว่า บองมาเช่เป็นสถานที่จับจ่ายที่มี positioning ชัดเจน กลุ่มลูกค้าวัยเกษียณ วัยชรา จะชอบมาก ๆ และลูกค้าเหล่านี้มี “ฐานะ” ดี มั่นคง ไม่ต้องห่วงไร

แต่ปรากฏว่า ในข้อดีกลับมีข้ออ่อน คือ “ยิ่งแก่ยิ่งกลัว” โดยเฉพาะกลัวเงินหมด ทำให้เศรษฐีวัยชราไม่กล้าจับจ่าย จนพ่อค้าแม่ค้ามองว่า คนรวยขี้เหนียวอย่างแรง

จากพฤติกรรมผู้บริโภคและเทรนด์ตลาดใหญ่ในอนาคต ร้อยเอกจิทัศ ศรสงคราม ซีอีโอหนุ่มมาดเนี้ยบ เจ้าของตลาดบองมาเช่ เปิดใจว่า “อยากปรับโพซิชันนิ่ง อยากเจาะตลาดคนรุ่นใหม่ให้เข้ามาบองมาเช่บ้าง ไม่อยากให้มองและคิดฝังแน่นไปว่า เราเป็นตลาดผู้สูงวัย”

ทำให้วันก่อนเกิดเสียงกรี๊ดกร๊าด ปิ๊ดปิ๊ว ดังกระหึ่มทั่วตลาดในยามบ่าย เพราะเจ้าของตั้งใจจัดอีเวนต์กระชากวัย โดยเชิญศิลปินค่ายเดอะวอยซ์มา ทำให้บรรยากาศดูคึกคัก

และมีแนวโน้มว่า กิจกรรมกระตุ้นการจับจ่ายแบบต่างวัยคงจะมีมากขึ้นเรื่อย ๆ เช่น มีตลาดเปิดท้ายขายของที่วัยรุ่นชอบ มีกลุ่มฟู้ดทรักมาตั้งร้านเรียกความสนใจ ฯลฯ

การเจาะตลาดสองวัยแบบผสมผสานทั้งคนรุ่นเก่าและรุ่นใหม่ให้ไปด้วยกันได้ น่าจะเป็นตลาดใหญ่ในอนาคต ที่เราสามารถโฟกัสสิ่งที่ขายได้ชัดเจน ตรงจุด ไม่หยุดอยู่กับที่

ซึ่งมีคำพูดหนึ่งของ ดร.สิงห์ อินทรชูโต สถาปนิกลดโลกร้อน ย้ำมาเสมอว่า “อนาคตประเทศไทยจะน่าห่วง เพราะเราก้าวสู่ตลาดผู้สูงวัยอย่างเต็ม ๆ แต่คนไทยส่วนใหญ่จะแก่แล้ว แต่ไม่มีเงิน ไม่เหมือนต่างประเทศ ที่เขาจะแก่แล้วมีเงิน มีสวัสดิการ”

ข้อคิดประเด็นนี้คงต้องฝากไว้กับรัฐบาลผู้มีแต่ให้ละกัน

ส่วนความเคลื่อนไหวจากภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ล่าสุด เสี่ยประทีป ตั้งมติธรรม นักพัฒนาที่ดินรุ่นเก๋า ขยับตัวแรงดอดไปซื้อที่ดินแถวแม่น้ำป่าสัก ย่านแก่งคอย สระบุรี เตรียมขึ้นโครงการใหม่แกะกล่อง มูลค่าไม่ถึงพันล้าน แต่เสี่ยภูมิใจนำเสนอมาก มีชื่อว่า “ศุภวัฒนาลัย” คล้องจองกันดีกับชื่อบริษัทศุภาลัย

โปรเจ็กต์นี้เจาะตรงสู่ตลาดผู้สูงวัย อายุเริ่ม 50 ปีขึ้นไป สามารถมาเป็นลูกค้าเช่าซื้อทาวน์โฮมได้ทันที ถ้าคุณพอใจ แต่ต้องมีเงินก้อนเตรียมไว้จ่าย 1.3 ล้านบาทกรณีอยู่คนเดียว ถ้าอยู่เป็นคู่ขอเพิ่มอีก 2 แสนบาท

ขณะเดียวกัน ต้องมีเงินหมุนเวียนต่อเดือนอีกประมาณ 50,000 บาท ไว้ชำระเป็นค่าส่วนกลาง ค่าดูแล ค่าอาหาร

ซึ่งค่าอาหารนี่ต้องจ่ายเป็นรายเดือน เหมือนเราเรียนโรงเรียนประจำประมาณ 48,000 บาท แล้วทางโครงการจะออกบัตรสมาร์ทการ์ดไว้รูด ดูทันสมัยขึ้นมาหน่อย ไว้รูดซื้ออาหาร ซื้อบริการสปาหรือนวดผ่อนคลาย

ดูเสี่ยประทีปและซ้ออัจฉรา ตั้งมติธรรม จริงจังมาก ราวกับว่า เปิดตลาด รองรับกลุ่มตัวเองและผองเพื่อน อีกขาหนึ่งเจ้าของศุภาลัยก็ลุยตลาดชนชั้นสูงใจกลางเมืองสร้างคอนโดฯ มิกซ์ยูสกรีนแลนด์ไปด้วย หลังประมูลซื้อที่มาค่อนข้างแพงจากสถานทูตออสเตรเลีย

เสียดายตรงที่เสี่ยประทีปไปใช้ชื่อ “ไอคอน”นำหน้าชื่อโครงการ กลุ่มลูกค้าสับสน และเลยเข้าใจไปถึงอีกโครงการหนึ่งทำเลฝั่งธนบุรี “ไอคอนสยาม” ของตระกูล “เจียรวนนท์”

การตั้งชื่อโครงการ หรือถนนหนทาง นี่ก็สำคัญเกิดดับอยู่กับคำสองคำนี้แหละ

 

คลิกอ่านเพิ่มเติม… รุกตลาดวัยเกษียณ “ศุภวัฒนาลัย” สระบุรี ทาวน์โฮมเช่าซื้อศุภาลัย 1.3 ล้าน