ไทยเร่งยกระดับสมรรถนะแรงงานไทยให้ตรงกับความต้องการของผู้ประกอบการ รองรับความต้องการด้านแรงงานประเทศซาอุดีอาระเบีย ที่ต้องการแรงงานจากต่างชาติกว่า 8 ล้านคน
วันที่ 23 พฤศจิกายน 2565 นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าวว่า เมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน 2565 ที่ผ่านมา เจ้าชายมุฮัมมัด บิน ซัลมาน บิน อับดุลอะซีซ อาล ซะอูด มกุฎราชกุมาร และนายกรัฐมนตรีแห่งราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย ได้เดินทางเยือนประเทศไทยในโอกาสการประชุมความร่วมมือทางเศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟิก 2565 (APEC 2022) และได้หยิบยกประเด็นด้านแรงงานมาหารือ
- เปิด 10 อันดับมหาวิทยาลัยรัฐ-ราชภัฏ-เอกชน ที่ได้รับความนิยมมากสุด
- ลูกแม่ค้าขายผัก-พ่อขับแท็กซี่ สู่เก้าอี้ “ปลัดพลังงาน” บทพิสูจน์ชีวิต “ดร.ประเสริฐ สินสุขประเสริฐ”
- เงื่อนไขปุ๋ยลดราคาเฟส 2 สูตรไหน-พืชชนิดใดบ้าง
ซึ่งจากการหารือระหว่างไทยและซาอุฯ ทั้งสองฝ่ายยินดีที่ได้จัดทำความตกลงและบันทึกความเข้าใจที่สำคัญต่อการส่งเสริมความร่วมมือทางเศรษฐกิจ โดยเฉพาะด้านแรงงานให้เป็นผลสำเร็จ และความร่วมมือด้านอื่น ๆ อีกด้วย
ดังนั้น จึงมีโครงการยกระดับสมรรถนะแรงงานในอุตสาหกรรมปิโตรเลียมเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจและฟื้นฟูความสัมพันธ์กับประเทศชาอุดีอาระเบีย และวันนี้ (23 พฤศจิกายน) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานลงพื้นที่เยี่ยมและพบปะให้กำลังใจผู้เข้ารับการฝึกอบรมโครงการยกระดับสมรรถนะแรงงานในอุตสาหกรรมปิโตรเลียมเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจและฟื้นฟูความสัมพันธ์กับประเทศซาอุดีอาระเบีย
โดยมีนายประทีป ทรงลำยอง อธิบดีกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน นายนิพัฒน์สิน ยิ้มแย้ม กรรมการผู้จัดการบริษัท เอ็มพีซี ฟิวเจอร์ จำกัด พร้อมด้วยผู้บริหารระดับสูงกระทรวงแรงงาน หัวหน้าส่วนราชการหน่วยงานในสังกัดกระทรวงแรงงานจังหวัดสงขลา และผู้เข้ารับการฝึกอบรม ร่วมให้การต้อนรับ ณ บริษัท เอ็มพีซี ฟิวเจอร์ จำกัด จังหวัดสงขลา
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานกล่าวด้วยว่า รัฐบาลภายใต้การนำของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้ให้ความสำคัญและมีนโยบายผลักดันความร่วมมือแรงงานระหว่างประเทศมาอย่างต่อเนื่อง
ย้อนไปเมื่อวันที่ 25-26 มกราคม 2565 ได้เดินทางไปเยือนประเทศซาอุดีอาระเบีย เพื่อฟื้นความสัมพันธ์ เจรจาหารือ เปิดโอกาสให้แรงงานไทยเดินทางไปทำงานในประเทศซาอุดีอาระเบีย โดยได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี ซึ่งประเทศซาอุดีอาระเบียมีความต้องการแรงงานจากต่างชาติจำนวนกว่า 8 ล้านคน
จึงได้สั่งการให้กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน ดำเนินการยกระดับสมรรถนะแรงงานไทยให้มีมาตรฐานฝีมือแรงงานสอดคล้องกับสาขาอาชีพที่นายจ้างในประเทศซาอุดีอาระเบียต้องการ โครงการยกระดับสมรรถนะแรงงานในอุตสาหกรรมปิโตรเลียมฯ เป็นผลสำเร็จของการฟื้นความสัมพันธ์ไทยและซาอุดีอาระเบีย ซึ่งเริ่มเห็นความสำเร็จเป็นรูปธรรมอย่างต่อเนื่อง
ความร่วมมือทางด้านแรงงานเป็นอีกมิติที่เห็นความคืบหน้าอย่างชัดเจน ซึ่งเป็นผลมาจากการสานต่อและผลักดันของรัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง การดำเนินโครงการนี้จะเพิ่มโอกาสการทำงานให้แรงงานไทยรวมถึงช่วยยกระดับสมรรถนะแรงงานไทยให้ตรงกับความต้องการของผู้ประกอบการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ ขับเคลื่อนการจัดส่งแรงงานฝีมือและแรงงานกึ่งฝีมือเข้าสู่ระบบการจ้างงานทั้งในประเทศและต่างประเทศ รวมถึงต่อยอดไปยังความร่วมมือด้านอื่น ๆ จึงขอให้ทุกท่านตั้งใจฝึกอบรมให้เกิดทักษะจริง ๆ มีความรู้ความสามารถไปทำงานในด้านปิโตรเลียม ทั้งในประเทศและต่างประเทศได้
ด้านนายประทีป ทรงลำยอง อธิบดีกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน กล่าวว่า โครงการยกระดับสมรรถนะแรงงานในอุตสาหกรรมปิโตรเลียมเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจและฟื้นฟูความสัมพันธ์กับประเทศชาอุดีอาระเบียในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาศักยภาพและเตรียมความพร้อมแรงงานไทยก่อนไปทำงานต่างประเทศ โดยมุ่งเน้นการพัฒนาศักยภาพด้านทักษะฝีมือแรงงานและภาษาต่างประเทศ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการประกอบอาชีพในตำแหน่งงานที่ตลาดแรงงานต่างประเทศมีความต้องการ
เป็นกลยุทธ์ในการบริหารเพื่อขยายตลาดแรงงานใหม่ในสาขาอาชีพต่าง ๆ ที่แรงงานไทยมีความสามารถและเป็นที่ต้องการของตลาดแรงงานต่างประเทศ โดยเริ่มดำเนินการฝึกเมื่อวันที่ 25 กันยายน 2565 ที่ผ่านมา ระยะเวลาการฝึกอบรม 144 ชั่วโมง เนื้อหาการฝึกประกอบด้วย ความรู้พื้นฐานของการผลิตน้ำมันและก๊าซธรรมชาติ ความปลอดภัยในการทำงานในแท่นขุดเจาะ ความรู้และเทคนิคในการทำงาน ความรู้พื้นฐานการดำรงชีวิตในต่างประเทศ ปัจจุบันได้ฝึกจบไปแล้ว 1 รุ่น ปัจจุบันอยู่ระหว่างการฝึกรุ่นที่ 2 และรุ่นที่ 3 และสำหรับรุ่นที่ 4 และรุ่นที่ 5 ต่อไป