สินิตย์ตั้งเป้าดัน 3 ธุรกิจบริการสร้างรายได้เข้าประเทศ

ร้านอาหาร
PHOTO : PIXABAY

สินิตย์ ตั้งเป้า ปี 2566 ดัน 3 ธุรกิจบริการร้านอาหาร-ดูแลผู้สูงอายุ-Wellness สร้างรายได้เข้าประเทศ เน้นติดอาวุธผู้ประกอบการครบทุกมิติ พร้อมเร่งผลักดันสร้างมูลค่าเพิ่มให้ธุรกิจ

วันที่ 11 พฤศจิกายน 2565 นายสินิตย์ เลิศไกร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า การค้าภาคบริการเป็นภาคเศรษฐกิจที่สร้างรายได้ให้ประเทศในระดับสูง อีกทั้งความต้องการใช้บริการทุกภาคบริการมีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้น ดังนั้น จึงมอบหมายให้กรมพัฒนาธุรกิจการค้าเร่งติดอาวุธด้านการบริหารจัดการธุรกิจแก่ผู้ประกอบธุรกิจบริการรายย่อยของไทย 3 ธุรกิจ ได้แก่ 1) ธุรกิจร้านอาหาร 2) ธุรกิจดูแลผู้สูงอายุ และ 3) ธุรกิจบริการความงามและสุขภาพ (Wellness)

สินิตย์ เลิศไกร
สินิตย์ เลิศไกร

โดยเน้นการเสริมสร้างองค์ความรู้เชิงลึกแบบครบทุกมิติ ทั้งการตลาด การบริหารจัดการธุรกิจ การเงินและบัญชี วิธีการจัดการต้นทุนไม่ให้บานปลาย การขยายตลาดผ่านช่องทางออนไลน์ รวมถึงกลยุทธ์/เทคนิคการบริการที่ดีเยี่ยม เพื่อให้ลูกค้าเกิดความพึงพอใจสูงสุด และพร้อมที่จะกลับมาใช้บริการซ้ำ รวมทั้งสร้างเครือข่ายผู้ประกอบธุรกิจบริการเพื่อให้เกิดการเกื้อกูลซึ่งกันและกัน และมีโอกาสพัฒนาเป็นพันธมิตรทางธุรกิจ หรือร่วมลงทุนในอนาคต

จุดอ่อนสำคัญของธุรกิจบริการไทย คือขาดองค์ความรู้ที่จำเป็นในการบริหารธุรกิจ เช่น การคำนวณต้นทุน การตลาด การบริหารงานบุคคล การเงินและบัญชี ระบบภาษี ความรู้ด้านกฎหมาย การนำระบบเทคโนโลยีเข้ามาช่วยในการบริหารจัดการธุรกิจ รวมทั้งต้องเผชิญกับภาวการณ์แข่งขันที่เพิ่มสูงขึ้น ดังนั้น การเพิ่มพูนองค์ความรู้ส่งผลต่อความเข้มแข็งของธุรกิจระยะยาว และผลประกอบการที่เป็นกำไรในอนาคต พร้อมที่จะขยายและพัฒนาธุรกิจให้เติบโตไปในทิศทางที่ถูกต้อง เกิดการจ้างงานเพิ่มขึ้น และมีความเชื่อมโยงกับธุรกิจต่อเนื่องที่หลากหลาย

ทั้งนี้ 3 ธุรกิจบริการเป้าหมาย เกี่ยวข้องกับสาธารณชนจำนวนมาก เป็นธุรกิจที่กำลังเข้ากระแสนิยม และมีผู้ประกอบการรายย่อยสนใจเข้ามาประกอบธุรกิจจำนวนมาก จึงได้สั่งการให้กรมพัฒนาธุรกิจการค้า เสริมสร้างองค์ความรู้แก่ผู้ประกอบการทั้ง 3 กลุ่มธุรกิจ โดยเริ่มดำเนินการตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2565 นี้ เป็นต้นไป

1) ธุรกิจร้านอาหาร เข้าถึงลูกค้าได้ทุกกลุ่ม ประกอบธุรกิจได้ทันที กรมพัฒนาธุรกิจการค้าจะดำเนินการสร้างความเข้มแข็ง ส่งเสริมและสร้างโอกาสทางการตลาดให้ธุรกิจ ผ่าน 3 กิจกรรม คือ 1.1) กิจกรรมยกระดับร้านอาหารไทยสู่คุณภาพมาตรฐานภายใต้ตราสัญลักษณ์ Thai SELECT 1.2) กิจกรรม Smart Restaurant Plus เสริมสร้างองค์ความรู้ และ 1.3) กิจกรรมส่งเสริมการตลาดร่วมกับหน่วยงานพันธมิตรและแพลตฟอร์มออนไลน์ชั้นนำ และเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขันของธุรกิจ โดยจะดำเนินกิจกรรมระหว่างเดือนมกราคม-กรกฎาคม 2566

2) ธุรกิจดูแลผู้สูงอายุ การเปลี่ยนแปลงของสภาพสังคมที่เข้าสู่สังคมผู้สูงอายุอย่างเต็มรูปแบบ ช่วยผลักดันให้ธุรกิจดูแลผู้สูงอายุของไทยเติบโตเพิ่มมากขึ้น กรมพัฒนาธุรกิจการค้า ได้เสริมสร้างองค์ความรู้เพื่อให้ธุรกิจดูแลผู้สูงอายุเตรียมความพร้อมรับมือกับปัญหาและการเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นทั้งปัจจุบันและอนาคต ปรับตัวเพื่อความอยู่รอดและเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขันของธุรกิจ ภายใต้โครงการ Smart Senior Care Business ดำเนินกิจกรรมเดือนพฤศจิกายน 2565

ธุรกิจดูแลผู้สูงอายุ

3) ธุรกิจบริการความงามและสุขภาพ (Wellness) เป็นการดูแลสุขภาพของคนทุกช่วงวัย ตั้งแต่วัยเด็ก วัยทำงาน ไปจนถึงผู้สูงอายุ นอกจากนี้ ยังครอบคลุมอีกหลายภาคส่วน เช่น การท่องเที่ยวสุขภาพ โภชนาการเพื่อสุขภาพ การชะลอวัย การออกกำลังกายและจิตใจ รวมทั้งการแพทย์แผนดั้งเดิมและการแพทย์ทางเลือก เป็นต้น กรมพัฒนาธุรกิจการค้า เตรียมจัดกิจกรรมส่งเสริมการค้าธุรกิจบริการด้วยการตลาดดิจิทัล เพิ่มยอดขายสร้างรายได้แก่ธุรกิจ เชื่อมโยงกับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวไทยที่กลับมาคึกคักอีกครั้ง ก่อให้เกิดการจ้างงานและกระจายรายได้สู่ชุมชนทั่วประเทศ ดำเนินกิจกรรมระหว่างเดือนกุมภาพันธ์-สิงหาคม 2566

ทั้งนี้ ภาครัฐพร้อมให้การสนับสนุนภาคธุรกิจบริการเต็มที่ เชื่อมโยงเครือข่ายธุรกิจ และจะเป็นตัวกลางช่วยประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อให้ธุรกิจบริการกลุ่มเป้าหมายได้รับความสะดวกรวดเร็วในการประกอบธุรกิจ พร้อมทั้งเสริมสร้างศักยภาพให้ผู้ประกอบการมีความเข้มแข็งเป็นที่ยอมรับทั้งในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งจะเป็นการสร้างความยั่งยืนในการประกอบธุรกิจ สร้างรายได้เข้าประเทศ และส่งผลดีต่อการพัฒนาเศรษฐกิจในภาพรวมต่อไป”


ปัจจุบัน (ข้อมูล ณ วันที่ 31 ตุลาคม 2565) 3 ธุรกิจบริการเป้าหมายที่เป็นนิติบุคคล มีจำนวนทั้งสิ้น 22,029 ราย ทุนจดทะเบียนรวม 137,626.23 ล้านบาท แบ่งเป็น ธุรกิจร้านอาหาร 18,263 ราย ทุนจดทะเบียน 117,554.12 ล้านบาท ธุรกิจดูแลผู้สูงอายุ 654 ราย ทุนจดทะเบียน 3,955.80 ล้านบาท ธุรกิจบริการความงามและสุขภาพ (Wellness) 3,112 ราย ทุนจดทะเบียน 16,116.32 ล้านบาท