ยกระดับมาตรการสกัดไวรัสอู่ฮั่น

บทบรรณาธิการ

 

โรคปอดอักเสบจากเชื้อไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ในประเทศจีน (เมืองอู่ฮั่น) ที่แพร่ระบาดไปหลายประเทศรวมทั้งไทย สร้างความตื่นตระหนกกับคนทั่วโลก เนื่องจากไม่มียาหรือวัคซีนป้องกันรักษาไวรัสชนิดนี้ได้โดยตรง นอกจากป้องกันด้วยการหลีกเลี่ยงสัมผัสผู้ป่วย ล้างมือ สวมหน้ากากอนามัย ฯลฯ

ศูนย์ปฏิบัติการภาวะฉุกเฉิน กรมควบคุมโรค รายงานว่า วันที่ 27 ม.ค.ที่ผ่านมา พบผู้ป่วยในจีนกระจายทุกเมือง ยกเว้นเมือง Xizang รวม 2,744 ราย อาการรุนแรง 461 ราย เสียชีวิต 80 ราย มีผู้ป่วยทั่วโลก รวม 2,802 ราย ส่วนในไทยพบผู้ป่วยที่มีอาการเข้าข่ายตามนิยามโรคไวรัสโคโรน่า 136 ราย ผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ 2019 รวม 8 ราย

ชี้ให้เห็นว่าไทยมีความเสี่ยงจะเกิดการแพร่ระบาดของโรคร้าย โดยกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ได้ยกระดับศูนย์ปฏิบัติการภาวะฉุกเฉินเป็นระดับ 3 ติดตามสถานการณ์ทั้งในและต่างประเทศอย่างใกล้ชิด พร้อมเฝ้าระวังค้นหาผู้ป่วยที่มาจากต่างประเทศ โดยเฉพาะจุดคัดกรองในสนามบินหลัก 5 แห่ง โรงพยาบาล โรงแรม ฯลฯ

การดำเนินการดังกล่าวเป็นการออกแอ็กชั่นของข้าราชการประจำ สอดรับกับการส่งสัญญาณเตือนจากองค์การอนามัยโลก (WHO) ขณะที่ฝ่ายการเมืองยังสาละวนกับเกมการเมืองทั้งในสภา นอกสภา ก่อให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์และถูกตั้งคำถามถึงบทบาทและความรับผิดชอบของรัฐบาล นักการเมือง

ไม่ต่างไปจากการรับมือฝุ่นควันพิษ PM 2.5 ที่แม้จะยกระดับความสำคัญของปัญหาเป็นวาระแห่งชาติ ขณะที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบแนวทางป้องกันแก้ไขปัญหา 12 มาตรการ แต่ในทางปฏิบัติหลายมาตรการยังไม่คืบหน้าชัดเจน

ทำให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ต้องออกแถลงการณ์ผ่านทางโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจฯ ตอกย้ำให้ประชาชนเชื่อมั่นในการทำงานและการป้องกันแก้ไขปัญหาไวรัสโคโรน่า และฝุ่นพิษ PM 2.5 ของภาครัฐ

อย่างไรก็ตาม ความศรัทธาเชื่อมั่นจะเกิดขึ้นได้ต่อเมื่อรัฐบาล หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งแก้ปัญหาเพื่อลดผลกระทบและความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้นกับเศรษฐกิจ และสุขภาพอนามัยประชาชนได้โดยเร็วเท่านั้น

ที่สำคัญต้องชี้แจงทำความเข้าใจให้สาธารณชนตื่นตัวและตระหนักถึงมหันตภัยที่ทั่วโลกกำลังหวาดผวา รวมทั้งวิธีป้องกันหลีกเลี่ยงการติดเชื้อจากการแพร่ระบาดของไวรัสจากเมืองอู่ฮั่น ขณะเดียวกัน ก็ช่วยสอดส่องดูแลเพื่อสกัดคัดกรองผู้ป่วยที่มีโอกาสจะแพร่เชื้อเพื่อลดความเสี่ยง ทุกภาคส่วนจะได้มั่นใจ เศรษฐกิจไทยจะถูกกระทบน้อยที่สุด