“สมคิด”ลุยโรดโชว์ดึงลงทุน BOI ตั้งเป้าปีนี้ 720,000 ล้าน

“สมคิด” สั่ง BOI เดินสายโรดโชว์ดึงญี่ปุ่น-จีน-เกาหลีใต้-อเมริกา-ยุโรปลงทุน EEC พร้อมตั้งเป้ายอดขอรับส่งเสริมปี”61 พุ่ง 720,000 ล้านบาท

นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจ กล่าวภายหลังการประชุมมอบนโยบายปี 2561 ให้สำนักคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) 3 เรื่อง คือ 1.ให้มุ่งส่งเสริมอุตสาหกรรมการเกษตร เกษตรแปรรูป ซึ่งจะขยายไปสู่อุตสาหกรรมไบโอชีวภาพ และให้เน้นภาคบริการท่องเที่ยวแบบครบวงจร ขณะเดียวกันต้องการดึงการลงทุนด้านการศึกษา 2 ส่วนเพื่อสร้างบุคลากรป้อนอุตสาหกรรมเป้าหมาย (S-curve) คือส่วนที่เป็นการลงทุนตั้งสถาบันการศึกษาโดยตรง และสถานประกอบการตั้งหน่วยงานอบรมภายใน

2.การจัดงานใหญ่ “Thailand Taking off” ของบีโอไอในวันที่ 19 มี.ค. 2561 เพื่อดึงนักลงทุนเป้าหมายในอุตสาหกรรม S-curve เข้ามากว่า 2,500 คน 3.การเตรียมโรดโชว์ต้นเดือน ก.พ. จังหวัดฟุกุโอกะ ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งทั้งหมดจะส่งผลให้การลงทุนของปี 2561 เติบโตขึ้น

“ยอดขอรับส่งเสริมการลงทุน ปี 2560 อยู่ที่ 641,978 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 22% จำนวนทั้งหมด 1,456 โครงการ สูงกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ 600,000 ล้านบาท หลังปรับมาตรการส่งเสริมการลงทุนหลายตัว โดยเฉพาะในพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ที่ยื่นลงทุน 388 โครงการ มูลค่า 296,889 ล้านบาท สัดส่วนถึง 46% มากสุดที่ยื่นมาคือ จ.ระยอง”

นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล รัฐมนตรีประจำสำนักนายก กล่าวว่า ขณะนี้แนวโน้มเศรษฐกิจเริ่มปรับตัวดีขึ้น ดังนั้น แผนชักจูงนักลงทุนจะมุ่งไปที่ญี่ปุ่น จีน เกาหลีใต้ อเมริกา ยุโรป และหวังว่านักลงทุนจากอเมริกาและยุโรปจะเพิ่มขึ้นหลังจาก นายประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีเดินทางไปเยือนเชื่อมความสัมพันธ์มากขึ้น

“เราหวังว่ากฎหมาย EEC จะออกทันกลางเดือน มี.ค. ซึ่งตอนนี้อยู่ระหว่างการทบทวนในวาระ 1 หากผ่านตรงนี้เข้าวาระ 2 และ 3 จะเร็วขึ้น ส่วน 5 โครงการใน EEC จะเห็น TOR ภายในปีนี้แน่นอน รวมถึงเรื่อง Smart VISA ที่จะขยายระยะเวลาทำงานจาก 1 ปีเป็น 4 ปีสำหรับนักวิจัยที่อยู่ใน S-curve นอกจากนี้ เรื่อง startup รายเล็กจะดึงเข้ามาเชื่อมซัพพอร์ตให้รายใหญ่ ซึ่งเรากำลังวางแผนงานต้องการให้เกิดขึ้นในสัปดาห์ถัดไป”

นางสาว ดวงใจ อัศวจินตจิตร์ เลขาธิการบีโอไอ กล่าวว่า สำหรับเป้าหมายปี 2561 ตั้งไว้ที่ 720,000 ล้านบาท เติบโต 12% ยังเน้นไปที่โครงการ S-curve จะมีมาตรการส่งเสริมการลงทุนใหม่ออกมาเพิ่มเติม จะเน้นด้านเกษตรและท่องเที่ยวตามที่รองนายกฯ มอบนโยบาย แม้ว่าก่อนหน้านี้จะมีการปรับเพิ่มมาตรการสำหรับการลงทุน การปรับปรุงประสิทธิภาพให้กับภาคการเกษตรไปแล้ว ที่ได้สิทธิประโยชน์ยกเว้นภาษีอยู่ที่ 5 ปี

สำหรับกลุ่มประเทศเป้า หมายในการชักจูงการลงทุน จะเป็นกลุ่มที่มีการลงทุนในไทยอย่างต่อเนื่อง โดยสถิติขอรับส่งเสริมการลงทุนจากต่างประเทศ (FDI) ในปี 2560 พบว่า ยังคงเป็นโครงการจากประเทศญี่ปุ่นสัดส่วนถึง 47% มูลค่า 133,002 ล้านบาท รองลงมาสิงคโปร์มูลค่า 40,366 ล้านบาท จีน 27,514 ล้านบาท สหรัฐอเมริกา 20,022 ล้านบาท และเนเธอร์แลนด์ 15,842 ล้านบาท

“ตัวเลขปี 2560 เป็น S-curve สัดส่วน 61% มูลค่า 392,141 ล้านบาท เป็น 5 อุตสาหกรรมเป้าหมายเดิม เช่นยานยนต์สมัยใหม่ ดิจิทัล 241,055 ล้านบาท และเป็น 5 อุตสาหกรรมเป้าหมายใหม่ เช่น อากาศยาน หุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติ 151,087 ล้านบาท ซึ่งตัวเลขการลงทุนจากต่างประเทศหลัก ๆ ยังเป็นญี่ปุ่น รองลงมาคือ สิงคโปร์ จีน และอเมริกา ส่วนการเดินทางไปชักจูงการลงทุนที่นำโดยนายกรัฐมนตรี หรือรองนายกรัฐมนตรีนั้น คาดว่าคงไม่น้อยกว่า 5 ครั้ง และคณะชักจูงการลงทุนซึ่งนำโดยผู้บริหารบีโอไออีกกว่า 30 ครั้ง และในปีนี้บีโอไอจะร่วมมือกับหน่วยงานต่าง ๆ เพื่อจัดกิจกรรมชักจูงการลงทุนในพื้นที่อีอีซี อีกไม่น้อยกว่า 15 ครั้ง”