เครื่องต้มยำ สมุนไพรคู่ครัว เคล็ดลับดูแลสุขภาพยุคโควิด

พลพัต สาเลยยกานนท์ : เรื่อง

ขิง, ข่า, ตะไคร้, ใบมะกรูด ถือเป็นสมุนไพรในอาหารที่อยู่คู่ครัวไทยในเมนูยอดฮิตติดปากคนทั่วโลกอย่าง “ต้มยำ” ซึ่งช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดที่เกิดขึ้นต่อเนื่องถึงปัจจุบันนั้น “สมุนไพรไทย” อาทิ ฟ้าทะลายโจร นับเป็นอีกหนึ่งตำรับยาที่ได้รับการยอมรับในการรักษาและป้องกันเชื้อไวรัสโควิด-19

แต่กระนั้นการใช้สมุนไพรนอกเหนือจากการใช้เป็นยาแล้ว การใช้สมุนไพรบำรุงสุขภาพโดยการรับประทานในอาหารยังเป็นอีกหนึ่งวิธีการดูแลสุขภาพในช่วงการแพร่ระบาด

การใช้สมุนไพรไทยเพื่อยับยั้งโควิด-19 ถูกไขความกระจ่างในงาน “เฮลท์แคร์ 2021 วัคซีนประเทศไทย” #เราจะฝ่าวิกฤติไปด้วยกัน โดย ภญ.ดร.ผกากรอง ขวัญข้าว หัวหน้าศูนย์หลักฐานเชิงประจักษ์ด้านการแพทย์แผนไทยและสมุนไพร โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร มาตอบในเวที Healing Workshop หัวข้อ เปิดเคล็ดลับ ใช้ “สมุนไพรไทย” ให้ปลอดภัยช่วงโควิด

“สมุนไพรไทยหลายชนิดมีคุณค่าสำคัญสร้างกลไกให้ร่างกายป้องกันตัวเองจากโรคหลายชนิดต่างกัน มีฤทธิ์แก้อาการและสร้างเสริมภูมิคุ้มกันที่แตกต่างกัน ดังนั้นคนสมัยโบราณจึงนิยมรับประทานสมุนไพรเป็นอาหารป้องกันการป่วย”

ในต่างประเทศได้มีการวิจัยศึกษาการขาดวิตามินหลาย ๆ ชนิด รวมถึงมีการทดลองการให้วิตามินซีในการรักษาโควิด-19 ซึ่งข้อบ่งชี้ระบุว่า ยังไม่เห็นผลด้านการรักษา แต่พบว่าการทำร่างกายให้แข็งแรงอยู่เสมอและการดูแลสุขภาพจะส่งผลดีต่อร่างกาย ดังนั้นสมุนไพรไทยจึงเป็นที่กล่าวถึงอย่างมากในเวลานี้

ภญ.ดร.ผกากรองกล่าวว่า ปัจจุบันผู้คนหันมาให้ความสนใจกับสมุนไพรไทยมากขึ้นในช่วงโควิด-19 จึงเป็นการดีที่คนไทยควรเรียนรู้เรื่องสมุนไพรให้ถ่องแท้มากขึ้น ซึ่งการดูแลสุขภาพด้วยสมุนไพรไทย สามารถแบ่งออกเป็น 3 ระยะ ได้แก่ ก่อนติดเชื้อ ระยะติดเชื้อ และหลังติดเชื้อ

ระยะก่อนติดเชื้อ

การดูแลสุขภาพต้องทำให้ร่างกายแข็งแรงสมบูรณ์ด้วยสารอาหารต่าง ๆ กินอาหารให้เป็นยา เน้นรับประทานสมุนไพรกลุ่มเครื่องเทศและเครื่องต้มยำต่าง ๆ ในมื้ออาหาร เช่น ขิง กระชาย ข่า ตะไคร้ หัวหอม หูเสือ กะเพรา

ส่วนคำถามที่ว่า “ฟ้าทะลายโจร” ใช้ในคนกลุ่มใดได้บ้าง โดยเฉพาะก่อนติดเชื้อ ก่อนได้รับการวินิจฉัยว่าเราเป็นโควิด-19 คนกลุ่มเสี่ยงที่มีประวัติสัมผัสผู้ป่วยโควิด และมีอาการคล้ายหวัด ก็สามารถใช้ฟ้าทะลายโจรได้ จากนั้นให้รีบหาชุดตรวจแอนติเจน (Antigen Test Kit – ATK) มายืนยันว่าเราติดหรือไม่ เพื่อเข้ารับการรักษาในระบบต่อไป

อีกหนึ่งสมุนไพรที่หาได้ง่ายในไทยและมีฤทธิ์เสริมภูมิคุ้มกันคือ ตรีผลา ซึ่งการศึกษาของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์พบว่าตีผลาช่วยให้เซลล์เพชฌฆาต (Natural killer cells) ซึ่งทำหน้าที่กัดกินไวรัสทำงานได้ดีขึ้น แม้จะหยุดให้ไปแล้ว 2 สัปดาห์

ระยะติดเชื้อ

เมื่อติดเชื้อแล้ว แนะนำให้ใช้ฟ้าทะลายโจรให้เร็วที่สุด และใช้เป็นเวลา 5 วัน โดยขนาดยาที่ควรใช้ ไม่ใช่น้ำหนักยา แต่ให้พิจารณาปริมาณแอนโดรกราโฟไลด์ (andrographolide) ซึ่งอยู่ในตัวผงยาเป็นหลัก เวลาซื้อต้องดูปริมาณสารนี้ต่อหนึ่งแคปซูล

โดยขนาดที่แนะนำให้ใช้อยู่ที่ 140-180 มิลลิกรัมต่อวันต่อคน ซึ่งกรมการแพทย์แผนไทยแนะนำไว้ที่ 180 มิลลิกรัมต่อวันต่อคน แต่สำหรับผู้ป่วยบางกลุ่ม เช่น คนที่มีอาการน้อย หรือเป็นผู้สูงอายุ การได้รับสารนี้ในปริมาณสูงก็เกิดผลข้างเคียงได้

ฟ้าทะลายโจรมีฤทธิ์ต้านไวรัสและลดการอักเสบ มีฤทธิ์ให้ร่างกายจัดการเชื้อโรคได้ดี หากร่างกายได้รับฟ้าทะลายโจรเร็วก็จะดี โดยเฉพาะการลดไข้และเจ็บคอ ถ้าหลังจากรับฟ้าทะลายโจรไปแล้ว 30 นาที แล้วไม่มีไข้ ไม่ต้องใช้ยาพาราเซตามอลร่วมด้วย

เพราะอาจจะเกิดความเสี่ยงต่อตับอักเสบได้ การรับฟ้าทะลายโจรไปแล้ว 3 วัน มีอาการดีขึ้น แสดงว่ามาถูกทาง ให้ใช้ต่อไปจนครบ 5 วัน

ต่อมาสิ่งที่คนสงสัยกันมากคือ ยาขิง ซึ่งมีฤทธิ์เป็นยาร้อน ในทางการแพทย์แผนไทย สำหรับการแพทย์ดั้งเดิมระบุว่า ขิงบำรุงปอด แต่ถ้ากินในปริมาณที่มากและความเข้มข้นสูง อาจจะทำให้อุณหภูมิในร่างกายสูงเกินไป ดังนั้นช่วงที่เป็นไข้ การใช้ยาขิงจึงไม่แนะนำ

แต่หากไม่มีไข้แต่มีอาการเหนื่อยหอบ อาการไอ อ่อนเพลีย ปวดเมื่อยเนื้อตัว สามารถใช้ยาขิงได้

ยาแก้ไอมะขามป้อม หลายคนเมื่อเป็นโควิด-19 แล้วมีอาการไอ การใช้มะขามป้อมช่วยได้ ทำให้ทางเดินหายใจคล่องขึ้น สะดวกขึ้น

นอกจากนี้ยังใช้วิธีการสุมไอน้ำด้วยเครื่องต้มยำ (ยกเว้นพริก) ต้มในน้ำเดือด ต้มจนเดือด ผ้าคลุมศีรษะสูดไอน้ำ เพื่อให้ไอระเหยจากไอน้ำลอยขึ้นมาให้เราสูดหายใจ แก้คัดจมูก ขับเสมหะ ไล่น้ำมูกจากทางเดินหายใจ ทำครั้งละ 5 นาที ทำให้ครบ 15-30 นาที วันละ 1-2 ครั้ง จะทำให้หายใจสะดวกขึ้น

อย่างไรก็ตามไม่แนะนำสำหรับผู้ป่วยที่มีความดันโลหิตสูง เพราะอาจทำให้หน้ามืดหรือเป็นลมได้

ทั้งนี้ สิ่งที่ต้องสังเกตเมื่อจะใช้สมุนไพรกับผู้ป่วยโควิด-19 ได้แก่ อาการไข้ อาการไอ สัญญาณชีพจร ความดันโลหิต อัตราการหายใจ ทั้งนี้เพื่อให้รู้แนวโน้มความรุนแรงของโรค คนไข้บางรายเมื่อความดันสูง ทำให้ชีพจรเต้นเร็ว การควบคุมอุณหภูมิให้ได้ การใช้ฟ้าทะลายโจรในปริมาณที่เพียงพอก็จะควบคุมอาการไข้ได้

ระยะหลังการติดเชื้อ

ผู้ป่วยโควิดบางราย หลังได้รับการรักษาจนหาย แต่ยังจะมีอาการอักเสบในระบบทางเดินหายใจ หรือระบบหลอดเลือด บางคนมีภาวะไอเรื้อรัง หรือหอบเหนื่อย นอนไม่หลับ ก็มียาตำรับที่ช่วยได้ ตั้งแต่ตำรับยาบำรุงปอด ยาปราบชมพูทวีป ยาตรีผลา ที่ช่วยให้ทางเดินหายใจมีความชุ่มชื้น ลดการระคายเคืองและลดการอักเสบได้

ซึ่งการใช้ยาในระยะหลังการติดเชื้ออาจไม่จำเป็นต้องใช้กับผู้ป่วยทุกราย เพราะหากไม่มีอาการใด ๆ ก็ไม่จำเป็นต้องใช้ยา

อย่างไรก็ตาม การดูแลสุขภาพก่อนเป็นโควิด-19 สำคัญมาก องค์ประกอบที่สำคัญคือ อากาศ อาหาร อารมณ์ การนอนหลับ ออกกำลังกาย โดยเฉพาะอารมณ์และการนอนหลับ ซึ่งสำคัญต่อภูมิคุ้มกันของร่างกาย

และสุดท้ายก็คือสมุนไพรที่จะเป็นส่วนหนึ่งในการดูแลสุขภาพโดยเสริมเข้าไปก็ใช้ในรูปแบบอาหารจะปลอดภัยที่สุด แนะนำให้เตรียมสมุนไพรไว้ในบ้าน เช่น ขิง ต้านเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ในเด็กได้ด้วย โดยใช้หัวขิงแก่ ฝาน 4-5 ชิ้น ต้มกับน้ำเดือดดื่มตอนเช้า ช่วยลดการอักเสบและบำรุงปอด

ขมิ้นชัน เป็นสมุนไพรที่มีฤทธิ์ต้านการอักเสบดีมาก กำลังมีการศึกษาในต่างประเทศในประสิทธิภาพที่ทำให้เซลล์อายุยืน โดยใช้ผงขมิ้น 3 ช้อนชา ใช้ในผสมกับนม ใส่อบเชย กระวาน กานพลู ช่วยการดูดซึมของร่างกาย ดื่มแล้วช่วยลดความเครียดได้

เพราะโควิด-19 เป็นโรคใหม่ เราไม่สามารถใช้เครื่องมืออย่างใดอย่างหนึ่งเพียงอย่างเดียวในการดูแลสุขภาพได้ ต้องอาศัยการดูแลร่างกายแบบองค์รวม เช่น การพักผ่อนให้เพียงพอ การกินร้อน ช้อนตัวเอง รักษาระยะห่าง ใส่หน้ากาก ล้างมือ การออกกำลังกาย และการใช้ภูมิปัญญาโบราณอย่างยาสมุนไพรมาช่วยเสริมภูมิคุ้มกันด้วย