แสนสิริ หนุน 3 พลังอาสาราชบุรี ต่อยอดโครงการ Zero Dropout

แสนสิริ

ปัญหาการศึกษาเกี่ยวโยงกับโครงสร้างที่สำคัญที่สุดของประเทศไทย ทั้งยังเป็นสาเหตุของหลายปัญหาที่ประเทศไทยกำลังเผชิญอยู่ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) เชื่อว่าการแก้ปัญหาเด็กหลุดจากระบบการศึกษาจะนำไปสู่การสร้างรากฐานสำคัญที่จะช่วยผลักดันให้ประเทศไทยขับเคลื่อนไปข้างหน้าได้อย่างแข็งแกร่ง

จึงจัดทำโครงการ “Zero Dropout เด็กทุกคนต้องได้เรียน” โดยร่วมมือกับกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) เพื่อมุ่งสร้างการเปลี่ยนแปลงการศึกษาไทยให้เด็กหลุดจากระบบการศึกษาเป็นศูนย์ใน 3 ปี ด้วยการนำร่องในจังหวัดราชบุรีเมื่อต้นปี 2565

สำหรับล่าสุด แสนสิริ และ กสศ.ร่วมกับจังหวัดราชบุรีรุกหน้าโครงการด้วยการเปิดตัว 3 พลังอาสาจังหวัดราชบุรี ได้แก่ อสม., อพม. และ อสศ. เพื่อลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาแบบ 3 in 1 พร้อมมอบทุนการศึกษามูลค่ากว่า 1,100,000 บาท เพื่อแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการศึกษาแก่นักเรียนกลุ่มชั้นรอยต่อที่มีความเสี่ยงจะหลุดนอกระบบจำนวนรวมมากกว่า 700 คน

เศรษฐา ทวีสิน
เศรษฐา ทวีสิน

“เศรษฐา ทวีสิน” ประธานอำนวยการและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) กล่าวอ้างอิงจากข้อมูลของ กสศ.ระบุว่า อัตราการเข้าเรียนของเด็กไทยลดลง โดยในปี 2565 มีเด็กไทยทั่วประเทศเสี่ยงหลุดจากระบบการศึกษาประมาณ 2 ล้านคน มาจากปัญหาด้านเศรษฐกิจเป็นหนึ่งในสาเหตุหลัก และปี 2564 พบว่า 43,060 คนไม่เรียนต่อ แบ่งเป็นระดับอนุบาล 604 คน ป.6 จำนวน 8,699 คน และ ม.3 จำนวน 33,710 คน

ขณะที่สถานการณ์ในจังหวัดราชบุรีพบว่ามีเด็กอายุ 3-15 ปีที่ไม่มีข้อมูลในระบบการศึกษากว่า 11,200 คน แบ่งเป็นเด็กปฐมวัย 3-5 ปี 66% เด็กประถมศึกษา 6-11 ปี 26% และเด็กมัธยมศึกษา 12-15 ปี 8%

ทั้งนี้อยากให้ทุกคนมีส่วนร่วมในการช่วยเหลือเรื่องการศึกษาของเด็ก จึงออกหุ้นกู้ให้ประชาชนซื้อ ซึ่งเป็นมากกว่าแค่ซื้อหน่วยลงทุน เพราะนอกจากจะได้รับผลตอบแทนจากการลงทุน 3.20% ต่อปี รับดอกเบี้ยทุก 3 เดือนตลอดอายุหุ้นกู้ 3 ปี แต่เรายังนำไปบริจาคให้แก่ กสศ.-กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษาเพื่อใช้ในโครงการ Zero Dropout อีกด้วย

โดยหุ้นกู้แสนสิริมีมูลค่าเสนอขายไม่เกิน 100 ล้านบาท และอันดับความน่าเชื่อถือของหุ้นกู้ BBB+ ซึ่งแสนสิริเปิดขายไปเมื่อ 15 ก.พ. 2565 ผ่านมา และขายหมดภายใน 2 นาที สำหรับผู้ที่ไม่สามารถซื้อหุ้นกู้นี้ได้ทัน สามารถบริจาคเงินโดยตรงให้กับ กสศ.ได้

“เศรษฐา” กล่าวต่อว่า ตอนนี้แสนสิริร่วมกับจังหวัดราชบุรี และ กสศ.ขยายการดำเนินงานของโครงการสู่กลไกระดับจังหวัด และท้องถิ่น พร้อมกับเปิดตัว “3 พลังอาสา จังหวัดราชบุรี” รวมพลัง 3 กลไกท้องถิ่นคือ อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.), อาสาสมัครพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (อพม.) และอาสาสมัครการศึกษา (อสศ.) เพื่อช่วยฟื้นฟูเด็ก ๆ ทุกมิติ

“เรามุ่งดูแลและฟื้นฟูเด็กที่มีความเสี่ยงหลุดออกนอกระบบการศึกษา และทำงานครอบคลุมทุกมิติ ตั้งแต่ด้านสุขภาพกายและใจ, การคุ้มครองทางสังคมและโอกาสทางการศึกษา ซึ่งการผนึกกำลังระหว่างภาครัฐ ภาคเอกชน และกลไกท้องถิ่นครั้งนี้ นับเป็นนวัตกรรมกลไกอาสาสมัคร

เพื่อลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา แบบ 3 in 1 ที่ริเริ่มที่ราชบุรีเป็นจังหวัดแรก เราเชื่อว่าราชบุรีโมเดลจะเป็นต้นแบบที่จังหวัดอื่น ๆ นำไปประยุกต์ใช้ขยายผลเพื่อสร้างความเสมอภาคทางการศึกษาให้ครอบคลุมทั่วประเทศอย่างยั่งยืน”

อังกูร ศีลาเทวากูล
อังกูร ศีลาเทวากูล

“อังกูร ศีลาเทวากูล” รองผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี กล่าวเสริมว่า “องค์การยูเนสโกชี้ว่าปัญหาเด็กหลุดจากระบบการศึกษาต้องรีบเร่งดำเนินการอย่างเร่งด่วน มิเช่นนั้น เด็กทั้งรุ่นอาจจะต้องเผชิญกับผลกระทบที่แก้กลับคืนมาไม่ได้ สิ่งที่จะสูญเสียไปคือคนเจเนอเรชั่นหนึ่งที่จะหายไปทั้งรุ่น ซึ่งกุญแจหลักของการแก้ปัญหาที่จังหวัดราชบุรีจะเดินหน้าคือ

หนึ่ง recovery การฟื้นฟูผลกระทบจากความเสียหายของไวรัสโควิด-19 สอง resilience การเตรียมความพร้อมเพื่อรับมือกับวิกฤตการณ์ต่าง ๆ ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต และสาม changes การปรับเปลี่ยนมุมมองแนวคิด และวิธีการในการแก้ไขปัญหา”

ดร.ไกรยส ภัทราวาท
ดร.ไกรยส ภัทราวาท

“ดร.ไกรยส ภัทราวาท” ผู้จัดการกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) กล่าวว่า ในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2565 เป็นการทำงานเพื่อเรียนรู้บริบทและสถานการณ์ในพื้นที่จริง พร้อมทั้งสร้างเครือข่ายภาคีการทำงานระยะยาว ผ่านการออกแบบกลไกการจัดการเชิงพื้นที่ (area-based) จนปัจจุบันขยายพันธกิจมาสู่การประสานความร่วมมือ 3 อาสาจังหวัดราชบุรี รวมทั้งผนึกกำลังร่วมกับกลไกจังหวัด

ด้วยการจัดตั้งคณะกรรมการจัดการศึกษาเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษาจังหวัดราชบุรี คณะกรรมการศูนย์ช่วยเหลือเด็กวิกฤต และคณะทำงานในพื้นที่ ประกอบด้วยผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นประธาน, ศึกษาธิการจังหวัด, เขตพื้นที่, ทุกหน่วยงานการศึกษา, สถานศึกษา, ผู้อำนวยการและครู อาสาสมัครการศึกษา เพื่อประสานความร่วมมือกับทุกภาคส่วน ลงลึกถึงปัญหา สร้างความเข้าใจและทำงานร่วมกัน เป็นการแก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืน

นอกจากนั้น ในช่วงเปิดเทอมปีการศึกษา 1/2565 เรายังเข้าไปช่วยเหลือเด็กนักเรียนกลุ่มช่วงชั้นรอยต่อระดับ ป.6 และระดับ ม.3 ใน จ.ราชบุรี ที่มีความเสี่ยงในการหลุดออกจากระบบการศึกษาจากผลกระทบทางเศรษฐกิจและจากสถานการณ์โควิด-19 รวมมากกว่า 700 คน ผ่านการมอบทุนการศึกษารวมมูลค่า 1,100,000 บาท

ภายใต้โครงการ Zero Dropout เด็กทุกคนต้องได้เรียน เพื่อช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการศึกษาให้กับเด็กและครอบครัวอีกด้วย ทั้งยังเป็นการป้องกันการหลุดออกจากระบบการศึกษาด้วยมาตรการเชิงป้องกันที่ต้นทาง

ทั้งนี้เตรียมขยายผลสู่การดำเนินการระดับประเทศอย่างเป็นระบบต่อไปในอนาคต