เกาหลีรับคนไทยเรียนช่าง เรียนจบพร้อมจ้างงาน จ่าย 9.6 แสนบาทต่อปี

เกาหลีรับคนไทยเรียนช่าง

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานลงนามสักขีพยาน รุกขยายตลาดส่งช่างไทยไปทำงานอู่ต่อเรือในเกาหลีใต้ รายได้ 9.6 แสนบาทต่อปี

วันที่ 25 สิงหาคม 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เกาหลีใต้อยู่ในภาวะขาดแคลนแรงงาน โดยเฉพาะในปี 2565 กำลังแรงงานลดลงถึง 3.5 แสนคน จึงจำเป็นต้องนำเข้าแรงงานต่างชาติมาทำงานด้วยวีซ่า E-7 (วีซ่าทักษะฝีมือ) และประเทศไทยเป็นประเทศหนึ่งที่เป็นเป้าหมายหลักที่ทางเกาหลีใต้ต้องการแรงงานอายุระหว่าง 24-45 ปี เป็นจำนวนมาก

โดยวันนี้ ณ ห้องประชุมประสงค์ รณะนันทน์ ชั้น 5 อาคารกระทรวง นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เป็นสักขีพยานในพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงระหว่าง Mokpo Science University กับสมาคมวิทยาลัยเทคโนโลยีและอาชีวศึกษาเอกชนแห่งประเทศไทย เพื่อความร่วมมือขยายตลาดแรงงานไทยไปทำงานสาขาช่างในอุตสาหกรรมอู่ต่อเรือของเกาหลีใต้ ณ ห้องประชุมประสงค์ รณะนันทน์ ชั้น 5 อาคารกระทรวงแรงงาน

เรียนอนุปริญญาที่เกาหลี พร้อมฝึกงาน ได้ 6 แสนบาท

นายสุชาติกล่าวว่า ตามที่ได้มอบหมายให้ปลัดกระทรวงแรงงานและคณะได้ประชุมหารือเพื่อขยายตลาดแรงงานไทยระหว่างกับสมาคมอู่ต่อเรือของเกาหลีใต้ (KHOSHIPA) บริษัท Hyundai Heavy Industries บริษัท Hyundai Samho Heavy Industries และมหาวิทยาลัย Mokpo Science University เมื่อวันที่ 27 มิถุนายน 2565 ที่ผ่านมา ณ ห้องประชุมโรงแรมล๊อตเต เมียงดง กรุงโซล สาธารณรัฐเกาหลี ผลของการประชุมหารือกับบริษัท Hyundai Samho Heavy Industries ที่มีความร่วมมือกับมหาวิทยาลัย Mokpo Science University บริษัทต้องการให้การสนับสนุนแรงงานต่างชาติ และมีความต้องการรับนักศึกษาไทยที่จบการศึกษาระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) ให้เดินทางมาเรียนต่อในระดับอนุปริญญา ระหว่างเรียนจะได้รับการอบรมภาษาเป็นเวลา 6 เดือน และสามารถฝึกงานควบคู่ไปกับการเรียนได้

ในวันนี้ผู้บริหารของ Mokpo Science University กับสมาคมวิทยาลัยเทคโนโลยีและอาชีวศึกษาเอกชนแห่งประเทศไทยได้จัดพิธีลงนามบันทึกข้อตกลง โดยมีกระทรวงแรงงานร่วมเป็นสักขีพยานเพื่อความร่วมมือในการจัดส่งแรงงานไทยสาขาช่างไปทำงานในอุตสาหกรรมอู่ต่อเรือของเกาหลีใต้

เรียนจบแล้วจ้างงานทันที

นายสุชาติอธิบายต่อว่า ระหว่างฝึกงาน คนไทยจะได้รายได้ประมาณ 20 ล้านวอน/ปี (ประมาณ 600,000 บาท/ปี คิดจากอัตราแลกเปลี่ยน 1 วอนเท่ากับ 0.030 บาท)

เมื่อเรียนจบแล้วสามารถเข้าทางานกับบริษัทได้ทันที จะได้เปลี่ยนสถานะจาก วีซ่า D-2 เป็นวีซ่า E-7 เป็นแรงงานประเภททักษะฝีมือ และจะมีรายได้ประมาณ 32 ล้านวอน/ปี (ประมาณ 960,000 บาท/ปี)

นายสุชาติกล่าวด้วยว่า ในปีแรกเกาหลีมีความต้องการรับนักศึกษาเข้าสู่ระบบดังกล่าวรวมประมาณ 300 คน และในอนาคตเชื่อว่ามีความต้องการแรงงานในอุตสาหกรรมอู่ต่อเรือในเมือง Mokpo ในสาขาช่างเชื่อม ช่างทาสี และช่างไฟฟ้า ประมาณ 1,500 คน

จ้างแรงงานเพิ่มปีละ 10,000 คน

จากการประชุมหารือกับสมาคม KHOSHIPA ซึ่งเป็นสมาคมอู่ต่อเรือของสาธารณรัฐเกาหลี และบริษัท Hyundai Heavy Industries รัฐบาลเกาหลีใต้ได้เพิ่มจำนวนโควตานำเข้าแรงงานต่างชาติถึงร้อยละ 20 ของพนักงานของบริษัททั้งหมด โดยต้องการแรงงานต่างชาติโซนฝั่งทวีปเอเชีย ประเทศไทยจึงเป็นประเทศหนึ่งและเป้าหมายหลักที่เกาหลีใต้ต้องการแรงงานเป็นจำนวนมาก

ทั้งนี้ ฝ่ายเกาหลีใต้ให้ข้อมูลว่า ในปี 2020 มีคำสั่งซื้อเรือเข้ามาจำนวนมากจึงมีความต้องการจ้างแรงงานเพิ่มปีละประมาณ 10,000 คน ใน 3 สาขาอาชีพ ได้แก่ ช่างเชื่อม 4,000 คน ช่างทาสี 1,400 คน ช่างไฟฟ้า 1,800 คน และสาขาอื่น ๆ 2,800 คน

ประเทศไทยพร้อมให้การสนับสนุนและส่งเสริมให้คนไทยได้ไปทำงานในเกาหลีใต้มากขึ้น เพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายรัฐบาล ซึ่งกระทรวงแรงงานเองมีความพร้อมดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องตามภารกิจ ทั้งในการจัดส่งแรงงานไทย และการพัฒนาฝึกอบรมฝีมือก่อนการเดินทางเพื่อให้มีทักษะฝีมือ และจะได้เตรียมความพร้อมในการจัดส่งแรงงานไทยวีซ่าทักษะฝีมือ (E-7) ไปทำงานในอุตสาหกรรมต่อเรือตามความต้องการของเกาหลีใต้โดยเร็ว

ซึ่งเมื่อวันที่ 19 สิงหาคมที่ผ่านมาได้ดำเนินการจัดทดสอบฝีมือ สาขาช่างเชื่อม มีผู้เข้าทดสอบประมาณ 500 คน ซึ่งมีผู้แทนสมาคมเข้าร่วมสังเกตการณ์ด้วย