“คลาร์ก” แชมป์ยูเอส โอเพ่น

วินแดม คลาร์ก
วินแดม คลาร์ก
คอลัมน์ : ขึ้นแท่นปักที
ผู้เขียน :พิศณุ นิลกลัด 
FB:@Pitsanuofficial

วินแดม คลาร์ก คว้าแชมป์ยูเอส โอเพ่น ที่ลอสแองเจลิส คันทรี คลับ เมื่อ 18 มิถุนายน โดยชนะ รอรี่ แม็คอิลรอย 1 แต้ม

ก่อนแข่งยูเอส โอเพ่น 2023 คลาร์กไม่ใช่นักกอล์ฟที่มีชื่อโด่งดัง

แต่ก็ไม่ใช่ผู้เล่นประเภทมาจากไหนไม่มีใครรู้ จู่ ๆ ก็คว้าแชมป์เมเจอร์

คลาร์กมีผลงานพอสมควรในการแข่งขันระดับมัธยมและมหาวิทยาลัยที่โอกลาโอมาสเตต และโอเรกอน

หนุ่มอเมริกันวัย 29 ปี ได้แชมป์พีจีเอ ทัวร์ รายการแรกของเขา ที่เวลส์ ฟาร์โก แชมเปี้ยนชิพ เมื่อเดือนที่แล้ว

นี่เป็นครั้งแรกในรอบ 75 ปี ที่ยูเอส โอเพ่น กลับไปแข่งที่ลอสแองเจลิส ซึ่ง “สายมู” เชื่อว่าอาจเกี่ยวพันกับการคว้าแชมป์ของคลาร์ก

ลิส แม่ของคลาร์ก เป็นคนแนะนำให้เขารู้จักกอล์ฟ เมื่อเขามีอายุ 3 ขวบ ก่อนที่เธอจะเสียชีวิตด้วยมะเร็งเต้านม เมื่อคลาร์กมีอายุ 19 ปี

ลิสเคยอาศัยอยู่ในลอสแองเจลิส และเธอกับแรนดอล พ่อของวินแดม แต่งงานกันที่นั่น

คลาร์กมองขึ้นฟ้าเมื่อคว้าแชมป์ยูเอส โอเพ่น เพื่อระลึกถึงแม่ ซึ่งยึดหลัก “เล่นใหญ่” และเคยเรียกเขาว่า “ผู้ชนะ” (Winner) ตอนที่เขายังเด็ก

เขาบอกว่าถ้าแม่ยังอยู่ แม่คงร้องไห้ด้วยความดีใจ

แม่เคยทิ้งโน้ตกระดาษให้กำลังใจไว้ในถุงกอล์ฟ หรือกระเป๋าของเขา ก่อนจะเปลี่ยนเป็นข้อความทางโทรศัพท์ตามสมัยนิยม

คลาร์กออกสตาร์ตยูเอส โอเพ่น ครั้งที่ 123 อย่างสวยงาม โดยตี 6 อันเดอร์พาร์ 64 ในรอบแรก และอยู่อันดับ 3 ร่วม กับดัสติน จอห์นสัน อดีตแชมป์รายการนี้

แต่คะแนนของเขากับจอห์นสันได้รับความสนใจน้อย เพราะจุดโฟกัสอยู่ที่ ริคกี ฟาวเลอร์ กับ ซานเดอร์ ชอฟเฟเล ซึ่งตี 62 และเป็นผู้นำร่วม ซึ่งเป็นคะแนนดีที่สุดใน 1 รอบ ในประวัติศาสตร์ของยูเอส โอเพ่น และดีที่สุดเท่ากับสถิติเดิมของรายการเมเจอร์

แม้ว่าคลาร์กกับฟาวเลอร์จะเป็นผู้นำร่วม ที่ 10 อันเดอร์ หลังจากจบ 3 รอบ ซึ่งดีกว่า แม็คอิลรอย

1 แต้ม แต่เกจิหลายคนเชื่อว่าแม็คอิลรอยกับฟาวเลอร์น่าจะดีกว่าในรอบสุดท้าย

แต่ฟาวเลอร์พังในวันสุดท้าย จบที่อันดับ 5 และคลาร์กชนะแม็คอิลรอย 1 แต้ม

สิ่งที่น่าสังเกต คือ ตั้งแต่ปี 2016 ผู้ชนะของยูเอส โอเพ่น ทุกคนเป็นแชมป์เมเจอร์ครั้งแรก คือ จอห์นสัน, บรูคส์ เคปค่า (ได้แชมป์ 2 ครั้ง ติดต่อกันในปี 2017-2018), แกรี่ วูดแลนด์, ไบรสัน ดีแชมโบ,

จอน ราห์ม, แมทท์ ฟิทซ์แพทริค และคลาร์ก

สำหรับแม็คอิลรอย เขายังคงต้องรอแชมป์เมเจอร์รายการที่ 5 ของเขาต่อไป หลังจากได้แชมป์เมเจอร์ครั้งหลังสุด ที่พีจีเอ แชมปี้ยนชิพ 2014

โปรวัย 34 ปี จากไอร์แลนด์เหนือ อาจประสบความสำเร็จในเมเจอร์รายการต่อไป คือ บริทิช โอเพ่น ในเดือนหน้า

แม็คอิลรอย ได้แชมป์ บริทิช โอเพ่น ในปี 2014 ที่รอยัล ลิเวอร์พูล ซึ่งเป็นเจ้าภาพรายการนี้ในปีนี้

นี่อาจเป็นโอกาสดีสำหรับแม็คอิลรอย ที่จะก้าวข้ามเลข 4