ฝนตก-น้ำท่วม หวั่นดันราคาผักแพง ตรวจสอบล่าสุด ยังปกติ ปริมาณเพียงพอ

ฝนตกน้ำท่วมหวั่นราคาผักแพง

พาณิชย์เกาะติดสถานการณ์ราคาผักต่อเนื่อง หลังฝนตก-น้ำท่วม พบปริมาณและราคายังคงปกติย้ำ แนะห้ามฉวยโอกาสปรับขึ้นราคา พบมีโทษทางกฎหมาย

วันที่ 14 กันยายน 2565 นายอุดม ศรีสมทรง รองอธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ฝนตกต่อเนื่องในหลายพื้นที่ ทำให้ผลผลิตทางการเกษตรในหลายภูมิภาคเกิดความเสียหาย เกษตรกรเก็บเกี่ยวได้ลำบากและลดพื้นที่ทางการเพาะปลูกลง ส่งผลให้ราคาผักบางชนิดในท้องตลาดเพิ่มสูงขึ้นบ้าง โดยกรมการค้าภายในได้ติดตามสถานการณ์ราคาผักอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะในแหล่งพื้นที่เพาะปลูกใหญ่ของประเทศ

ล่าสุดเมื่อวันที่ 13 กันยายน 2565 กรมฯลงพื้นที่ตรวจติดตามสถานการณ์ราคาผัก ณ ตลาดสี่มุมเมือง จังหวัดปทุมธานี พบว่า ปัจจุบันสถานการณ์ราคาผักยังคงเป็นปกติปรับขึ้นลงตามราคากลไกตลาด และยังไม่มีการรายงานความเสียหายในพื้นที่ที่มีฝนตกชุก ทำให้ปริมาณยังคงมีเพียงพอไม่เกิดความขาดแคลน โดยกรมจะมีการติดตามดูแลให้ราคาขายปลีกสอดคล้องกับราคาต้นทุน ไม่ให้มีการฉวยโอกาสปรับขึ้นราคา

อย่างไรก็ตาม กรมการค้าภายในได้มาตรการส่งเสริมและแก้ไขปัญหาราคาพืชผลในตลาดตามช่วงฤดูกาลมาอย่างต่อเนื่อง อาทิ การเชื่อมโยงมะนาวเข้าสู่ mobile ในช่วงที่ออกสู่ตลาดมากในเดือนสิงหาคม และ Farm Outlet ทั่วประเทศ ในลักษณะกิจกรรมส่งเสริมการขายในช่วงเดียวกัน

พร้อมกันนี้ ยังได้จัดโครงการ mobile พาณิชย์ลดราคา โครงการจำหน่ายผัก ณ สถานีบริการน้ำมัน และการใช้กลไกเซลล์แมนจังหวัด เชื่อมโยงผลผลิตจากแหล่งที่มีผลผลิตมากไปสู่จังหวัดที่มีปัญหาด้านราคาและปริมาณผลผลิตน้อย

ทั้งนี้ เพื่อสร้างราคาในตลาดสินค้าที่สมดุล ไม่แพงหรือราคาตกต่ำเกินควร อีกทั้งเชื่อมโยงกระจายผลผลิตผ่านการรับซื้อ จัดหาสถานที่จำหน่าย และประสานตลาดกลาง เพื่อสนับสนุนช่องทางค้าขาย สร้างรายได้เพิ่มแก่เกษตรกร

นอกจากนี้ กรมจะส่งเจ้าหน้าที่ออกติดตามสถานการณ์ราคาผักอย่างต่อเนื่อง และเน้นย้ำผู้ประกอบการจำหน่ายปิดป้ายแสดงราคาให้ชัดเจน ห้ามฉวยโอกาสปรับขึ้นราคาโดยไม่เป็นธรรม หากตรวจพบว่ามีการจำหน่ายสินค้าในราคาแพงเกินสมควรจะมีโทษสูงสุดจำคุกไม่เกิน 7 ปี หรือปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ


และกรณีที่ไม่ปิดป้ายแสดงราคาจำหน่ายจะมีโทษสูงสุดปรับไม่เกิน 10,000 บาท ทั้งนี้ หากประชาชนพบเห็นการจำหน่ายสินค้าหรือบริการที่ไม่เป็นธรรม สามารถแจ้งได้ที่สายด่วน 1569 หรือสำนักงานพาณิชย์จังหวัดทุกจังหวัด