รมว. แรงงาน แถลงผลงานไตรมาส 4 ปี’63 สร้างเงินหมุนเวียน 2.5 หมื่นล้าน

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เผยผลงานกระทรวงแรงงานเดือนตุลาคม-ธันวาคม 2563 ก่อเกิดรายได้หมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ จำนวน 25,003,539,870 บาท จากโครงการไทยมีงานทำ JOB EXPO THAILAND 3,441,450,000 บาท โครงการส่งเสริมการจ้างงานใหม่สำหรับผู้จบการศึกษาใหม่ฯ 258,309,870 บาท จ้างงานต่างประเทศ 8,968,200,000 บาท และการจ้างงานโดยภาครัฐและรัฐวิสาหกิจ 12,335,580,000 บาท

นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าวว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในปีที่ผ่านมา ทำให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจทั่วโลก รวมทั้งประเทศไทยหยุดชะงักชั่วคราว การฟื้นตัวต้องค่อยเป็นค่อยไป รัฐบาลภายใต้การนำของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มุ่งใช้มาตรการบรรเทาผลกระทบทางเศรษฐกิจโดยช่วยเหลือภาคธุรกิจ

โดยเฉพาะธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม มาตรการดูแลภาคครัวเรือน ด้วยการจ้างงาน เพื่อให้คนไทยมีรายได้ มีความเชื่อมั่น มีกำลังในการใช้จ่ายจนเกิดการหมุนเวียนรายได้ในระดับชุมชนถึงระดับประเทศอย่างเป็นลูกโซ่ ซึ่งกระทรวงแรงงาน ใช้มาตรการที่ตรงจุด ทันการณ์ รวมทั้งบูรณาการการทำงานร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อป้องกันและแก้ปัญหาการว่างงานมาโดยตลอด

สุชาติ ชมกลิ่น

นายสุชาติให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า สำหรับโครงการไทยมีงานทำ JOB EXPO THAILAND บรรจุงานแล้ว 91,772 คน สร้างรายได้รวม 3,441,450,000 บาท โครงการส่งเสริมการจ้างงานใหม่สำหรับผู้จบการศึกษาใหม่โดยภาครัฐและเอกชน (Co-Payment)​ บรรจุงานแล้ว 6,335 คน สร้างรายได้รวม 258,309,870 บาท โดยรัฐบาลให้การอุดหนุนเงินค่าจ้างครึ่งหนึ่ง จำนวน 129,154,935 บาท

จ้างงานต่างประเทศ บรรจุงานแล้ว 44,841 คน สร้างรายได้รวม 8,968,200,000 บาท และการจ้างงานโดยภาครัฐและรัฐวิสาหกิจ บรรจุงานแล้ว 411,186 คน สร้างรายได้รวม 12,335,580,000 บาท รวมก่อเกิดรายได้หมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ จำนวน 25,003,539,870 บาท (เดือนตุลาคม-เดือนธันวาคม 2563)

ด้าน นายสุชาติ พรชัยวิเศษกุล อธิบดีกรมการจัดหางาน เปิดเผยว่า โครงการส่งเสริมการจ้างงานใหม่สำหรับผู้จบการศึกษาใหม่ โดยภาครัฐและเอกชน (Co-payment) ได้มีการปรับคุณสมบัติผู้เข้าร่วมโครงการใหม่เพื่อให้นักศึกษาจบใหม่ และนายจ้าง/สถานประกอบการ ได้รับประโยชน์สูงสุดและเสมอภาคกัน และเกิดการบรรจุงานโดยเร็วที่สุด ดังนี้

1.คุณสมบัติผู้จบการศึกษาใหม่ มีสัญชาติไทย และอายุไม่เกิน 25 ปี หากอายุเกิน 25 ปี ต้องจบการศึกษา ปี พ.ศ. 2562 เป็นต้นไป โดยผู้จบการศึกษาใหม่ที่เคยทำงานและอยู่ในระบบประกันสังคม หากเป็นไปตามเงื่อนไขดังกล่าว สามารถร่วมโครงการฯได้

2.เงื่อนไขสำหรับนายจ้างในการจ่ายค่าจ้าง ให้เป็นไปตามข้อตกลงการจ้างงานระหว่างนายจ้างกับลูกจ้าง แต่ต้องไม่ต่ำกว่าอัตราค่าจ้างขั้นต่ำของจังหวัด ตามประกาศคณะกรรมการค่าจ้าง โดยรัฐบาลให้การอุดหนุนเงินเดือนค่าจ้างไม่เกินร้อยละ 50 ต่อคนต่อเดือน ตามค่าจ้างจริง

ทั้งนี้ รัฐจะจ่ายเงินอุดหนุนเป็นไปตามวุฒิการศึกษา ได้แก่ ปริญญาตรี ไม่เกิน 7,500 บาท ประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (ปวส.) ไม่เกิน 5,750 บาท ประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) ไม่เกิน 4,700 บาท และมัธยมศึกษาตอนปลาย (ม.6) ไม่เกิน 4,345 บาท

3. ปรับเงื่อนไขการจ่ายเงินอุดหนุนให้แก่ลูกจ้าง

โดยการจ่ายเงินอุดหนุนจากรัฐ 3 ครั้งต่อเดือน เพื่อให้สอดคล้องกับรอบการจ่ายเงินค่าจ้างของนายจ้าง/สถานประกอบการ ดังนี้

1) นายจ้างจ่ายค่าจ้างภายในสิ้นเดือน รัฐจ่ายเงินอุดหนุนภายในวันที่ 5 ของเดือนถัดไป
2) นายจ้างจ่ายค่าจ้างหลังสิ้นเดือน (ภายในวันที่ 1-5 ของเดือนถัดไป) รัฐจ่ายเงินอุดหนุนภายในวันที่ 10 ของเดือนถัดไป
3) นายจ้างจ่ายค่าจ้างตามกำหนด ตามข้อ 1) และข้อ 2) แต่การจัดทำเอกสาร หรือข้อมูลในระบบไม่สมบูรณ์ รัฐจ่ายเงินอุดหนุนภายในวันที่ 15 ของเดือนถัดไป

กรณี หลังจากวันที่ 15 หากพบว่า รัฐจ่ายเงินอุดหนุนไม่ครบถ้วนให้สามารถจ่ายเพิ่มเติมได้จนกว่าจะครบตามจำนวนลูกจ้างผู้มีสิทธิ ทั้งนี้ การปรับปรุงการจ่ายเงินอุดหนุนให้มีผลย้อนหลังตั้งแต่วันที่เริ่มโครงการ

4.ปรับระยะเวลาการดำเนินโครงการ ให้ขยายระยะเวลาร่วมโครงการฯ ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2563 สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2564 โดยรัฐบาลอุดหนุนค่าจ้างแก่ลูกจ้างเป็นระยะเวลา ไม่เกิน12 เดือน ต่อ 1 คน ตลอดระยะเวลาการจ้าง 1 ปี (ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2563 – 30 พฤศจิกายน 2564) กรณีจ้างหลังวันที่ 1 มกราคม 2564 จะได้รับการอุดหนุนตามระยะเวลาที่จ้างแต่ไม่เกินวันที่ 30 พฤศจิกายน 2564

สำหรับผู้จบการศึกษาใหม่และนายจ้างที่ร่วมโครงการแล้ว และมีสัญญาจ้างถึงวันที่ 30 กันยายน 2564 หากการอุดหนุนค่าจ้างตามโครงการยังไม่ครบ 12 เดือน สามารถแจ้งความต้องการขยายระยะเวลาการจ้างงานได้ถึงวันสิ้นสุดโครงการ สูงสุดไม่เกินรายละ 12 เดือน

ทั้งนี้ ผู้ที่สนใจเข้าร่วมโครงการฯ สามารถลงทะเบียนได้ที่เว็บไซต์ www.จ้างงานเด็กจบใหม่.com และหากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมหรือต้องการตรวจสอบความคืบหน้าการอนุมัติเข้าร่วมโครงการฯ ติดต่อได้ที่สำนักงานจัดหางานกรุงเทพมหานครพื้นที่ 1-10 สำนักงานจัดหางานจังหวัด ที่ระบุเป็นสถานที่ทำงาน หรือผู้ที่เข้าร่วมโครงการแล้วต้องการความช่วยเหลือเรื่องการรับ-จ่ายเงินค่าจ้าง

สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ สายด่วนกระทรวงแรงงาน โทร.1506 กด 2 กรมการจัดหางาน