ราคาน้ำมันดิบ (10 ต.ค. 65) ปรับเพิ่ม แตะระดับสูงสุดในรอบ 5 สัปดาห์

ราคาน้ำมันดิบ

ราคาน้ำมันดิบแตะระดับสูงสุดในรอบ 5 สัปดาห์ หลังกลุ่มโอเปกปรับลดกำลังการผลิต

วันที่ 10 ตุลาคม 2565 หน่วยวิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน บมจ.ไทยออยล์ ระบุว่า ปัจจัยที่ส่งผลกระทบกับราคา ดังนี้ ราคาน้ำมันดิบเพิ่มขึ้นกว่า 4% แตะระดับสูงสุดในรอบ 5 สัปดาห์ หลังได้รับแรงหนุนต่อเนื่องจากข่าวการปรับลดกำลังการผลิตของกลุ่มโอเปกและประเทศพันธมิตรที่ปรับลดกำลังผลิตลงกว่า 2 ล้านบาร์เรลต่อวันในช่วงเดือน พ.ย.-ธ.ค. ทั้งนี้ กำลังการผลิตที่อาจปรับลดลงจริงคาดจะอยู่ที่ราว 1 ล้านบาร์เรลเท่านั้น

โดยราคาน้ำมันเวสต์เทกซัสซื้อขายเมื่อ 7 ต.ค. 2565 อยู่ที่ 92.64 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น +4.19 เหรียญสหรัฐ และราคาน้ำมันเบรนต์อยู่ที่ 97.92 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น +3.50 เหรียญสหรัฐ

ปริมาณการขุดเจาะน้ำมันดิบของสหรัฐปรับลดลง แม้ว่าราคาน้ำมันจะปรับตัวเพิ่มขึ้น หลังต้นทุนปรับตัวเพิ่มขึ้น จากอัตราเงินเฟ้อที่สูงขึ้น โดย Baker Hughes รายงานปริมาณการขุดเจาะน้ำมันดิบของสหรัฐสำหรับสัปดาห์สิ้นสุด 7 ต.ค. ปรับตัวลดลง 2 แท่น สู่ระดับ 602 แท่น

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐยังคงปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง หลังตัวเลขการจ้างงานสหรัฐออกมาสูงกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ ส่งผลให้ตลาดคาดธนาคารกลางสหรัฐจะสามารถเดินหน้าขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อเนื่องได้ และคาดจะส่งผลกดดันต่อราคาน้ำมันดิบและสินทรัพย์ทางการเงินอื่น ๆ

ราคาน้ำมันเบนซิน

ปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังได้รับแรงหนุนจากอุปสงค์ในภูมิภาคที่มีแนวโน้มฟื้นตัวขึ้น อย่างไรก็ตาม ราคายังได้รับแรงกดดันจากปริมาณน้ำมันเบนซินคงคลังสิงคโปร์ที่ปรับตัวสูงขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 5 สัปดาห์

ราคาน้ำมันดีเซล

ปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังได้รับแรงหนุนจากอุปทานฝั่งตะวันตกที่มีแนวโน้มตึงตัวจากเหตุการณ์ประท้วงของแรงงานในฝรั่งเศส อย่างไรก็ตาม ราคายังได้รับแรงกดดันจากปริมาณน้ำมันดีเซลคงคลังสิงคโปร์ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นแตะระดับในรอบ 2 สัปดาห์