เปิดประเทศฟื้นเศรษฐกิจติดกับดักวัคซีน

วัคซีนเดิมพันเปิดประเทศ
บทบรรณาธิการ

โครงการนำร่องเปิดประเทศ “ภูเก็ตแซนด์บอกซ์” ที่จะเริ่มคิกออฟวันที่ 1 กรกฎาคมนี้ใกล้เข้ามา การแพร่ระบาดของโควิด-19 ยิ่งรุนแรง จากอู่ฮั่นสายพันธุ์ดั้งเดิม ถึงตอนนี้ประเทศไทยมีผู้ติดเชื้อทั้งสายพันธุ์อังกฤษ (อัลฟ่า) อินเดีย (เดลต้า) แอฟริกา (เบต้า) เป็นไวรัสกลายพันธุ์ที่แพร่กระจายรวดเร็วและรุนแรง ส่งผลให้ยอดผู้ป่วย ผู้เสียชีวิตพุ่งไม่หยุด

ระบบสาธารณสุข แพทย์ พยาบาล ฯลฯ ที่ทำงานด่านหน้าหนักหนาสาหัสอยู่แล้วต้องแบกภาระมากขึ้น หากสถานการณ์ยังไม่คลี่คลายจากนี้ไปไม่นานจะถึงจุดวิกฤต ระบบสาธารณสุขอาจกำแพงแตกรับมือไม่ไหว โดยเฉพาะในพื้นที่สีแดงเข้ม 4 จังหวัด คือ กรุงเทพมหานคร (กทม.) นนทบุรี ปทุมธานี และสมุทรปราการ ที่การระบาดยังขยายวงกว้าง

ขณะที่การบริหารจัดการวัคซีนยังติดหล่มแก้ไม่ตก การเลื่อนวันนัด-ร่นระยะเวลาฉีดวัคซีนยิ่งก่อให้เกิดความสับสน ผลพวงจากปริมาณวัคซีนมีค่อนข้างจำกัด สวนทางกับยอดจองซื้อแอสตร้าเซนเนก้า, ซิโนแวค ที่รัฐบาลประกาศ เพราะเอาเข้าจริงไม่สามารถยืนยัน วันเวลา กับปริมาณวัคซีนที่จะได้รับแต่ละงวดได้ชัดเจน ทางรอดสุดท้าย การสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ แทนที่จะเร็วก็กลับถูกยื้อ ความไม่แน่นอนจึงสั่นคลอนความเชื่อมั่น

แผนเปิดเกาะภูเก็ต สมุย พะงัน เกาะเต่า ก่อนขยายผลทั่วประเทศทั้ง 77 จังหวัดอย่างเป็นทางการ ให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าไทยโดยไม่ต้องกักตัว ตั้งแต่ 1 ตุลาคม 2564 ปลดล็อกเศรษฐกิจให้ขับเคลื่อนต่อ แม้เสี่ยงแต่จำเป็นต้องทำ ภาครัฐจึงต้องมีมาตรการควบคุมป้องกันที่ดีพอ พร้อมถอดบทเรียนความผิดพลาดอุดจุดอ่อนการบริหารจัดการวัคซีน ลดความเสี่ยง ความสูญเสียให้มากที่สุด

การหยุดสถิติผู้ติดเชื้อรายใหม่ ยอดเสียชีวิตรายวัน ก่อนห้องไอซียู ห้องความดันลบ อัตราการครองเตียงในโรงพยาบาลหลัก เตียงสนาม ฯลฯ ที่เวลานี้ใกล้ถึงจุดที่ไม่สามารถรองรับผู้ป่วยได้เพิ่ม จนน่าห่วงว่าสาธารณสุขทั้งระบบจะรับไม่ไหว เป็นปัญหาเฉพาะหน้าที่ต้องดำเนินการเร่งด่วน เพื่อคลายความตื่นตระหนกและวิตกกังวลของประชาชน

โดยเฉพาะอย่างยิ่งการควบคุมสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิดใน กทม.และปริมณฑล ที่ยังตรวจพบผู้ติดเชื้อคลัสเตอร์ใหม่ต่อเนื่อง รัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจึงอาจต้องตัดสินใจจำกัดเคลื่อนย้ายประชากร ล็อกดาวน์ หรือใช้มาตรการเข้มข้นในบางพื้นที่ หยุดการกระจายของเชื้อ

ขณะเดียวกัน ก็เร่งปูพรมฉีดวัคซีนเชิงรุก ฟื้นความเชื่อมั่น “ภูเก็ตแซนด์บอกซ์” จะได้ไม่สูญเปล่า อย่างไรก็ตาม ทั้งหมดทั้งมวลจะเกิดขึ้นได้ต่อเมื่อทุกภาคส่วนร่วมมือกัน สำคัญสุดต้องเร่งถอดสลัก ฝ่ากับดักวัคซีนที่ฉุดรั้งประเทศอยู่ขณะนี้