
ยุโรปผ่อนคลายมาตรการตรึงเข้มโควิด-19 ไปหลายประเทศแล้ว สอดคล้องกับการจับตาขององค์การอนามัยโลก ว่าคนในทวีปแห่งนี้จะได้อยู่อย่างสบายใจไปยาว ๆ ไม่ต้องผวาโควิดเหมือนเดิมอีก
วันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2565 บีบีซี รายงานว่า ดร.ฮันส์ คลูเกอ ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลก หรือ WHO ประจำภูมิภาคยุโรป กล่าวถึงสถานการณ์โรคระบาดโควิด-19 ว่า ยุโรปกำลังเข้าสู่ช่วงสงบนิ่งที่ยาวนาน เมื่อสิ้นสุดฤดูหนาว ขณะที่ชาวยุโรปฉีดวัคซีนกันอย่างทั่วถึง รวมถึงพบว่าสายพันธุ์โอมิครอนลดระดับความร้ายแรงลง
“ช่วงเวลาที่มีการป้องกันสูงขึ้นน่าจะเป็นช่วงสงบสุขและนำมาซึ่งสันติภาพที่ยาวนาน” ดร.คลูเกอกล่าว และว่ามั่นใจว่ายุโรปอยู่ในสถานะที่ดีขึ้นว่าแต่ก่อน แม้อาจจะเจอกับเชื้อกลายพันธุ์ที่ระบาดได้เร็วกว่าโอมิครอน

“ผมเชื่อว่า เป็นไปได้ที่จะมีสายพันธุ์ใหม่ปรากฏอีก ซึ่งหลีกเลี่ยงไม่ได้ เพียงแต่ไม่จำเป็นต้องใช้มาตรการขัดขวางที่เราเคยจำเป็นต้องใช้ก่อนหน้านี้” ผอ.อนามัยโลกประจำยุโรปกล่าว
ดร.คลูเกอกล่าวด้วยว่า ช่วงสัปดาห์ก่อน มีผู้ติดเชื้อใหม่สูงถึง 12 ล้านคน เป็นสถิติสูงสุด แต่เจ้าหน้าที่กลับไม่พบว่ามีกรณีที่ผู้ติดเชื้อจะต้องเข้าโรงพยาบาลด้วยอาการหนัก อย่างไรก็ตาม ขอกระตุ้นให้ชาติยุโรป เดินหน้ารณรงค์การฉีดวัคซีน และจับตาสายพันธุ์ต่าง ๆ ต่อไป

ด้านเจ้าหน้าที่สาธารณสุขระบุว่า ไวรัสไม่ได้มีองค์ประกอบที่เป็นภัยคุกคามร้ายแรงอีก เพราะอัตราการฉีดวัคซีนสูงมากพอที่จะช่วยป้องกันอาการป่วยร้ายแรง แม้ว่าโอมิครอนจะระบาดง่ายมาก
เดนมาร์กเป็นประเทศแรกของสหภาพยุโรปที่ยกเลิกทุกมาตรการป้องกันโควิด รวมถึงไม่ต้องสวมหน้ากากอนามัยในที่สาธารณะอีกต่อไป
นอร์เวย์ประกาศผ่อนคลายกฎคุมโควิดของตนเองแล้ว ส่วนสวีเดนประกาศจะยกเลิกมาตรการเกือบทั้งหมดที่ใช้ในประเทศ ตั้งแต่วันที่ 9 ก.พ.
“โรคระบาดยังไม่จบ แต่เราจะเข้าสู่เฟสใหม่ทั้งหมดแล้ว” นายกรัฐมนตรี มักดาเลนา แอนเดอร์สสัน แห่งสวีเดนกล่าว
…………..
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
วัคซีนโควิด-19 ป้องกันภาวะลองโควิด (Long COVID) ได้หรือไม่ ?
อังกฤษคลายล็อกดาวน์ เลิกบังคับใส่หน้ากาก เชื่อโควิดเลยจุดพีกแล้ว