Health คือ Wealth เพชรลดา พูลวรลักษณ์ CEO รักสุขภาพ-สัตว์เลี้ยง

เพชรลดา พูลวรลักษณ์
เพชรลดา พูลวรลักษณ์
ผู้เขียน : ชัชพงศ์ ชาวบ้านไร่

ด้วยความที่เป็นลูกสาวคนโตและพี่สาวคนโตของบ้าน “คุณโอ๋-เพชรลดา พูลวรลักษณ์” ทายาทรุ่นที่ 2 ของตระกูล “พูลวรลักษณ์” หนึ่งในตระกูลเก่าแก่ของวงการธุรกิจเมืองไทย ทำให้เธอต้องมุ่งมั่นและรับผิดชอบ ทั้งสานต่อธุรกิจของครอบครัวอย่างไม่ลดละ และต่อยอดสร้าง “มูลค่าเพิ่ม” จากแลนด์ลอร์ดที่มีอยู่

“เพชรลดา” มีดีกรีปริญญาตรี ศิลปศาสตรบัณฑิต สาขาการตลาด จากมหาวิทยาลัยอิลลินอยส์สเตต สหรัฐอเมริกา และปริญญาโทด้านบริหารธุรกิจ สาขาการตลาด จากมหาวิทยาลัยเดียวกัน เพราะเธอชอบเรื่องมาร์เก็ตติ้ง และได้นำวิชามาประยุกต์สร้างยุทธศาสตร์ให้กับ “เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์” บริษัทมหาชนได้สำเร็จ ในฐานะประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ที่คร่ำหวอดกับการเป็น Top of Class ของวงการอสังหาริมทรัพย์

ภาพ : สมจิตร์ ใจชื่น

คุณหนูหญิงเหล็ก กว่าจะถึงวันนี้ไม่ใช่ง่าย

แต่ความสำเร็จในวันนี้ก็ไม่ใช่เรื่องง่าย ย้อนกลับไปสมัยเรียนเธอเป็นเด็กค่อนข้างเกเร ไม่สนใจการเรียนเท่าใดนัก ชอบใช้ชีวิต ทำกิจกรรมที่เอ็กซ์ตรีมสุด ๆ โดยเพาะการแข่งรถ เรียกว่าเป็นเด็กที่โตนอกบ้านมากกว่าโตในบ้าน

เมื่อถึงวัยหัวเลี้ยวหัวต่อแล้วเอนทรานซ์ไม่ติด เธอต้องถูกคุณพ่อ “จำเริญ พูลวรลักษณ์” จับส่งไปเรียนที่ต่างประเทศ ครั้งแรกไปอยู่อังกฤษราว 2 ปี มีเพื่อนคนไทยเยอะ สุดท้ายถูกย้ายให้ไปอยู่ที่อิลลินอยส์ อเมริกา นานถึง 5 ปีเต็ม ช่วงนั้นเธอเริ่มเป็นผู้ใหญ่ขึ้น และนึกถึงคุณแม่ “ประทิน พูลวรลักษณ์” บุคคลที่สำคัญที่สุดในชีวิต จึงทำให้เธอมุ่งเรียนจนจบ

ทั้งยังฉายแววความเป็นนักธุรกิจตั้งแต่อยู่ที่สหรัฐ ทำธุรกิจซื้อขายรถยนต์ด้วยตนเอง ซึ่งไม่เกี่ยวกับบริษัทของคุณพ่อ การเป็นลูกสาวคนโตในครอบครัวคนจีนนั้นไม่ง่าย เธอจึงต้องพิสูจน์และรับแรงกดดันมาตลอด แม้จะท้อบ้างแต่ก็เป็นคนสู้และมีความมุ่งมั่นเป็นทุน ทำให้เธอสอบผ่าน

“ช่วงที่ลำบากสุดในชีวิตคือ 5 ปีแรกที่เริ่มทำงานกับคุณพ่อ แต่ก็ได้ประสบการณ์ที่มีค่ามาก ซึ่งหาไม่ได้จากที่ไหนอีกแล้ว ท่านเป็นคนมีระเบียบมาก บางอย่างท่านอาจไม่ตั้งใจจะสอน แต่เราก็ซึมซับและถูกหล่อหลอมให้เป็นตัวเราในทุกวันนี้ เราเลยเป็นคนมีระเบียบ ทำอะไรจริงจัง” เพชรลดา กล่าวกับ “ประชาชาติธุรกิจ”

ความไม่ง่ายอีกอย่างคือ เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ เกิดขึ้นในช่วงวิกฤตต้มยำกุ้ง การไปขอกู้แบงก์ตอนนั้นก็ไม่มีใครให้กู้เลย ถือว่าลำบากมาก เป็นประสบการณ์ที่เราเจอมาแล้ว

แต่ข้อดีที่เราเกิดในช่วงวิกฤต คือ ทำให้ “เมเจอร์ฯ” เข้าใจลึกซึ้ง จนกลายเป็น DNA ด้านการบริหารความเสี่ยงที่ทุกคนต้องมี warrior mindset

ภาพ : สมจิตร์ ใจชื่น

สุขภาพกับภารกิจหลายหมื่นล้าน

เธอยอมรับว่า ไม่ใช่แค่จริงจังกับงานอย่างเดียว แต่รวมถึงทุกเรื่องด้วย โดยเฉพาะ “สุขภาพ” ที่ดูแลจากภายในสู่ภายนอก ซึ่งปกติเป็นคนดูแลตัวเองอยู่แล้ว ประกอบกับช่วงแรกโควิด-19 ระบาด ยังไม่มีอะไรรักษาได้ เธอจึงตั้งเป้ากับตัวเองว่า จะต้องเป็น last man standing จึงเริ่มหาข้อมูลในการดูแลตัวเองอย่างลึกซึ้ง และมาจบที่การทำ intermittent fasting หรือ IF

ทุกวันนี้เธอจึงเป็น IF ไลฟ์สไตล์ รับประทานวันละมื้อ แล้วทำมานานประมาณ 3 ปีแล้ว ปรากฏว่า ส่งผลดีต่อสุขภาพมาก จากที่เคยปวดหัวไมเกรนก็หายปลิดทิ้ง เธอจึงอยากส่งต่อสิ่งดี ๆ ให้กับคนรอบข้าง ทั้งครอบครัว กลุ่มเพื่อน และพนักงานในบริษัทอีกนับร้อย

เพราะเธอเชื่อว่า การทำธุรกิจก็เหมือนการสร้าง passion อย่างที่กล่าวไว้แต่ตอนแรก เธอจบการตลาดมา พอรู้ว่าต้องสานต่อธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ตัวเธอเองก็ต้องสร้าง passion มาจากข้างใน ด้วยการโฟกัสกับสิ่งที่ต้องทำ และบอกตัวเองว่า “สิ่งที่จะทำนั้นดีกับตนเอง” เมื่อเราจดจ่อ สิ่งที่ตั้งใจก็สำเร็จ โดยเธอศึกษาทุกอย่างที่เกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์อย่างจริงจัง

“ทุกวันนี้เหมือนได้ปริญญาอีกใบจนนำมาสู่การตั้งบริษัทเฮลท์สเคป ซึ่งเป็นภูมิทัศน์ของสุขภาพและสอดคล้องกับเมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ ที่ขนานนามตัวเองว่า เป็นไลฟ์สเคป ดีเวล็อปเปอร์”

นั่นคือภูมิทัศน์ของการใช้ชีวิตมีนิยามที่กว้างมาก จึงเป็นเหมือนการเปิดโอกาสให้เมเจอร์เข้าไปทำธุรกิจได้หลากหลายที่เกี่ยวกับชีวิตคน เพราะโลกยุคใหม่คนรักสุขภาพมากขึ้น การมี health เท่ากับมี wealth นั่นเอง เท่ากับตัวเราและธุรกิจได้ยกระดับไปอีกขั้น นอกจากพัฒนาที่ดินแล้ว เราต้องเพิ่มการดูแลสุขภาพให้ดีขึ้น

นอกจากนี้ เมเจอร์ยังมีเทคสเคป และเพ็ตสเคปด้วย ซึ่งเกิดจากความรักและผูกพันกับสัตว์เลี้ยง เหมือนการคลั่งไคล้เรื่องออกกำลังกายที่เพชรลดากำลังหลอมรวม “สิ่งที่ชอบ” ให้เป็นธุรกิจตามเทรนด์

“ปกติจะเข้ายิมบ่อย ชอบต่อยมวย แต่วันนี้อายุ 57 ปีแล้ว จำเป็นต้องลดเวลาและความถี่ในการออกกำลังกายลง ไม่เช่นนั้นอาจส่งผลเสียมากกว่าผลดี และเปลี่ยนเป็นการควบคุมการกินอาหารแทน รู้สึกตัวเองผอมลงแต่แข็งแรงขึ้น”

ปัจจุบันทุกโครงการของเมเจอร์ฯสามารถเลี้ยงสัตว์ได้ เริ่มทำตั้งแต่โครงการแรกเมื่อ 20 ปีก่อนที่ Hampton ทองหล่อซอย 10 เพราะการเลี้ยงสัตว์คือไลฟ์สไตล์ของคน และสัตว์เลี้ยงกับคนไม่สามารถแยกออกจากกันได้ คนเลี้ยงสัตว์จะรักสัตว์เหมือนเป็นส่วนหนึ่งในครอบครัว เมเจอร์ฯไม่ใช่แค่อนุญาตให้เลี้ยงสัตว์เท่านั้น แต่เราเข้าใจถึงจิตใจของคนรักสัตว์ด้วย

“ส่วนตัวก็เลี้ยงไว้ 2 ตัว ตัวหนึ่งเป็นน้องหมาชื่อมันนี่ อีกตัวเป็นนกกระตั้วชื่อแฮปปี้ เรารักและผูกพันกันมาก พวกเขาฉลาด มาวันนี้ตัวเราเข้าใจแล้วว่า ทำไมฟิวเจอร์เทรนด์ของโลกถึงมาทางนี้”