FEE:D RETRO ปิดฉากยิ่งใหญ่ ย้อนวันวานความสุขยุค 90s

FEED RETRO

ปิดฉากลงอย่างยิ่งใหญ่ท่ามกลางโมเมนต์ประทับใจ อบอุ่นสไตล์ 90s กับงาน “FEE:D RETRO Music•Talk•Food•Book•Trip #90sไม่นานมานี้” ที่มิวเซียมสยาม เมื่อวันที่ 24-26 พฤศจิกายน 2566 ที่ผ่านมา ปรากฏการณ์ครั้งแรกแห่งความสุขยุค 90s ที่เกิดขึ้นโดย “FEE:D” ผู้ผลิตคอนเทนต์ไลฟ์สไตล์ภายใต้เครือมติชน รวบรวมกิจกรรมทั้ง 5 มิติ ดนตรี เสวนา อาหาร หนังสือ และทัวร์ย่านกรุงเก่า ไว้ในงานเดียวแบบครบวงจร กลายเป็นเฟสติวัลท่ามกลางลมหนาวสุดประทับใจ

ไอคอนแห่งยุคร่วมย้อนวันวาน

ตลอด 3 วันของการจัดงาน FEE:D ได้เชิญชวนบรรดาไอคอนแห่งยุค 90s ร่วมถ่ายทอดประสบการณ์และแรงบันดาลใจที่ไม่รู้ลืม โดยเปิดเวที “Talk” วันที่ 24 พฤศจิกายน ด้วยการปรากฏตัวของ “จักรพันธุ์ ยมจินดา” ตำนานผู้ประกาศข่าวชื่อดังแห่งยุค ที่มาแชร์ความทรงจำและบอกเล่าเรื่องราวการทำงานบนจอแก้วในยุคนั้น ทำเอาแฟน ๆ ฮือฮาและหายคิดถึงไปตาม ๆ กัน กับน้ำเสียงเอกลักษณ์ที่ไม่เคยลืม

“จากยุค 90s มาจนวันนี้ ทุกอย่างเปลี่ยนไปหมด ใครจะคิดว่ามามิวเซียมสยามโดยรถไฟฟ้าสีน้ำเงิน ทีวีดูได้เป็นร้อยเป็นพันช่อง ใครจะคิดว่าเราอยู่ตรงไหนของโลกก็ใช้โทรศัพท์ได้ ใครจะคิดว่าเป็นสมาชิกเน็ตฟลิกซ์ก็ดูหนังได้ทั้งโลก เบรกกิ้งนิวส์วินาทีนี้เรารู้ทันที ข่าวสารไม่ไปไหน เราไม่จำเป็นต้องอยู่บ้านเพื่อรับรู้ข่าวสาร อยู่ตรงไหนก็รับรู้ได้กับโทรศัพท์เพียงเครื่องเดียว” ตำนานผู้ประกาศข่าวจอแก้วกล่าว

ต่อกันวันที่ 25 พฤศจิกายน “ดีเจ.เป้-วิศวะ กิจตันขจร” แห่งคลื่นกรีนเวฟ ดีเจ.ผู้ข้ามยุคจาก 90s สู่ปัจจุบัน ที่ร่วมถ่ายทอดความทรงจำในวงการเพลงช่วง พ.ศ. 2533-2542 ให้ฟังกัน พร้อมนิยามเพลงในยุค 90s ว่ามีภาษาที่สวย จังหวะลงตัว ฟังแล้วเย็นสบาย ฟังแล้วผ่อนคลาย ยุคนี้จะผสมผสานแนวเพลงหลากหลาย ซึ่งไม่ผิด แต่ตนชอบความรู้สึกในยุคก่อน

“จับซีดี ดูหน้าปก แล้วมีความสุข ฟังแล้วดูเนื้อ แม้จะเล็กมากเราก็ส่อง ผมเป็นคนหนึ่งที่ซื้อเทปมาแล้ว ใช้มีดกรีดซองด้านบน ดันขึ้นมาฟังแล้วใส่กลับไป เพราะเราต้องการให้เทปมันใหม่อยู่เสมอ” ดีเจ.เป้กล่าว

ไอคอนอีกคนหนึ่งคือ “ทราย เจริญปุระ” ตัวแม่แห่งยุค 90s กับประสบการณ์ในวงการบันเทิงกว่า 3 ทศวรรษ ซึ่งมาร่วมแชร์เรื่องราวที่งาน FEED RETRO ในวันสุดท้าย 26 พฤศจิกายน พร้อมเสวนาในหัวข้อ “อุตสาหกรรมบันเทิง หนัง ละคร ในยุค 90s”

FEED RETRO

เมื่อถูกถามว่ายุค 90s ส่งผลให้เราเป็นอย่างไรบ้างในวันนี้ ทรายบอกว่า แน่นอนว่าในยุคของเราที่ไม่มีคำว่า work life balance ไปทำงาน ไม่ทำก็ไม่ทำ มีแค่นี้ เราจะค่อนข้างมีความยืดหยุ่นพอสมควรถ้าพูดถึงงาน ถ้าจะมองในแง่ดีก็คือเป็นคนยืดหยุ่น

ใน Gen ของเราทุกวันนี้ยังเป็น Gen ที่ถือว่าเป็น “เดอะแบก” อยู่ คือเรายังมีความงามให้คิดถึง จนมาในยุคนี้ที่รู้สึกว่าเราเป็นเดอะแบก เพราะว่าเรามันได้ความยืดหยุ่นในการทำงานมาตั้งแต่ตอนเด็ก แต่ในแง่ไม่ดีก็คือว่าน้องจะรู้สึกว่าพี่ทำได้ไงงาน 16 ชั่วโมง มันก็เป็นจุดแข็งว่าเราสามารถเกลี่ยพลังงานในช่วงของการทำงานได้ดีกว่าน้อง ๆ เพราะว่ายืดหยุ่นมาเยอะ เราทำการเกลี่ย ยืดแล้วยืดอีก ในเมื่อเป็นงานที่เรารัก เราก็จะไม่ค่อยรู้สึกเฮิร์ตกับมันมาก

และนี่คือไอคอนิกแห่งยุค 90s ทั้ง 3 คนที่มาร่วมแชร์เรื่องราวดี ๆ ท่ามกลางบรรดาแฟนคลับที่คิดถึงและผู้ร่วมงานจำนวนมาก

แห่ร่วม Walking Trip ชมวัด วัง ในย่านเก่า

จากเซสชั่น Talk แบบจุใจแล้ว มาต่อกันที่ “Walking Trip” ย้อนชมวันวาน วัด วัง ในย่านเก่า ซึ่งผู้คนแห่เข้าร่วมจำนวนมาก เริ่มวันแรก 24 พฤศจิกายน โดย รศ.ดร.รุ่งโรจน์ ภิรมย์อนุกูล อาจารย์คณะมนุษยศาสตร์ ม.รามคำแหง ที่พาผู้ร่วมงานย้อนประวัติมิวเซียมสยาม ลัดเลาะชมศิลปกรรมในวัดโพธิ์ บอกเล่าเรื่องราวความสำคัญของอุโบสถ ชมความยิ่งใหญ่ของวิหารพระนอน และทำความรู้จักกับย่านท่าเตียน

FEED RETRO

วันที่สอง 25 พฤศจิกายน โดย “นายศิริพจน์ เหล่ามานะเจริญ” นักวิชาการอิสระ ได้พาผู้เข้าร่วมกว่า 50 คน ย้อนอดีตเมื่อวันวานยุค 90s เริ่มจากบริเวณสถานีตำรวจนครบาลพระราชวัง และปากคลองตลาด สะพานพุทธ จนถึงห้างดิโอลด์สยาม และโรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย

นายศิริพจน์เติบโตขึ้นมาในย่านปากคลองตลาด ประวัติศาสตร์ที่ร่วมแชร์กับผู้ร่วมทริปจึงแฝงไปด้วยความทรงจำของตนในอดีตและเรื่องเล่าที่ฟังมาจากอากง ซึ่งช่วงที่เขาเติบโตมานั้นก็เป็นยุค 90s พอดิบพอดี

ย่านนี้เปลี่ยนไปเยอะมาก ตั้งแต่ช่วงต้นกรุงรัตนโกสินทร์ละแวกนี้เต็มไปด้วยวัง ทั้งวังของเจ้าฟ้าจักรพงษ์ภูวนาถ และตั้งแต่มิวเซียมสยามไปถึง สน.พระราชวัง มีวังที่สร้างสมัยรัชกาลที่ 3 จำนวน 5 วัง นายศิริพจน์กล่าว นอกจากนี้ยังเดินชมป้อมวิชัยประสิทธิ์ และย้อนวัยดูสะพานพุทธตลาดกลางคืนที่คุ้นเคย

สำหรับสุดท้าย 26 พฤศจิกายน นำชมศิลปกรรมใหม่ในสมัยรัชกาลที่ 4-5 ในหัวข้อ “การเปลี่ยนผ่านศิลปกรรมแบบเก่าสู่แบบใหม่ กับวัดราชบพิธและวัดราชประดิษฐ์” โดย นายธนโชติ เกียรติณภัทร อาจารย์ภาควิชาภาษาไทยและภาษาตะวันออก คณะมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง

นายธนโชติกล่าวว่า ตนเกิดใน ค.ศ. 1990 พอดี เสน่ห์ของยุคดังกล่าวคือความสโลว์ไลฟ์ ทำให้สามารถรอคอยในสิ่งต่าง ๆ ได้ เป็นช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อระหว่างช่วงแอนะล็อกและดิจิทัล เช่นเดียวกับทัวร์ในวันนี้ ซึ่งได้พามาชมศิลปกรรมในยุคเปลี่ยนผ่านของรัชสมัยต่าง ๆ ตั้งแต่รัชกาลที่ 3-5

ดนตรีในสวนรับลมหนาว

อีกไฮไลต์ที่เป็นโมเมนต์สุดประทับใจของงานนี้ คือ “Music” FEE:D ได้เนรมิตดนตรีในสวนขึ้นที่มิวเซียมสยาม ชวนนักร้องดังแห่งยุค 90s ร่วมสร้างความสุขท่ามกลางลมหนาว บอกเลยว่าเพลงของพวกเขาและเธอยังคงตราตรึง ร้องตามกันได้ทั้งวัยเก๋าและวัยรุ่นยุคใหม่

แดดร่มลมตก “ที-โบน” ที่แสดงในวันแรกเริ่มต้นด้วยบทเพลง อย่าสัญญา, กอด, แรงดึงดูด และกลิ่น “รู้สึกโชคดีที่ผ่านยุค 90s มาได้โดยไม่มีใครเป็นเจ้าของ มันเป็นของเรา เราจะเล่นเพลงตัวเองเมื่อไหร่ก็ได้ ผมเล่นเพลงตัวเองมา 30 กว่าปี ยังจำเนื้อร้องไม่ได้เลย” แก๊ป ที-โบน เล่าความประทับใจ

ค่ำคืนวันที่สอง เริ่มต้นด้วย “ตุ๊ก-วิยะดา โกมารกุล ณ นคร” เจ้าของบทเพลงขอจันทร์, ไม้ขีดไฟกับดอกทานตะวัน และเพียงแค่ใจเรารักกัน กับท่อนติดหู “และเรามีเพียง งานวิวาห์เดียวดายภายใต้แสงจันทร์ สุขสกาวดวงดาวแพรวพราวนับหมื่นร้อยพัน” ทำเอาแฟน ๆ ร้องตามพลางโบกมือ บรรยากาศที่ออกมาจึงอบอุ่นสุด ๆ

FEED RETRO FEED RETROFEED RETRO

ต่อกันที่คู่หูดูโอ้ “เบิร์ด-ฮาร์ท” เจ้าของเพลงฮิตหวานละมุน เช่น ลืม, ไม่ลืม และเพื่อนกัน ที่อยู่คู่วงการเพลงไทยมายาวนานกว่า 30 ปี โดยมีแฟนเพลงที่มาปูเสื่อรออย่างล้นหลาม ทั้งคู่เล่นมุขสลับร้องเพลงสร้างความบันเทิงให้แฟนคลับ

ส่งเพลง เช่น เพื่อนกัน, รอรัก, รักสีส้ม และเพ้อ ให้แฟน ๆ ได้ฟัง ก่อนจะปิดท้ายด้วยเพลง ลืม เพลงประจำของทั้งคู่ ท่ามกลางแฟน ๆ ที่หยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาเปิดแฟลช โบกไปมาตามจังหวะเพลง

ค่ำคืนวันสุดท้ายจบลงอย่างสมบูรณ์แบบด้วย “ปั่น ไพบูลย์เกียรติ เขียวแก้ว” เจ้าของเพลงรักล้นใจ,
รักนิรันดร์, สู่กลางใจเธอ, รักยืนยง และ “ธีร์ ไชยเดช” อีกหนึ่งตำนานที่มาย้อนวันวานหวนคืนความทรงจำดื่มด่ำไปกับเพลงรักแห่งยุค 90s

FEED RETRO

ทั้งคู่ต่างทักทายแฟนเพลงอย่างเป็นกันเอง แม้ช่วงท้ายจะมีฝนโปรยปรายลงมา แต่แฟน ๆ ก็ไม่หนีไปไหน ร่วมร้องเพลงและโบกมือพร้อมกันไปตามจังหวะ เป็นโมเมนต์ประทับใจไม่รู้ลืม

ตลอดระยะเวลา 3 วันของการจัดงาน ยังมีโซน “Food” ที่รวบรวมร้านอาหารเจ้าดังในตำนานกว่า 80 ร้าน คัดสรรโดย “เส้นทางเศรษฐี” การันตีความอร่อย รวมถึง “Night Book Fest” กับบูทหนังสือจากสำนักพิมพ์มติชน ที่มาในธีม “วันวานยังอ่านอยู่” เทศกาลหนังสือที่รวมมิตร เล่มฮิต สุดแจ่ม สุดจ๊าบ ในความทรงจำ ก็ได้รับความสนใจไม่น้อย

ครบทุกมิติ Music Talk Food Book Trip ย้อนความทรงจำสู่ยุค 90s เสมือนว่าความประทับใจเหล่านั้นเพิ่งผ่านมาไม่นานนี้ และพบกันใหม่เมื่อลมหนาวพัดมาอีกครั้ง

FEED RETROFEED RETROFEED RETRO