สำเพ็งคึกคัก คนแห่ซื้อของตกแต่งเทศกาลคริสต์มาส-ปีใหม่

บรรยากาศสำเพ็งคึกคัก คนซื้อสินค้าตกแต่งต้นคริสต์มาสและฉลองวันขึ้นปีใหม่เป็นจำนวนมาก ขณะที่แม่ค้าบ่นของแพงขึ้น ต้องสต๊อกสินค้าน้อยลง

วันที่ 6 ธันวาคม 2565 ผู้สื่อข่าว “ประชาชาติธุรกิจ” ลงพื้นที่สำรวจบรรยากาศการจับจ่ายสินค้าที่ตลาดสำเพ็ง พบว่า มีประชาชนเดินทางมาจับจ่ายใช้สอยเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะสินค้าตกแต่งเพื่อเฉลิมฉลองเทศกาลคริสต์มาสและวันขึ้นปีใหม่ที่กำลังจะมาถึงในอีกไม่กี่วันข้างหน้า

โดยร้านค้าได้ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวว่า ปีนี้มีลูกค้ามาซื้อสินค้าตกแต่งในช่วงเทศกาลคริสต์มาสและวันขึ้นปีใหม่มากขึ้นกว่าปีที่ผ่านมา แต่ยังไม่มากเท่ากับช่วงก่อนเกิดสถานการณ์โควิด-19 ซึ่งหากจะให้เท่าช่วงนั้นมองว่ายังต้องใช้เวลา ในช่วงนี้ก็มีลูกค้ามาซื้อสินค้าอยู่เรื่อย ๆ ยิ่งใกล้ถึงวันคริสต์มาสจะยิ่งมากขึ้นจนแน่นร้าน

ขณะที่ต้นทุนสินค้าในปีนี้ราคาสูงขึ้น แต่ทางร้านไม่ได้ปรับราคาขายหน้าร้านตามไปด้วย ทำให้ได้กำไรน้อยลง แต่ก็ยังคงประคับประคองตัวไปได้ นอกจากนี้ ทางร้านต้องสต๊อกสินค้าตกแต่งเทศกาลคริสต์มาสและปีใหม่น้อยลง เพราะกลัวว่าจะขายไม่ได้ อีกทั้งสินค้าเหล่านี้เป็นสินค้าที่ซื้อขายเฉพาะช่วงเทศกาลเท่านั้น หากขายไม่หมดจะทำให้ขาดทุน

ความหมายของตกแต่งเทศกาลคริสต์มาส

สำหรับของตกแต่งบรรยากาศในช่วงเทศกาลคริสต์มาส ไม่เพียงเพื่อความสวยงามและเป็นธรรมเนียมปฏิบัติที่ทำสืบต่อกันมาเท่านั้น แต่สิ่งของต่าง ๆ ล้วนมีความหมายที่ดี ซึ่งความหมายของของตกแต่งเทศกาลคริสต์มาส มีดังนี้

  • ต้นคริสต์มาส

ต้นคริสต์มาส คือ ต้นไม้ตระกูลต้นสนซึ่งเป็นพืชไม่ผลัดใบ (evergreen plant) และมีสีเขียวตลอดทั้งปี ในสมัยโบราณต้นคริสต์มาส หมายถึง ต้นไม้ในสวนสวรรค์ ซึ่งอาดัมและเอวาไปหยิบผลไม้มากิน และทำบาป ไม่เชื่อฟังพระเจ้า โดยตามพระคัมภีร์นั้นได้เปรียบพระเยซูเจ้าเสมือนเป็นต้นไม้แห่งชีวิต ดังนั้น ต้นไม้ที่มีสีเขียวเสมอในทุกฤดูกาล จึงสื่อถึงนิรันดรภาพของพระเยซูเจ้า อีกทั้งความสว่างของพระองค์ยังเหมือนแสงเทียนที่ส่องสว่างในความมืด รวมถึงความชื่นชมยินดี และความสามัคคีที่พระเยซูประทานให้ เพราะต้นไม้นั้นเป็นจุดศูนย์รวมของครอบครัวในเทศกาลคริสต์มาส

สำหรับประเพณีการประดับตกแต่งต้นคริสมาสต์ มีจุดกำเนิดในแถบประเทศยุโรปทางตอนเหนือ ซึ่งต้นไม้ที่ใช้เป็นต้นสนเพราะว่าหาง่ายในทุกพื้นที่ในแถบนั้น โดยในช่วงศตวรรษที่ 16 มาร์ติน ลูเธอร์ ผู้นำคริสตจักรชาวเยอรมัน ได้ริเริ่มประเพณีตัดต้นสนมาประดับภายในบ้าน เพื่อเป็นสัญลักษณ์แห่งความโชคดี นอกจากนี้ ชาวเยอรมันยังมีประเพณีอีกอย่างหนึ่ง คือ การจุดเทียนหลายเล่มเป็นรูปพีระมิด (pyramid) ไว้ตลอดคืนคริสต์มาส โดยมีดาวของดาวิดที่ยอดพีระมิด

ดังนั้น ประเพณีที่จะแขวนของขวัญและขนม ก็ได้รวมกับประเพณีของชาวเยอรมันมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 16 ซึ่งเป็นที่มาของประเพณีปัจจุบันที่มีการเอาเทียนมาไว้ที่ต้นไม้เป็นรูปทรงพีระมิด มีการแขวนของขวัญ และไฟกะพริบประดับไว้ที่ต้นคริสต์มาส และมีดาวของดาวิดไว้ที่ยอดต้นคริสต์มาส ประเพณีนี้จึงเป็นที่นิยมชมชอบของชาวตะวันตกอยู่มาก หลังจากนั้นในศตวรรษที่ 19 ต้นคริสต์มาสถูกเปลี่ยนโฉมให้สวยงามมากยิ่งขึ้น และเริ่มแพร่หลายไปสู่ประเทศอังกฤษและทั่วโลกจนถึงปัจจุบัน

คริสต์มาส

  • พวงมาลัยคริสต์มาส

การแขวนพวงมาลัยไว้ที่หน้าประตูบ้าน เป็นประเพณีที่นิยมกระทำกันในช่วงเทศกาลที่มีความสำคัญ รวมถึงช่วงเทศกาลคริสต์มาสด้วย พวงมาลัยคริสต์มาสนั้นถูกร้อยด้วยโบสีแดงซึ่งแสดงให้เห็นถึงความรื่นเริง ในขณะที่ใบไม้สีเขียวเป็นสัญลักษณ์ของชีวิตที่เป็นนิรันดร์ ซึ่งจะแสดงถึงความมีศรัทธาต่อวันประสูติของพระเยซู รูปร่างวงกลมของพวงมาลัยเป็นสิ่งเตือนใจให้ระลึกถึงมงกุฏหนามที่อยู่บนศีรษะของพระเยซูซึ่งในช่วงเวลานั้นทหารชาวโรมันได้หัวเราะเยาะและล้อเลียนพระเยซูว่าเป็นเสมือนกษัตริย์ของชาวยิว

นอกจากนี้ ในช่วงยุคกลางซึ่งเป็นช่วงยุคมืดของชาวยุโรป ชาวบ้านได้มีประเพณีและความเชื่อว่าพวงมาลัยคริสต์มาสในส่วนที่เป็นสีเขียว สามารถช่วยป้องกันบ้านเรือนจากพวกพลังอันชั่วร้ายได้ และผลสีแดงของต้นฮอลลี่ได้ถูกเชื่อกันว่าเป็นสิ่งที่คอยขับไล่พวกแม่มดให้ออกไปจากบ้าน

คริสต์มาส

  • ระฆังหรือกระดิ่งวันคริสต์มาส

เสียงระฆังในวันคริสต์มาส คือ การเฉลิมฉลองให้กับการกำเนิดของพระเยซู ตามตำนานได้เล่าว่ามีเสียงระฆังดังอยู่นานนับชั่วโมงก่อนเวลาเที่ยงคืนของวันคริสต์มาสอีฟ ซึ่งตรงกับวันที่ 24 ธันวาคม ทั้งนี้ การตีระฆังดังกล่าวมีจุดประสงค์เพื่อลดพลังความมืดก่อนที่ผู้ที่จะมาช่วยไถ่บาปให้กับมวลมนุษย์จะถือกำเนิดขึ้น ในปัจจุบันชาวคริสต์ได้มีการเฉลิมฉลองโดยการตีระฆังเหล่านี้เพื่อป่าวประกาศถึงงานรื่นเริงที่จะมีขึ้น และถูกนำไปใช้ประดับตกแต่งในการ์ดวันคริสต์มาสและบนต้นคริสต์มาสอีกด้วย

คริสต์มาส

  • ดาวคริสต์มาส

ตามตำนานที่เล่าว่า ในช่วงเวลาที่พระเยซูประสูตินั้น โหราจารย์ได้มองเห็นดาวลักษณะพิเศษดวงหนึ่งที่มีความสว่างกว่าดาวทั่วไปปรากฏขึ้นบนท้องฟ้าเป็นที่น่าอัศจรรย์ จึงออกเดินทางตามแสงแห่งดวงดาว จนไปพบกับสถานที่ประสูติของพระเยซูเจ้าที่เมืองเบธเลเฮม ประเทศปาเลสไตน์ นับแต่นั้นมาชาวคริสต์จึงถือว่า “ดาว” คือสัญลักษณ์ของการเสด็จลงมาประสูติบนโลกมนุษย์ของพระเยซูเจ้า หรือที่ทั่วโลกรู้จักกันในนาม “Star of Bethlehem”

คริสต์มาส

  • ถุงเท้า

ถุงเท้าเป็นอีกหนึ่งไฮไลต์สำคัญในช่วงคริสต์มาส โดยการแขวนถุงเท้าเหนือเตาผิง หรือที่ต้นคริสต์มาส เพื่อรอรับของขวัญจากซานตาคลอส ซึ่งธรรมเนียมดังกล่าวที่มาจากมีนักบุญท่านหนึ่งต้องการช่วยเหลือครอบครัวยากจน จึงนำของขวัญหย่อนลงในปล่องไฟ แต่ของขวัญกลับหล่นไปในถุงเท้าแทน หลังจากนั้นทุกคนจึงนำถุงเท้ามาแขวน เพื่อรอรับของขวัญ และเป็นสัญลักษณ์ให้ความโชคดีเข้ามาหาตัว

คริสต์มาส

นอกจากนี้ ในวันคริสต์มาสยังมีประเพณีการแลกเปลี่ยนของขวัญอีกด้วย โดยมีความเชื่อว่า การให้ของขวัญมีความเกี่ยวเนื่องกับการเฉลิมฉลองให้กับการประสูติของพระเยซู